ผอ.รพ. เมาขับรถหลวงเสยร้านอาหาร 2 ช่างภาพทีวีสาหัส แถมกินนมเปรี้ยวก่อนเป่าแอลฯ "สมศักดิ์" ฮึ่ม จ่อฟันทั้งวินัย-อาญา

ผอ.โรงพยาบาล ขับรถหลวงพุ่งขึ้นฟุตบาธ ชนช่างภาพทีวีส่วนกลาง เจ็บสาหัส 2 คน ตำรวจขอตรวจวัดแอลกอฮอล์ ลีลาขอกินนมเปรี้ยว ผ่านไป 3 ชั่วโมง จึงยอมเป่า พบแอลกอฮอล์ในเลือด 119 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น



กล้องวงจรปิดหน้าร้านอาหาร ในอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เผยให้เห็นนาทีอุบัติเหตุรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว พุ่งเข้าหน้าร้านอาหาร แล้วชนข้าวของกระจุยกระจาย มีคนที่เดินอยู่หน้าร้านได้รับบาดเจ็บ 2 คน



ขณะที่กล้องวงจรปิดในร้าน ก็สามารถจับภาพไว้ได้ ช่วงที่ลูกค้ากำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ จู่ ๆ รถฟอร์จูนเนอร์ก็พุ่งเข้าใส่อย่างแรง เหตุเกิดช่วง 4 ทุ่มที่ผ่านมา



ต่อมาตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ เข้าตรวจสอบ พบผู้บาดเจ็บสาหัส 2 คน คือ นายเอส อายุ 33 ปี ช่างภาพอัมรินทร์ทีวี และนายทศวรรษ อายุ 35 ปี ช่างภาพไทยรัฐทีวี ถูกรถพุ่งชนจนล้มฟาดพื้นอย่างแรง จึงรีบพาส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน



รถคันก่อเหตุเป็นรถโตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ สีขาว ทะเบียน กฉ 34 ชัยภูมิ พบร่องรอยการชนบริเวณกันชนหน้ารถ ข้างรถมีข้อความ "กระทรวงสาธารณสุข" ส่วนคนขับ คือ นายแพทย์พุทธา สมัดไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองบัวแดง



เบื้องต้นมีพยาน ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ผอ.พุทรา เพิ่งออกมาจากร้านอาหารกึ่งบาร์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ขับพุ่งขึ้นฟุตบาธอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีทีท่าจะชะลอรถ แล้วพุ่งชนผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายอย่างจัง



ต่อมา ตำรวจได้เชิญตัวนายแพทย์พุทธา ไปสอบสวนที่โรงพัก พร้อมขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด เบื้องต้น ผอ. ยอมรับว่า เมา หลังจบงานแห่เจ้าพ่อพญาแล ก็มานั่งดื่มสังสรรค์กัน ตอนขับผ่านจุดเกิดเหตุ ไม่รู้สึกว่ามีใครเดินอยู่ ยืนยันจะรับผิดชอบทุกอย่าง ไม่ได้หนีไปไหน



แต่ ผอ.กลับประวิงเวลา เรื่องการตรวจวัดแอลกอฮอล์ โดยได้ขอดื่มน้ำ ขอเข้าห้องน้ำ และดื่มนมเปรี้ยวจากเพื่อนร่วมกลุ่มอยู่ตลอดเวลา เมื่อเพื่อนผู้บาดเจ็บตามเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อขอให้ ผอ.ออกมาเป่าแอลกอฮอล์ กลับถูกคนของ ผอ. ห้ามถ่ายรูป ขณะที่ลูกชาย ผอ. ถามว่า พ่อผมกินนมเปรี้ยวกับน้ำเปล่าไม่ได้เหรอ แถมลูกน้อง ผอ.ยังมาต่อว่า ทีมข่าวว่า ไม่มีความเมตตา ทำข่าวฆ่าคน



ผ่านไป 3 ชั่วโมง ผอ.จึงยอมมาเป่าแอลกอฮอล์ แต่ก็เจออุปสรรคอีก เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ที่มี 1 อัน ดันพัง ต้องหาอันใหม่มาตรวจ วันเวลาไม่ตรงกัน กว่าจะได้เป่า โดยเป่าไป 2 ครั้ง วัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 119 และ 107 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ทำให้ตั้งข้อสงสัยว่า ถ้าเป่าตั้งแต่แรก จะสูงกว่านี้หรือไม่ ในที่สุดตำรวจเชิญตัว ผอ.ไปเจาะเลือดตรวจแอลกอฮอล์ที่โรงพยาบาล



เรื่องนี้คุณสมศักดิ์ ในฐานะรัฐมนตรีสาธารณสุข บอกว่ากรณีผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมาแล้วขับ เป็นความผิดร้ายแรง ก็ย้ำจะดำเนินการเต็มที่ ทั้งวินัยและอาญา ให้เป็นคดีตัวอย่าง



คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พูดถึงกรณีที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิเมาแล้วขับรถชนทีมข่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส และไม่ยอมตรวจวัดแอลกอฮอล์ขณะเกิดเหตุ ว่า ส่วนแรก ได้โทรศัพท์ไปหาผู้อำนวยการโรงพยาบาล ที่ผู้บาดเจ็บไปรักษาตัวให้ดูแลอย่างเต็มที่



ส่วนเรื่องการเมาแล้วขับ กระทรวงสาธารณสุขและตำรวจ จะดำเนินการเต็มที่ในเรื่องของคดีความ



ก็พูดถึง เหตุการณ์ที่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนดังกล่าว ที่ไม่ยอมตรวจวัดแอลกอฮอล์ขณะเกิดเหตุ รวมถึงการนำรถของราชการมาใช้นอกเวลาจนเกิดอุบัติเหตุ



ยืนยันว่าไม่ต้องห่วงเรื่องวินัยจะทำเต็มที่ ต้องดูทุกกรณี อะไรที่ผิดก็ต้องลงโทษ ซึ่งขณะนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขดูแล้ว



*-ส่วนกรณีที่ทีมที่มากับผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าวไปข่มขู่ทีมข่าวเรื่องการเป่าแอลกอฮอล์ถึงในห้องน้ำ ทั้งที่กระทรวงสาธารณสุขย้ำมาตลอดว่าเมาแล้วห้ามขับ ถือว่ามีความผิดร้ายแรงหรือไม่ // คุณสมศักดิ์ บอกว่า เป็นเรื่องร้ายแรง และขอให้สบายใจ ว่าทางกระทรวงจะทำให้เรื่องนี้เป็นคดีตัวอย่าง



เมื่อถามว่าจะต้องให้ผู้อำนวยการคนดังกล่าวออกจากราชการไปก่อนหรือไม่ คุณสมศักดิ์ บอกว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลา เพราะมีขั้นตอน แต่จะทำให้เต็มที่




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/KMkL0ywEo58