สังคม

ค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึกสตง.ถล่ม วันที่ 4 พบอีกกว่า 70 ร่างรวมอยู่ใต้ซากบริเวณชั้น 17-21 ยังหวังปาฏิหาริย์พบผู้รอด

โดย panwilai_c

1 เม.ย. 2568

191 views

สำหรับปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง. ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่ม วันนี้เข้าสู่วันที่ 5 มีทีมค้นหาจากนานาประเทศเข้าร่วมภารกิจ ล่าสุดพบอีก 70 กว่าร่างอยู่บริเวณชั้น 17-21 ของตึกที่ถล่ม



สำหรับปฏิบัติการค้นหาตอนนี้มีกว่า 500 นาย ทั้งทีมกู้ภัยนานาชาติจากสหรัฐอเมริกา / ชิลี / อิสราเอล / จีน / ไต้หวัน และฝรั่งเศส เข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ของไทยประชุมวางแผนการค้นหากันอีกครั้ง หลังผ่านช่วง Golden Hour หรือ 72 ชั่วโมงแรกหลังเกิดเหตุไปแล้ว โดยเน้นการค้นหาแบบปูพรม เน้นการค้นหา - กู้ชีพ - กู้ภัย (Search & Rescue Mission)



เมื่อคืนนี้มีการปรับแผนปูพรมเดินเท้าแทนการใช้เครื่องมือหนัก โดยเริ่มภารกิจตั้งแต่ 3 ทุ่ม จนถึง 8 โมงเช้าวันนี้ (1เม.ย.68) ทีมค้นหากว่า 500 นาย ปูพรมเข้าค้นหาใน 3 โซนหลักที่คาดว่าจะมีผู้ประสบภัยติดอยู่ ทั้งโซน B โซน C และโซน D โดยใช้โดรนจับความร้อน เครื่องเอกซเรย์สแกนพื้นที่ อุปกรณ์ทันสมัยจากเจ้าหน้าที่ต่างชาติ รวมทั้งนำสุนัขกู้ภัย K9 เข้าร่วมภารกิจ และหยุดใช้เครื่องมือหนักทุกชนิด เพราะหวังว่าอาจจะยังมีผู้รอดชีวิต



ผลของการเดินเท้าปูพรม นาย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจการพิเศษ มูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า จากการสแกนพื้นที่ในช่วงเช้า พบว่ามีร่างของผู้สูญหายอยู่ที่ความลึกบริเวณชั้นที่ 17-21 โดยจุดดังกล่าวอยู่บริเวณกึ่งกลางของซากอาคาร ซึ่งพบร่างผู้สูญหาย 70 กว่าร่าง แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นร่างของผู้รอดชีวิตหรือผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยบริเวณชั้นดังกล่าวคือจุดที่คนงานมารวมตัวกันเพื่อพักกลางวัน



แต่มีอุปสรรคสำคัญ คือ โครงสร้างอาคารที่อยู่บริเวณช่วงกลางมีความเสี่ยงสูงที่จะพังถล่มลงมา อาจก่อให้เกิดอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อกู้ภัยผู้ปฏิบัติงาน จึงต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ยกซากขึ้นมาจากบริเวณตรงกลาง แล้วค่อยส่งคนลงไปตรวจสอบ ซึ่งทีมกู้ภัยยังคาดหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิต



เมื่อช่วง 9 โมงครึ่งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เริ่มระดมรถขุดเจาะและเครนขนาดยักษ์ ทั้งจากของกู้ภัย กองพันทหารช่างและเอกชน เข้ามายังพื้นที่อาคารถล่ม เพื่อเริ่มปฏิบัติการในระยะของการเคลียร์และรื้อเศษซากของอาคาร สำหรับการค้นหาร่างผู้สูญหายในพื้นที่



สำหรับยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 13 ราย เป็นชาย 8 ราย และหญิง 5 ราย สูญหายอีก 74 ราย



ร่างของผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และเช้าวันนี้นาย รุ่งโรจน์ แขมคำ ก็เดินทางไปรับศพภรรยา คือ นางสาว วิภาคำ พรหมภักดี อายุ 40 ปี เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 13 ที่เจ้าหน้าที่เพิ่งเจอเมื่อคืนนี้



นาย รุ่งโรจน์ ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่เกิดเหตุกินไม่ได้นอนนอนไม่หลับ เฝ้าติดตามสถานการณ์ในการค้นหาผู้รอดชีวิตมาตลอด กระทั่งเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่นำภาพศพมาให้ดู แล้วถามว่า ใช่ภรรยาหรือไม่ ทันทีที่เห็นแหวนที่นิ้วชี้ขวา ก็รู้ทันทีว่านี่ คือ ภรรยาของเขา เพราะเป็นแหวนที่ภรรยาใส่ติดตัวเป็นประจำไม่เคยถอด แม้จะมีราคาแค่ 50 บาทก็ตาม



เขายังจำภาพสุดท้ายกับภรรยาในวันเกิดเหตุได้ ตอนเที่ยงทั้งคู่นั่งกินข้าวด้วยกัน หลังจากกินข้าวเสร็จ ภรรยาก็แซวว่า "หัวมึงหงอกเยอะแล้วนะ กูถอนให้" เขาก็แปลกใจเพราะที่ผ่านมาภรรยาไม่เคยทำอะไรแบบนี้ จากนั้นก็แยกกันไปทำงาน ภรรยาไปขับลิฟต์รับส่งคนงานอยู่บริเวณชั้น 28 แต่เขายังอยู่หน้าตึก จากนั้นได้ยินเสียงเหมือนปูนลั่น 2 ครั้ง พยายามโทรหาภรรยาแต่ไม่ติด พอเสียงปูนลั่นครั้งที่ 3 ดัง ตึกก็ถล่มลงมาทันที



ขณะที่พลตำรวจตรี วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ฝากประชาสัมพันธ์ให้ญาติ ของผู้สูญหายในเหตุการณ์ตึกถล่มเดินทางเข้ามาที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อเก็บหลักฐานทางดีเอ็นเอ เพราะร่างผู้เสียชีวิตสภาพศพมีการเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องตรวจดีเอ็นเอ เพื่อยืนยันศพ นากจากนี้สามารถมาแจ้งความได้เลย เพราะได้จัดเตรียมพนักงานสอบสวน พร้อมกับเขตในการแจ้งใบมรณบัตรเอาไว้แล้ว




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qc3bPHEMZA0

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ