แม่ท้อง 7 เดือนร้อง "ปวีณา" เจ็บท้องจะคลอด หมอฉีดยายั้งการคลอด สุดท้ายลูกตายในท้อง

2 สามีภรรยา จากจังหวัดกำแพงเพชร เดินทางเข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรม หลังภรรยาตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน แล้วมีอาการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด แต่โรงพยาบาลประจำอำเภอ และโรงพยาบาลประจำจังหวัด ให้ยายับยั้งการคลอด ทั้งแบบฉีดและแบบกิน สุดท้ายพบว่าเด็กในครรภ์เสียชีวิต ทำให้ครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของเด็ก ว่าเกิดจากแพทย์ให้ยาเกินขนาดหรือไม่



เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สองสามีภรรยา เดินทางมาจากจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเข้าพบกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอความช่วยเหลือ อยากให้มูลนิธิฯ ช่วยตรวจสอบสาเหตุการณ์เสียชีวิตของลูกในครรภ์ วัย 7 เดือน



คุณแม่ของเด็ก อายุ 39 ปี เล่าให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯฟังว่า เธอตั้งท้อง ได้ไปฝากครรภ์กับโรงพยาบาลประจำอำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร จนเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา เธอมีอาการปวดท้องเหมือนจะคลอดลูก จึงเดินทางไปโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ แพทย์ได้ตรวจอาการ พร้อมกับให้ยายับยั้งการคลอด ทั้งยาฉีด 2 เข็ม และยากิน 4 เม็ด



ต่อมาเช้าวันที่ 19 เมษายน โรงพยาบาลประจำอำเภอ ทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่าเกินศักยภาพของโรงพยาบาลในการรักษา เมื่อไปถึงโรงพยาบาลประจำจังหวัด แพทย์ได้ฉีดยาและให้กินยายับยั้งการคลอดเพิ่มอีก จากนั้นก็ทำเรื่องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่ 3 ที่เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่กว่า อยู่ในจังหวัดข้างเคียง



เมื่อมาถึงโรงพยาบาลที่ 3 แพทย์ได้ตรวจครรภ์ ด้วยการอัลตราซาวน์ จากนั้นแพทย์แจ้งกับครอบครัวว่า ลูกในครรภ์เสียชีวิตแล้ว ทำให้ตนเองและครอบครัวช็อค รู้สึกเสียใจอย่างมาก และสับสนว่าทำไมลูกถึงเสียชีวิต จากนั้นโรงพยาบาลที่ 3 ได้ส่งแม่เด็กไปยังโรงพยาบาลที่ 4 เพื่อให้ยา และนำเด็กที่เสียชีวิตออกมาจากครรภ์ หลังทราบว่าเด็กเสียชีวิตในวันที่ 23 เมษายน แต่นำเด็กออกมาได้ในวันที่ 25 เมษายน



ด้านางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า ล่าสุดได้ประสานผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษณ์ ให้ครอบครัวเข้าไปแจ้งความเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ทางตำรวจจะส่งเด็กมาชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต



ขณะเดียวกันได้ประสานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อเข้าตรวจสอบขั้นตอนการรักษาของโรงพยาบาลแล้ว มูลนิธิจะตามเรื่องนี้ใกล้ชิดจนได้ข้อสรุป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jWM86lRtqp8