สังคม
'ปานเทพ' จับพิรุธ 'ทนายตั้ม' อ้าง 'เจ๊อ้อย' ถูกดูดเงินไป 39 ล้าน แต่บันทึกประจำวันลงไว้แค่ 2 ล้าน
โดย paweena_c
7 พ.ย. 2567
104 views
ยังไม่เคลียร์ปมเงิน 39 ล้านบาท ที่ "เจ๊อ้อย" โอนให้กับ "สา" คนสนิทของทนายตั้ม หลังนาย ปานเทพ เปิดหลักฐานการลงบันทึกประจำวันของสากับนุ ด้าน 'ทนายเดชา' จับพิรุธ 'ทนายตั้ม' ปมยอดเงินไม่ตรงกับที่บอก 'เจ๊อ้อย'
หลังจากที่เมื่อวานนี้ (7 พ.ย. 67) นาย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ออกมาตั้งข้อสังเกตเรื่องเงิน 39 ล้านบาท ที่นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ อ้างว่านางสาว สารินี ภรรยาของนาย นุ ถูกดูดเงินจากบัญชีที่ใช้โอนบิทคอยท์ เพราะโอนเงินไปให้พวกสแกรมเมอร์ ที่อ้างเป็นดาราจีนตามที่ นาง จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย วานให้โอนเงิน ทำไมยอดเงินที่ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางซื่อ มีแค่ 2 ล้านกว่าบาท แต่กลับบอก "เจ๊อ้อย" ว่าโดนดูดเงินไปถึง 39 ล้าน
พร้อมเปิดเอกสารหลักฐาน พบว่า วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 เวลา 12.33 น. นางสาว สาริณีแจ้งความที่ สน.บางซื่อ ระบุว่า ผู้แจ้งมีกระเป๋าเงินออนไลน์ และได้โอนเงินบิทคอยท์ไป 7 ครั้ง
ครั้งแรก 0.0001 บิทคอยท์ = 120,000 บาท ครั้งที่ 2 ถึง 5 ครั้งละ 0.1358 บิทคอยท์ = 101,600 บาท ส่วนครั้งที่ 6 และ 7 จำนวน 0.9 บิทคอยท์ = 875,000 บาท เท่ากับว่า 7 ครั้งที่โอนไปเป็นเงินเท่ากับ 2,276,400 บาท
ผู้แจ้งระบุในคำให้การว่า ได้โอนไปให้บุคคลไม่ทราบชื่อสกุล ใช้วิธีแสกน QR Code แต่ปรากฎว่าหลังจากนั้นทุกบัญชีที่เชื่อมต่อกับบัญชีนี้ รวมถึงแอพกระเป๋าเงินออนไลน์ ถูกระงับบัญชี ไม่สามารถเข้าได้อีกเลย จึงขอให้ตำรวจสืบสวนตรวจสอบบัญชีปลายทางว่าเป็นของผู้ใด และเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร
จากเอกสารฉบับนี้ นาย ปานเทพ ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าอ้างว่าเงินโดนดูดจากบัญชีไป 39 ล้าน ทำไมตอนแจ้งความกลับมียอดแค่ 2 ล้าน ยอด 39 ล้านบาทมาจากไหน ถ้าทนายตั้ม บอกว่าเงิน 39 ล้านเป็นเงินที่เจ๊อ้อยค่อย ๆ โอนให้พวกสแกรมเมอร์ แล้วทำไมวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 หรือ 2 วันหลังที่นางสาว ส. ไปแจ้งความ เจ๊อ้อย โอนเงิน 39 ล้าน ผ่านบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาปากช่อง ให้นางสาว ส. ทำไม
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวอาชญากรรม โทรศัพท์สอบถามเรื่องนี้กับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ บอกว่า ในการลงบันทึกประจำวันตัวเลขก็ควรจะตรงกัน หากโดนสแกมเมอร์ไป 39 ล้านบาทก็ควรจะแจ้งความเป็นเงิน 39 ล้านบาท ไม่ใช่แจ้งแค่ 2 ล้านกว่าบาท ทำให้เรื่องนี้ดูมีพิรุธ ดังนั้นหากทนายตั้มอ้างเรื่องสแกมเมอร์ ก็ต้องนำสืบให้ได้ว่ามีเรื่องสแกมเมอร์จริงหรือไม่ เพราะจากพยานหลักฐานของตำรวจตอนนี้ก็มีพยานหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน ว่าสแกมเมอร์ที่ว่านั้นก็คือกลุ่มของผู้ต้องหา และเงินที่เอาไปก็คือเงินที่เอาไปจากแคชเชียร์เช็คมีคนไปรับมีคนนำไปเบิก และนำไปแบ่งกัน ถ้าเกิดต้องการที่จะสู้คดีก็จะต้องหักล้างพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนให้ได้ประเด็นมีอยู่แค่นี้
https://youtu.be/yLqpnLTxFnw
แท็กที่เกี่ยวข้อง เจ๊อ้อย ,ทนายตั้ม ,โดนดูดเงิน ,ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ,คนสนิททนายตั้ม