สังคม
เกือบครบ 24 ชม. ไฟไหม้โรงงานย่านลาดกระบัง ยังดับไม่ได้ 'ชัชชาติ' ลงพื้นที่ เผยภายในมีเชื้อเพลิงอย่างดี
12 พ.ค. 2568
74 views
ผ่านมา 20 ชั่วโมงแล้ว ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังสินค้าขนาดใหญ่ ซอยฉลองกรุง 55 จนถึงขณะนี้เพลิงยังไม่ดับ
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ 4 โมงเย็นวานนี้ (11พ.ค.68) เป็นโกดังเฟอร์นิเจอร์ "เฟอร์นิเจอร์คิงส์" ของบริษัท สยามเฮ้าส์ แอนด์ โฮม จำกัด ตั้งอยู่ซอยฉลองกรุง 55 ย่านตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่เก็บเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ครัว ไม้อัด และวัสดุไวไฟจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำกว่า 50 คัน เพื่อควบคุมเพลิง ใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้
สำหรับต้นเพลิงอยู่ใกล้กับปล่องลิฟต์ บริเวณทางออก 3 ของอาคารโกดังโรงงาน แต่ด้วยสภาพโดยรอบมีความแคบ ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไม่ถึงจุดต้นเพลิง แต่ยังมีแสดงเพลิง และควันสีดำพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้
เมื่อคืนนี้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา (ดร.จอร์น) ประธานสภาฯ กทม. พร้อมนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์ที่โรงเรียนลำพะอง และตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่โรงเรียนแห่งนี้ โดยจัดรถสุขาเคลื่อนที่ น้ำดื่ม อาหารมาอำนวยความสะดวก เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากควัน
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ บอกว่า ในโกดังมีพวกเม็ดพลาสติกเก็บไว้ด้วย ทำให้ควันที่ออกมาเป็นอันตราย แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่จำกัดวงการลุกไหม้ได้แล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ การยุบตัวของพื้นชั้น 1 และกลุ่มควันที่ลอยออกมาจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 สี ได้แก่ สีดำ ที่มาจากเชื้อเพลิงที่เป็นเม็ดพลาสติก และสีเทาเข้ม มาจากเม็ดพลาสติกที่ขึ้นรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์แล้ว ซึ่งจะส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชน ตอนนี้ได้ประสานสำนักสิ่งแวดล้อมตรวจสอบและเฝ้าระวังแล้ว
ทีมข่าวลงพื้นที่ซอยฉลองกรุง 53 เป็นซอยใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ ตลอดทั้งซอยสามารถมองเห็นกลุ่มควันที่พวยพุ่งออกมาต่อเนื่อง เมื่อเดินไปจนถึงด้านหลังโรงงานจะพบอู่ซ่อมรถ ที่อยู่ห่างจากโรงงานไม่กี่ 10 เมตร นาย กัลยศักดิ์ ควรคงพิมพ์ อายุ 47 ปี เจ้าของอู่ บอกว่า ราวบ่าย 3 โมงครึ่งวานนี้ (11พ.ค.68) เห็นเพลิงไหม้มาจากโรงงาน จึงคนโทรศัพท์ไปแจ้งเหตุ และไฟที่ไหม้อย่างรุนแรง ทำให้ไอความร้อนมาถึงบ้าน ควันก็พุ่งเข้ามาบริเวณบ้าน แต่พวกเขายืนยันที่จะไม่ออกนอกพื้นที่ เพราะห่วงรถของลูกค้าที่มาฝากซ่อมไว้
ไม่ต่างจาก นาง สงกรานต์ สว่างการ อายุ 76 ปี เล่าว่า เห็นเพลิงไหม้ตั้งแต่เย็นวานนี้ก็รีบปิดประตูหน้าต่างทันที เพื่อไม่ให้ควันเข้ามาภายในบ้าน เพราะเธอเป็นห่วงสุนัขที่เลี้ยงไว้ และเมื่อคืนแม้เจ้าหน้าที่จะมาบอกให้ย้ายออก แต่เธอก็ไม่ไป กระทั่งเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่เข้าไปเกลี้ยกล่อมอีกรอบ บอกว่า หากเกิดไฟลุกลาม หรือเกิดระเบิดจะไม่มีใครสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ เธอจึงยอมออกมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้พาสุนัขไปด้วย เธอจึงคลุกข้าวเอาไว้ให้ในบ้าน
ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนกังวลเรื่องผลกระทบหลังจากเพลิงสงบ ทั้งกลิ่น และซากอาคารที่ตกลงในบ้านเรือนในชุมชน อย่างนาย ประเสริฐ พิกุลทอง บอกว่า บ้านอยู่ในชุมชนหลังโรงเรียนลำพะองติดกับโรงงานที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น และเห็นไฟไหม้รุนแรง โชคดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาระดมฉีดน้ำไม่ให้เพลิงลุกไหม้มายังชุมชน และโรงเรียน แต่ปัญหาที่พบ คือ ตอนนี้มีกลุ่มความจำนวนมากลอยเข้ามาในชุมชน ซึ่งในชุมชนมี 13 หลังคาเรือนมีทั้งเด็กคนแก่ผู้ป่วยติดเตียง รวมกันราว 50 คน ตอนนี้ได้อพยพออกมาเกือบหมดแล้ว แต่สิ่งที่ชาวบ้านเป็นกังวลคือ หากเมื่อเพลิงสงบแล้ว พวกกลุ่มควันเขม่าที่ปกคลุม ใครจะช่วยเหลือทำความสะอาด และก่อนหน้านี้โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเพลิงไหม้แล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นคนงานช่วยกันดับได้ทัน
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/kDZz0I8CTEk
แท็กที่เกี่ยวข้อง