สังคม

ถึงคิว 'เชน ธนา' เตรียมรับทราบข้อกล่าวหา หลังผู้เสียหายแฉถูกหลอกผลิตสินค้า-เบี้ยวจ่าย 79 ล้าน

โดย paweena_c

7 ชั่วโมงที่แล้ว

282 views

ถึงคิว "เชน-ธนา" เจ้าของโรงงานผลิตแฉพฤติกรรมร่วมกับภรรยา ฉ้อโกง 79 ล้านบาทหลอกให้ผลิตสินค้าก่อนอ้างไม่ได้มาตรฐาน เบี้ยวจ่ายเงิน ด้านตำรวจเตรียมออกหมายจับ หลังเลื่อนให้รับทราบข้อกล่าวหา 2 ครั้ง

คุณนริศ วิทยาวรากรณ์ ผู้เสียหาย พร้อมด้วย นายธนพงศ์ จูสนิท ทนายความ เปิดเผยกับทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ถึงกรณีที่มีการฟ้องร้องและดำเนินคดี เชน ธนา กับภรรยา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงจำนวนเงิน 79 ล้านบาท

คุณนริศ บอกว่าบริษัทของตนเป็นบริษัทนำเข้าสมุนไพร และวัตถุดิบต่าง ๆ จากต่างประเทศ ซึ่งมีการนำเข้าอาหารเสริมชนิด probiotic จากประเทศญี่ปุ่น คุณเชน ได้มาติดต่อกับบริษัทตน และทำสัญญาผูกขาดในการสั่งผลิตและจัดจำหน่าย โดยสัญญาระบุว่า ต้องให้บริษัท อมาโด้เป็นผู้จัดจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทย และทางบริษัทของคุณนริศ ต้องผลิตให้กับทางอมาโด้เท่านั้น ห้ามผลิตให้กับบริษัทอื่นเด็ดขาด

คุณนริศ บอกอีกว่า ทางบริษัทของตนก็ยินดี เพราะทางอมาโด้ สั่งผลิตรอบแรกถึง 3 ล้านซอง โดยทางคุณเชน ยังย้ำด้วยว่า ขอให้บริษัทตนรีบสั่งผลิตให้ทัน หลังจากนั้นก็เริ่มสั่งทางประเทศญี่ปุ่น มีการผลิตและนำเข้าส่งต่อให้กับทางอมาโด้จัดจำหน่าย เพราะสินค้าล็อตแรกถูกจัดส่งประมาณ 75,000 ซองไม่ถึง 2 สัปดาห์ทางคุณเชนก็มาสั่งผลิตรอบที่ 2 อีก 4 ล้านซอง

ซึ่งตอนนั้น ตนได้ทักท้วงไปแล้วว่าเป็นช่วงการเปิดตลาดให้ค่อย ๆ ขาย ค่อย ๆ สั่งของจะดีกว่าไหม แต่ทางคุณเชนก็ยังยืนยันที่จะสั่งผลิตอีก 4 ล้านซอง โดยบอกว่าให้รีบสั่งประเทศญี่ปุ่นและรีบส่งมาให้อมาโด้ขาย เพราะจะมีการไปจ้างพรีเซ็นเตอร์ ระดับแถวหน้าของเมืองไทยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าโปรไบโอติกตัวนี้

โดยโปรโมชั่นที่มีการจัดจำหน่ายในตอนนั้น เช่น ซื้อ 4 แถม 4 , ซื้อ 6 แถม 6 ซึ่งคุณนริศ มองว่าจัดโปรโมชั่นลักษณะนี้คำนวณแล้วราคาต่ำกว่าทุนอีก ก็เคยทักท้วงไป แต่คุณเชน บอกว่าไม่ต้องสนใจ มีหน้าที่ผลิตให้รีบผลิตให้ทัน ก็พอตนจึงสั่งบริษัททางญี่ปุ่นผลิตรอบที่ 2 จำนวน 4 ล้านซองเป็นเงิน 79 ล้านบาท

หลังจากนั้นก็มีการนำเข้าและส่งจัดจำหน่ายผ่านทางบริษัท อมาโด้เรื่อยมา จนสินค้ารอบที่ 2 จำนวน 4 ล้านซอง เริ่มทยอยถึงมือบริษัทอมาโด้ และตนก็เห็นว่า มีการจัดโปรโมชั่นการจำหน่ายสินค้าอยู่ตลอด จนกระทั่งถึงวันนัดจ่ายเงินสำหรับสินค้า รอบแรก จำนวน 3 ล้านซอง ทางบริษัทอมาโด้ทำหนังสือขอเลื่อนหลายครั้ง อ้างเหตุผลเรื่องการเบิกจ่ายเงินของบริษัทมีปัญหา ล่าช้าไป 9 เดือนกว่าจะจ่ายรอบแรกครบ ซึ่งในระหว่าง 9 เดือน ที่มีการจ่ายล่าช้า

คุณนริศบอกว่าทางบริษัทที่ประเทศญี่ปุ่น และบริษัทของตนก็ผลิตสินค้าโปรไบโอติก ส่งให้ทางอมาโด้อยู่ตลอดจนครบ ทางอมาโด้ทำหนังสือมาว่า ขอรวมจ่ายทีเดียว สำหรับสินค้ารอบที่ 2 จำนวน 4 ล้านซองเป็นเงิน 79 ล้านบาท ไม่แบ่งชำระแล้ว ขอจ่ายรอบเดียว ซึ่งทางบริษัทไทยยินตันก็ยอม แต่พอถึงกำหนดชำระก็ขอเลื่อนไปอีก 90 วัน 120 วัน จนกระทั่ง อมาโด้ทำหนังสือแจ้งมาว่า สินค้ารอบที่ 2 จำนวน 4 ล้านซอง ไม่ได้มาตรฐานขอไม่จ่ายเงิน

ตนก็พยายามติดต่อหาคุณเชน จนได้พูดคุยกันและคุณเชน บอกว่าขอไม่จ่ายเงินค่าสินค้า 79 ล้านบาท ถ้าจะให้จ่ายได้เพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น

คุณนริศ บอกว่า พอตนได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกตกใจ ซึ่งในการสนทนาครั้งนั้นไม่ได้มีการพูดหรือสอบถามเกี่ยวกับเรื่องมาตรฐานสินค้ามีเพียงคุณเชนบอกว่าไม่มีเงินถ้าจะให้จ่ายจ่ายได้แค่ 1 ล้านบาทเท่านั้น

แต่ตนมองว่า ทางบริษัทของตนและบริษัทต้นทางจากประเทศญี่ปุ่นผลิตสินค้าส่งให้กับทางคุณเชนไปแล้ว 7 ล้านซอง ถ้ามีปัญหาก็น่าจะมีปัญหาตั้งแต่แรกและก็เห็นว่า มีการจัดโปรโมชั่นจำหน่ายสินค้าอยู่ตลอด ไม่มีท่าทีว่า สินค้ามีปัญหาและก็ไม่มีการส่งสินค้ากลับมาเคลมด้วย ตนจึงปรึกษากับฝ่ายกฎหมายของบริษัท และให้ทนายความทำหนังสือทวงถามไปยังบริษัทอมาโด้ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ ตนจึงเดินทางไปแจ้งความไว้ที่กองบังคับการปราบปราม ข้อหาฉ้อโกง

ด้านนายธนพงศ์ จูสนิท ทนายความ ของคุณนริศ มองว่าพฤติการณ์ของคุณเชนเข้าข่ายฉ้อโกงเพราะดูมีเจตนาตั้งใจมาหลอกลวง สั่งให้ผลิตสินค้า โดยอ้างว่า สินค้าขายดี ขายได้ ทำให้บริษัทหลงเชื่อ ผลิตและจัดส่งสินค้าให้กับทางอมาโด้อย่างต่อเนื่อง หากระหว่างที่จัดจำหน่ายสินค้ามีปัญหา จริงๆ ตามหลักการทำธุรกิจก็สามารถส่งคืนให้กับบริษัทผู้ผลิตเพื่อเคลมสินค้าได้ แต่สุดท้ายกลับมาให้เหตุผลว่า สินค้าไม่ได้ดี ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อเป็นเหตุผลที่จะไม่จ่ายเงินค่าสินค้า 79 ล้านบาท

จึงทำให้บริษัทของคุณนริศได้รับความเสียหาย ตนในฐานะทนายความจึงรวบรวมพยานหลักฐานเข้าดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปราม ซึ่งตอนแรกกองปราบมองว่าเป็นคดีแพ่งแต่พอส่งสำนวนให้อัยการมองว่าเป็นคดีอาญาร่วมกันฉ้อโกงจึงส่งสำนวนกลับมาที่พนักงานสอบสวนให้ออกหมายเรียกคุณเชนและภรรยามารับทราบข้อหา

ซึ่งเป็นคดีที่สามารถพูดคุยยอมความกันได้ แต่ตั้งแต่แจ้งความดำเนินคดีไปทางคู่กรณีเงียบ ไม่ได้ติดต่อมาพูดคุยหรือส่งทนายความมาเจรจาแต่อย่างใด ทางบริษัท จึงต้องใช้สิทธิ์ตามกฎหมายอย่างถูกที่สุด

https://youtu.be/X2G6tHF6QL8

คุณอาจสนใจ