หนุ่มขี่จยย.จะไปช่วยแม่ขายส้ม เจอกระบะเลี้ยวกะทันหัน อีกคันเสียหลักหมุนมาชน เจ็บสาหัส นอนติดเตียง ไร้เยียวยา

หนุ่มขี่รถมอเตอร์ไซค์ จะมาช่วยแม่ขายส้ม แต่ถูกกระบะคันข้างหน้าเลี้ยวเข้าซอยกะทันหัน ทำให้รถอีกคันที่สวนเลนมาชนท้ายกระบะ และหมุนมาชนกับรถจักรยานยนต์ อย่างจังจนบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้นอนป่วยติดเตียง ไร้การเยียวยาจากคู่กรณี



เพจดราม่าแอ็ดดิคโพสต์ เรื่องราวเกี่ยวกับอุบัติเหตุของชายหนุ่มรายหนึ่งที่ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนน แต่ถูกรถกระบะคันที่ขับนำหน้าเลี้ยวขวากระทันหัน ทำให้รถกระบะอีกคันที่วิ่งสวนเลนส์มา ชนท้ายรถกระบะและเสียหลักหมุนมาชนกับรถจักรยานยนต์ ของหนุ่มรายนี้ สภาพรถพังยับเยิน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ตำบลแม่สิน อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย



ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้ พูดคุยกับ นายยอดชาย คนขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุ เล่าให้ฟังว่าในวันดังกล่าวตนออกไปช่วยแม่ ขายส้มที่ตลาด ช่วงพักกลางวันตนขี่รถจักรยานยนต์ มากินก๋วยเตี๋ยว พอขากลับ ก็วิ่งมาตามทางปกติ ซึ่งถนนจุดนี้เป็น 2 เลนส์สวนกัน ตนขับตามรถกระบะคอก (กระบะอีกคัน) คันนึงมา แต่จู่ๆ รถกระบะคันดังกล่าว เลี้ยวขวาเข้าซอยกะทันหัน ทำให้รถกระบะอีกคันที่วิ่งสวนเลนส์มา ชนเข้ากับช่วงท้ายของรถกระบะคันแรก แล้วเสียหลักมาชนกับรถจักรยานยนต์ของตน ซึ่งจังหวะนั้นแทบจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ เพราะไวมากและมีคนเห็นเหตุการณ์บอกว่า ตนสลบไปพักหนึ่ง มารู้ตัวอีกทีคือมีคนพยายามปลุกเรียกสติ ซึ่งตนรู้สึกเจ็บและชาที่บริเวณขาขวา หลังจากนั้นก็มีรถพยาบาลมานำตัว ตนส่งโรงพยาบาลศรีสัชนาลัย พบว่า คางแตกถึงกระดูก ไหปลาร้าซ้ายหัก หากทำการรักษาที่โรงพยาบาลแรกส่งต่อไปโรงพยาบาลศรีสังวร เอกซเรย์ ขาขวาหัก อีก 2 ท่อน ต้องทำการผ่าตัดด่วน



หลังจากนั้นก็พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกว่า 10 วันและกลับมาพัก รักษาตัวต่อที่บ้าน ต้องทำกายภาพบำบัดทุกวัน และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ช่วงแรกที่แม่ต้อง ออกไปขายส้มเพื่อหาเงิน ก็ต้องจ้างพี่เลี้ยง วันละ 700 บาท เพื่อมาดูแลตน เงินที่หาได้ ไม่พอกับค่าใช้จ่ายต่างๆ แม่ถึงต้องหยุดขายส้มและมาดูแลตน



ส่วนคู่กรณีรถกระบะคันที่เลี้ยวขวากระทันหัน บอกว่าจะช่วยเยียวยาได้เต็มที่ 50,000 บาท ส่วน กระบะคอก คันที่ขับ ตรงมามีประกันชั้น 1 แต่ แต่ยังไม่ ยอมช่วยเหลือเยียวยาอะไร อ้างว่าให้รอตำรวจสรุปสำนวนคดี ซึ่งที่เกิดเหตุ มีกล้องวงจรปิดที่คู่กรณี (กระบะคันที่ขับตรง) ไปขอมาจากร้านค้าแถวนั้น ก่อนที่ตำรวจจะไปถึง ซึ่งกล้องตัวนี้จะเห็นว่า คู่กรณีขับรถมา ด้วยความเร็ว ขนาดไหน ซึ่งไม่รู้ว่าได้ส่งมอบให้ตำรวจไปหรือยัง



ส่วนแม่ของคุณยอดชายบอกว่า เธอมีกันอยู่แค่สองคนแม่ลูก ซึ่งลูกเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยง ครอบครัวด้วยการออกไปขายส้ม ซึ่งวันดังกล่าว ลูกชายก็ออกไปขายส้มตามปกติเหมือนทุกวัน แต่มาเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ชีวิตครอบครัวพลิก จากหน้ามือเป็นหลังมือ ลำบากและเดือดร้อนมาก ไม่สามารถออกไปขายส้มได้เหมือนเดิม เพราะปกติลูกชายจะเป็นคนขับรถออกไปรับส้มมาเพื่อไปขาย เธอก็ต้องอยู่บ้านคอยดูแลลูกโดยที่ไม่มีรายได้เลย และลูกชายไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทุกเช้าเธอต้องตื่นมา เตรียมหาข้าวปลาอาหารให้ลูกกินและพาทำกายภาพบำบัด รวมถึงเก็บถุงปัสสาวะ อุจาระให้ลูกด้วย



ในขณะที่ คู่กรณี รถกระบะคันที่เลี้ยวขวากระทันหัน บอกว่าจะช่วยเหลือเยียวยา 50,000 บาทซึ่งมีการ จ่ายมาแล้ว 10,000 บาทเธอก็นำไปเป็นค่ารักษาพยาบาลลูกหมดแล้ว ส่วนรถกระบะคอกที่ขับตรงมา จริงก็เป็นแม่ค้าขายผลไม้ด้วยกันในตลาด เขายังสามารถไปขายของ ขายผลไม้ได้ตามปกติ โดยที่ไม่มีการช่วยเหลือหรือเยียวยาครอบครัวเธอเลย แม้แต่บาทเดียว อ้างว่าให้รอคดี รอประกันอย่างเดียว และเธอทราบมาว่า คู่กรณีก็ไปเอากล้องวงจรปิดจุดที่เกิดเหตุจากร้านแถวนั้นด้วยโดยที่ตำรวจเองก็ยังไม่ได้ไป เธอจึงอยากขอความเป็นธรรมผ่านสื่อให้ช่วยเหลือลูกชายและครอบครัวเธอด้วย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JntPr_ECiow