สังคม
ศึกพี่น้องชิงศพพ่อ! ยื่นศาลแย่งกันขอจัดงานเผา หลังพี่ชายโผล่งานศพอ้างสิทธิ์
โดย paweena_c
7 พ.ย. 2567
78 views
หญิง 50 ปี กอดลูกสาวร้องไห้โฮกลางงานศพพ่อ หลังพี่ชายโผล่มาพร้อมคำสั่งศาล ห้ามเผาศพพ่อ บอกจะนำไปประกอบพิธีที่อุตรดิตถ์ บ้านของตัวเอง อ้างพ่อสั่งเสียไว้
นางพรรนี อายุ 50 ปี กอดลูกสาว คือ นางสาวมณฑกานต์ แล้วพากันร้องไห้โฮกลางงานศพนายเพิก พ่อวัย 80 ปี ซึ่งจัดอยู่ที่วัดรางกระต่ายรังสรรค์ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี หลังนายธวัชชัย พี่ชายของนางพรรนี เข้ามาโวยวายในงานศพ พร้อมโชว์คำสั่งศาล ห้ามเผาศพนายเพิก เพราะจะนำไปประกอบพิธีที่จังหวัดอุตรดิตถ์
นางสาวมณฑกานต์ กล่าวว่า ตาของเธอถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง ตอนอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อประมาณ 1 ปีก่อน เมื่อแม่ทราบจึงไปรับตากลับมาดูแลที่บ้านของแม่กาญจนบุรี ดูแลเรื่อยมา จนกระทั่งตาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แม่และญาติๆ ก็ได้ช่วยกันจัดเตรียมงานศพที่นี่ โดยมีพิธีสวดอภิธรรมตั้งแต่คืนวันที่ 4 พฤศจิกายน กำหนดพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 7 พฤศจิกายน
แต่เมื่อวานนี้ (6 พ.ย. 2567) ลุงกลับมาโวยวายในงาน พร้อมนำคำสั่งศาลมาแจ้งกลางงาน ว่าจะไม่ให้เผาศพตา โดยจะนำศพตากลับไปประกอบพิธีที่อุตรดิตถ์ โดยไม่ได้ชี้แจงเหตุผลใดๆ ให้ครอบครัวของเธอทราบ ไม่เข้าใจว่าลุงต้องการอะไร แต่เธอกับแม่ยืนยันว่า ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ แอบแฝงในการจัดงานศพให้ตาที่นี่ แค่อยากเก็บของตาไว้ที่เดียวกับยาย ซึ่งถูกเก็บไว้ที่วัดรางกระต่ายรังสรรค์
เรื่องนี้เธอและแม่ได้ไปปรึกษาทนายความ และยืนยันที่จะต่อสู้ด้วยกระบวนการทางกฎหมายจนถึงที่สุด เพื่อให้ศพของตาได้ประกอบพิธีฌาปนกิจที่นี่ให้ได้
ล่าสุดช่วงสายวันนี้ (7 พ.ย. 2567) นางพรรนี พร้อมลูกสาว ไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาล ที่ไม่ให้จัดการศพพ่อ ก่อนให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า ที่พี่ชายยื่นคัดค้านการจัดการศพของพ่อ น่าจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ เงินฌาปนกิจศพของพ่อ ที่ได้ทำไว้ตั้งแต่อยู่ที่อุตรดิตถ์ มีวงเงินประมาณ 200,000 บาท ซึ่งตอนแรกพ่อได้ลงชื่อเธอเป็นผู้รับผลประโยชน์ แล้วเมื่อไม่กี่เดือนก่อน พี่ชายได้มาพูดคุยและขอเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์เป็นชื่อของพี่ชาย โดยอ้างว่า จะนำเงินไปใช้ในงานศพของพ่อ หากขาดเหลือเท่าไหร่พี่ชายจะรับผิดชอบทั้งหมด จึงน่าจะเป็นสาเหตุ ที่ทำให้พี่ชายพยายามจะนำศพของพ่อกลับไปที่อุตรดิตถ์
ขณะเดียวกันนายธวัชชัย อายุ 55 ปี ได้ไปที่ สภ.ท่าเรือ เพื่อลงบันทึกประจำวันว่า ไม่สามารถนำศพของพ่อ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่อุตรดิตถ์ได้ โดยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน หลังพ่อเสียชีวิต เขาและนางพรรนี ได้มาทำข้อตกลงต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่า หลังพ่อเสียชีวิต จะให้นางพรรนีจัดงานศพที่กาญจนบุรี 3 วัน หลังจากนั้นเขาจะรับศพพ่อกลับไปประกอบพิธีที่อุตรดิตถ์อีก 3 วัน แล้วจึงค่อยเผา แต่เมื่อถึงเวลาจริง นางพรรนีกลับไม่ยอมให้รับศพพ่อกลับตามที่ตกลงกันไว้ และยังให้ข่าวกับสื่อทำให้ตนเองเสียหาย
นายธวัชชัย กล่าวยืนยันว่า ที่ต้องการนำศพพ่อกลับไปประกอบพิธีที่อุตรดิตถ์ เพราะเป็นความต้องการสุดท้ายของพ่อ ที่ได้สั่งเสียไว้ก่อนเสียชีวิต จึงทำหนังสือการรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลศพขึ้นมา และให้พ่อเซ็นตั้งแต่ตอนอยู่ที่อุตรดิตถ์ ยืนยันว่าลายเซ็นในหนังสือเป็นลายเซ็นของพ่อจริง ไม่ได้ปลอมแปลงอย่างที่ถูกกล่าวหา ซึ่งหากเป็นการปลอมลายเซ็นจริง ศาลจังหวัดกาญจนบุรีคงจะไม่ยอมออกคำสั่ง ห้ามจัดการกับศพให้
ส่วนเรื่องที่ประเด็นที่น้องสาว กล่าวหาว่า ตนเองต้องการเงินฌาปนกิจของพ่อนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะหากตนต้องการเงินจริง ก็ไม่จำเป็นต้องมาขอนำศพกลับไปประกอบพิธีที่อุตรดิตถ์ เพราะแค่ยินยอมให้น้องสาวทำพิธีศพให้เสร็จ ก็รับเงิน 200,000 บาท เข้ากระเป๋าสบายๆ โดยไม่ต้องทำอะไรให้เหนื่อย หลังจากนี้ หากนางพรรณีต้องการจะเจรจา เขาก็พร้อมที่จะเจรจาด้วย โดยมีจุดยืนเพียงข้อเดียว คือต้องการที่จะนำศพพ่อกลับไปประกอบพิธีที่อุตรดิตถ์เท่านั้น หากนางพรรนียินยอม เรื่องทุกอย่างก็จบ ตนเองพร้อมจะถอนแจ้งความ
https://youtu.be/XvdkOOkK8cY
แท็กที่เกี่ยวข้อง ยื่นศาล ,ชิงศพพ่อ ,ขอจัดงานเผา