ม.รังสิต ตั้งโต๊ะรับเรื่อง นศ. เหยื่อ "หอ หึหึ" พบผู้เสียหายเข้าร้องแล้วทะลุ 50 ราย

มหาวิทยาลัยรังสิตตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกกรณี ผู้เสียหายร้องเรียนหอพัก ล่าสุดยอดผู้เสียหายพุ่ง 40 ราย ด้านฝ่ายปกครองท้องถิ่นพร้อมฟันเอาผิดเรื่องการ เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพ.ร.บ.หอพักและ พ.ร.บ.สาธารณสุข จ่อฟันภาษีรายได้ด้วย ขณะที่ทางคดีตำรวจ พร้อม สคบ.เอาผิดทั้งแพ่งและอาญา



โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้เสียหายที่ถูกยึดเงินประกัน เงินมัดจำและยึดทรัพย์สินใน หอพัก ย่านรังสิต เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ที่ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร 1 มหาวิทยาลัยรังสิต



โดยรองศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ พันตำรวจโท กฤษณพงค์ พูตระกูล อาจารย์คณะอาชญาวิทยา และการบริหารงานยุติธรรมมหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า วันนี้ มีผู้เสียหาย เดินทางมาแจ้งความจำนงที่ต้องการดำเนินคดีกับเจ้าของหอพักดังกล่าวแล้วจำนวนกว่า 40 ราย คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก เพราะมีปัญหามาเป็นเวลานาน



โดยวันนี้ จะประเมินสถานการณ์อีกครั้งหากยังมีผู้เสียหายมาอย่างต่อเนื่องก็จะเปิดศูนย์ฯรับเรื่องต่อไปอีก แต่หากศูนย์นี้ปิดแล้ว นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากหอพักดังกล่าว ก็สามารถมาแจ้งกับทางมหาวิทยาลัยได้



ด้านนางสาววิพร แววศรีผ่อง ปลัดอำเภอเมืองปทุมธานี ระบุว่า ผู้ว่าฯปทุมธานี ทราบเรื่องและเร่งให้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว เบื่องต้นเรื่องการขออนุญาติขึ้นกับเทศบาลตำบลหลักหก พบว่า หอพักนี้ไม่ได้ขออนุญาติอย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ.หอพักและต้องตรวจสอบเพิ่มเติมเรื่อง พ.ร.บ.สาธารณะสุข ภาษีป้ายโรงเรือนและภาษีรายได้ด้วย รวมถึงการก่อสร้างทางเข้า ออก รุกร้ำทางเท้าทางสาธารณะหรือไม่ โดย กำหนดกรอบเวลา 3 วัน ต้องส่งรายงานมาที่จังหวัด



นอกจากนี้ ปลัดอำเภอเมืองปทุมธานี ยังตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่กองช่างของเทศบาลตำบลหลักหก ฐานปล่อยปละละเลย ให้อาคารดังกล่าวที่ก่อสร้างไม่ตรงตามแบบการขออนุญาตเปิดให้บริการมาเกือบ 20 ปี



นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่าหอพักในพื้นที่ตำบลหลักหกมีหอพักเกือบ 200 แห่ง แต่มีหอพักเพียง 2 แห่งที่ขออนุญาติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีสั่งให้ตรวจสอบเพิ่มเติมทั้งจังหวัดแล้ว



ด้านนายฤทธิรอน ทวีทรัพย์ ผอ.ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ สคบ.กล่าวว่า ตรวจสอบหอพักดังกล่าวแล้ว พบเรื่องสัญญาไม่เป็นธรรม รวมถึงการเก็บค่าเช่า ซึ่ง สคบ.จะดำเนินการสืบสวนเพื่อเอาผิดทั้งแพ่งและอาญา ส่วนเรื่องเงินประกันของผู้เช่ามีสิทธิที่จะได้คืน แต่มีเรื่องเงื่อนเวลาต้องอยู่ให้ครบสัญญาหรืออยู่เกินกึ่งหนึ่งจึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและขอเงินประกันคืนได้ แต่ทางหอพักก็สามารถหักเงินประกันได้เช่นกัน



ขณะที่ พลตำรวจตรียุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย พันตำรวจเอก พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผู้กำกับการ สภ.ปากคลองรังสิต เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจเดินหน้าเอาผิดกับเจ้าของหอพักทุกกรณี แม้ว่าสามีเจ้าของหอพักเคยเป็นอดีตนายตำรวจก็ตาม แต่พวกตนไม่ได้กังวล และไม่สามารถที่จะมาแทรกแซงการทำคดีได้


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/lNXfyq07FrY