ออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหา อุ้มฆ่า "ดีเจเตเต้" แฟนสาวเชื่อปมเหตุ พัวพันเมียพ่อค้ายา

กรณีนายวิเชียร โพสต์ตามหาลูกชาย คือ นายวราพงษ์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี ที่ถูกกลุ่มชายปริศนาตามประกบ ขณะไปพบนิตยา หญิงสาวที่กำลังติดพัน ก่อนถูกอุ้มขึ้นรถหายตัวไป จากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี ตั้งแต่ตี 3 ของวันที่ 14 พฤษภาคม เกรงว่าลูกจะเป็นอันตราย เบื้องต้นตำรวจตั้งปมเรื่องชู้สาว เนื่องจากดีเจเตเต้หน้าตาดี และมีหญิงสาวมาติดพันหลายคน หนึ่งในนั้นคือ นางสาวน้ำ ซึ่งมีสามีอยู่แล้ว



ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลตำรวจโทนัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำทีมตำรวจ เข้าตรวจสอบจุดพบศพของดีเจเตเต้ หลังคนหาของป่าไปเจอ แล้วมาแจ้งตำรวจ จุดที่พบศพอยู่กลางป่าลึก ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี การเดินทางค่อนข้างลำบาก ต้องใช้รถโฟวีลลุยป่า 20 นาที และเดินเท้า จึงพบศพดีเจเตเต้ ในสภาพนอนตะแคง มีเชือกเปล สีเขียว มัดมือทั้งสองข้างไพล่หลัง เริ่มบวมอืดมีหนอนชอนไช ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น พบรอยคล้ายกระสุนปืนที่บริเวณกระหม่อม 2 นัด จึงนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง



ชาวบ้านที่พบศพคนแรก ให้ข้อมูลว่า เมื่อ 3 วันก่อน ได้เข้ามาเก็บของป่าและเห็ด วันนั้นมีฝนตกท้องฟ้ามืดครึ้ม ทำให้เดินหลงทาง เข้ามาบริเวณจุดที่พบศพ เห็นขาของศพยื่นออกมาจากชายป่า แต่ไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ๆ และรีบกลับบ้านทันที หลังจากนั้นก็เห็นแต่ภาพขาศพลอยวนเวียนในหัวทั้งคืน จึงไปเล่าให้กับญาติฟัง ประกอบกับเห็นข่าวดีเจเตเต้ วันนี้จึงได้ตัดสินใจกลับเข้าไปยังจุดที่พบศพอีกครั้ง และเห็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของศพตรงกับที่ดีเจเตเต้ใส่ในคืนก่อนหายตัวไป จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ



ด้านนางสาวเปรมยุดา แฟนสาวของดีเจเตเต้ ให้ข้อมูลว่า ก่อนจะเกิดเรื่อง เคยพูดคุยกับดีเจเตเต้หลายครั้ง ว่าขอให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับนางสาวน้ำ ซึ่งดีเจเตเต้ก็บอกว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกันแล้ว ก็ไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้ จะรุนแรงถึงขั้นต้องเอาชีวิตกัน



ขณะที่ นายวิเชียร พ่อของดีเจเตเต้ กล่าวว่า หลังจากได้พบศพแล้วก็รู้สึกเบาใจขึ้น อย่างน้อยก็ได้เจอศพลูก หลังจากนี้ก็จะเข้าไปทำพิธีเชิญวิญญาณ และนำศพของลูกกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนเรื่องของคดีความให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการติดตามคนร้าย ส่วนพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะถึง 2 นัด ถือว่าโหดเหี้ยมมาก อยากให้ตำรวจจับคนร้ายได้ทั้งหมดโดยเร็ว



ส่วนความคืบหน้าทางคดี เมื่อวานนี้ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี นำตัวผู้ต้องสงสัย 2 คน คือ นายกุน และนายธนเดช มาสอบปากคำ ซึ่งนายกุน เป็นเจ้าของรถกระบะโตโยต้าสีขาว ที่ต้องสงสัยว่าเป็นรถที่ใช้ร่วมก่อเหตุ ปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดอะไร ส่วนนายธนเดช คนขับรถกระบะสีขาว บอกว่า ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของดีเจเตเต้ เบื้องต้นตำรวจนำทั้งคู่ ส่งฝากขังศาลจังหวัดกาญจนบุรี ในข้อหาเสพยาเสพติดก่อน ซึ่งทั้งคู่ประกันตัวไปแล้ว



ต่อมาหลังจากพบศพดีเจเตเต้ ตำรวจได้เข้าจับกุม นายธนเดช เชื้อทอง หนึ่งในผู้ต้องสงสัย 2 คนแรก หลังศาลจังหวัดกาญจนบุรีอนุมัติหมายจับ ขณะนี้ถูกคุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองกาญจนบุรี



ล่าสุดวันนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 4 คน ได้แก่ นายนพพิจิตร เดือนฉาย คนขับรถเก๋งคันสีดำ นายภัคนัท แจ่มน้อย เป็นคนที่นั่งประกบในรถเก๋ง นายธราเทพ ใบบัว ทำหน้าที่ชี้เป้า และนายณรงค์เดช อ่อนละมุน เจ้าของบ้านที่ผู้ต้องหาไปรวมตัว



โดยมีข้อกล่าวหาทั้งหมด 12 ข้อหา ในจำนวนนี้มี 5 ข้อหาหนัก คือ 1.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น โดยขู่เข็ญให้กลัว และร่วมกันอั้งยี่ซ่องโจร 2.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันซ่อนเร้นหรือทำลายศพ 3.ร่วมกันกระทำการต่อศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น 4.ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะกระทำผิด และ 5.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต



ซึ่งในวันนี้ พลตำรวจโทนัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 จะเรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานออกติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับที่เหลืออีก 4 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/InLnQYJVPqc