สังคม

หุ้นส่วนผับดังบางใหญ่ แจงยิบ ปมถ่ายบัตรปชช.-ขายข้อมูลลูกค้า ยันไม่จริง ลบข้อมูลทุกวัน

โดย panwilai_c

6 ม.ค. 2568

45 views

จากกรณีของลูกค้าสาวที่เข้าไปใช้บริการในสถานบันเทิงย่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี แล้วทำมือถือ 2 เครื่องหายไป พอเดินไปถามแคชเชีร์ กลับมีเด็กเสิร์ฟเดินเข้ามาพูดจาไม่ดีใส่ จนเกิดการโต้เถียงกัน แล้วถูกการ์ดของร้านทำร้ายร่างกาย จนเธอต้องออกมาโพสต์เล่าเหตุการณ์บนเฟซบุ๊ก พร้อมกับภาพหลักฐานรอยช้ำที่แขน



แต่ต่อมา แอดมินเพจ หลังจากทราบเรื่อง ก็มีการออกมาโต้กลับอย่างเผ็ดร้อน พร้อมกับทำการเปลี่ยนโปรไฟล์เป็น "ป้าลูซี่" โพสต์แขวนประวัติส่วนตัวของลูกค้า โดยทางเพจร่ายยาว อ้างว่าตอนลูกค้ามาถามหามือถือ 2 เครื่อง ฝั่งลูกค้าเองก็วีนตะคอกใส่แคชเชียร์ เดินถามการ์ด 2 รอบ นอกจากนี้ ลูกค้ายังชี้หน้าพนักงานเสิร์ฟแล้วตำหนิรุนแรง แถมใส่อารมณ์ตบโต๊ะ



ส่วนบาดแผลที่เห็น เป็นเพราะลูกค้าใส่ส้นสูงแล้วเซล้มไปตรงเหล็กที่กั้นด้านหน้าผับ พนักงานของร้านไม่ได้ทำอะไรเลย ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นทางร้านกำลังจะไปแจ้งความเช่นกัน ในข้อหาหมิ่นประมาททางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หลังจากนั้น ทางแอดมินเพจ ยังได้โพสต์แท็กชื่อถึงลูกค้า และนำข้อมูลส่วนตัวลูกค้า มาลงในเพจแบบรัวๆ จนชาวเน็ตสงสัยว่า โพสต์ต่างๆ ที่ออกมานั้นเป็นแอดมินของร้าน หรือเจ้าของเป็นคนโพสต์กันแน่



ขณะที่เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นดรามาขยายวงกว้างขึ้น และกระแสตีกลับทางร้าน เพราะชาวเน็ตกลับอยู่ข้างลูกค้าผู้เสยหาย พร้อมขุดคุ้ยเรื่องราวของร้านไม่หยุด เมื่อมีบุคคลนิรนามได้ออกมาสร้างเพจ แบน The Moon Bar



ขณะที่ชาวเน็ตกลับอยู่ข้างลูกค้าผู้เสียหาย พร้อมขุดคุ้ยเรื่องราวของร้าน ที่เคยถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะการเปิดบริการเกินเวลา ปล่อยให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด และมีการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เช่น รูปถ่ายใบหน้าและบัตรประชาชน เพื่อนำไปขายให้กลุ่มมิจฉาชีพ



ต่อมา น.ส.ญาณิพัชญ์ ศรีโคตร นายอำเภอบางใหญ่ ร่วมกับตำรวจ สภ.บางใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าร้านมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ไม่พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ ไม่พบการมั่วสุมหรือการจำหน่ายยาเสพติด และร้านปิดบริการตามเวลาที่กำหนด ส่วนข้อร้องเรียนเรื่องการบันทึกและขายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้กำกับการ สภ.บางใหญ่ ได้สั่งให้ตั้งโต๊ะรับแจ้งความแล้ว



ต่อมามีกระแสข่าวว่า นายอำเภอบางใหญ่ มีคำสั่งปิดสถานบริการดังกล่าว เป็นเวลา 5 วัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า การเข้าตรวจไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย ไม่พบการกระทำความผิด แต่ทำไมมีคำสั่งปิด



วันนี้ น.ส.ญาณิพัชญ์ นายอำเภอบางใหญ่ ได้ชี้แจงว่า ตอนนี้ไม่ได้มีคำสั่งปิดสถานบริการดังกล่าว ส่วนเรื่องที่ลงไปตรวจ เป็นการเข้มงวดกวดขัน ตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ที่ให้เพิ่มการเข้มงวด ไม่ให้ทำผิดกฏหมาย ทั้งเรื่องยาเสพติด เรื่องการเปิดเกินเวลา และผู้ใช้บริการอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ รวมถึงเรื่องการพกพาอาวุธและสิ่งผิดกฏหมาย เบื้องต้นทราบว่า เจ้าของสถานประกอบการ ได้ขอปิดปรับปรุงเอง เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายตามที่ทางอำเภอกวดขัน



ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย น.ส.มิว อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย ได้เข้าพบนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรมหลัง จากไม่เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ที่เข้าตรวจสถานบันเทิงดังกล่าว แต่ไม่เคยพบสิ่งผิดกฏหมาย ทั้งที่นักเที่ยวหลายคนส่งหลักฐานให้ทั้งเรื่องเปิดเกินเวลา ยาเสพติด และเรื่องเว็บพนันออนไลน์



โดยบอกว่า ที่ต้องมาร้องกับผู้ว่าฯ เพราะไม่รู้ว่าที่ไปแจ้งตำรวจเขาเดินเรื่องให้หรือไม่ วันนี้ผู้ว่าฯ รับเรื่อง ทำให้รู้สึกโอเคมาก เพราะหลังเกิดก็ได้รับการข่มขู่ ถูกแขวนในโซเชียล ตนมีครอบครัวมีพ่อแม่ และเด็ก ยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้เรื่องจบ ครอบครัวและตนจะใช้ชีวิตอย่างไร ไม่คิดว่า ที่ตนไปเที่ยวแล้วของหาย มันจะบานปลายถึงขนาดนี้



ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เผยว่า ตอนนี้ สภ.บางใหญ่ ได้ตั้งโต๊ะรับแจ้งความในเรื่องการถ่ายบัตรประชาชน พร้อมประชาสัมพันธ์ให้คนที่เคยไปเที่ยวและถูกถ่ายบัตรประชาชน ให้มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน อย่างน้อยทุกคนจะได้ป้องกันตัวเองไว้เพื่อความสบายใจ การถ่ายบัตรประชาชนมันเกินความจำเป็น ซึ่งมันมองได้สองอย่าง คือรอบครอบ หรือถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง หลังจากนี้ต้องเรียกผู้ประกอบการมาสอบปากคำ ว่า มีเหตุผลอะไร ถึงต้องทำอย่างนั้น



ส่วนเรื่องสั่งปิดสถานบริการ ยังไม่ได้มีคำสั่งปิด เพราะหลักฐานยังไม่ชัดแจ้ง เดี๋ยวจะกลายเป็นการ กลั่นแกล้ง แต่ถ้าภายหลังได้หลักฐานที่บ่งบอกว่า มีการกระทำผิดจริงหรือเข้าเงื่อนไข ก็จะมีคำสั่งปิดต่อไป ส่วนเรื่องที่มีการโพสต์ว่า ร้านนี้เส้นใหญ่ มีอิทธิพล ตนยืนยันว่าไม่มีใครเส้นใหญ่ ทุกคนทำธุรกิจ ประกอบอาชีพ ทำหน้าที่ของตัวเองทั้งผู้ให้บริการ และผู้ใช้บริการ ใครเส้นใหญ่หรือไม่ใหญ่ถ้าผิดกฏหมายตนก็ฟาดไปเลย



ด้าน พันตำรวจเอก รณภัฎ ผู้กำกับการ สภ.บางใหญ่ แถลงข่าวร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPC ระบุว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนว่า ร้านนำข้อมูลของลูกค้า ไปใช้ในทางที่ผิดหรือไม่ ตอนนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์แล้ว 65 คน ส่วนเรื่องที่การอ้างว่า เจ้าของร้านมีพ่อเป็นตำรวจ เบื้องต้นยังไม่พบข้อเท็จจริง อาจจะเป็นญาติ หรือหุ้นส่วน จากการตรวจสอบพบว่า เป็นตำแหน่งในอดีต หลังจากนี้จะเชิญเจ้าของร้านมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนเรื่องที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความว่า ถูกทำร้ายต ก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป



นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจ "กล้าที่จะก้าว" กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีผู้เสียหายส่งข้อความมาบอกว่า ตกเป็นผู้เสียหาย ถูกถ่ายบัตรประชาชนเป็นจำนวนมาก รวม ๆ แล้วประมาณ 200-300 คน และตนยังมีหลักฐานแชตกลุ่ม ที่มีการนำรายชื่อลูกค้ากว่า 2 หมื่นรายชื่อ ไปให้กลุ่มเว็บพนันออนไลน์ โดยจะนำเรื่องนี้พร้อมผู้เสียหายเข้าหารือและขอความเป็นธรรมกับทาง พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เพื่อให้ช่วยตรวจสอบในวันพรุ่งนี้


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/UFX6cXdvy-Y

คุณอาจสนใจ