ศึกในไส้! ย่าวัย 80 ร้องถูกหลานชิงมรดกปั๊มน้ำมัน 100 ล้าน ‘เจ๊เอ๋’ บุกช่วย ด่าสนั่นกลางปั๊ม

ศึกชิงปั๊มน้ำมัน! ย่าเปรมจิต วัย 80 ร้อง ถูกหลานชิงมรดมปั๊มน้ำมัน 100 ล้าน ยื่นข้อเสนออยากได้คืนจ่ายมา 300 ล้าน แลกเปลี่ยนชื่อเจ้าของ “เจ๊เอ๋ เจ้าหนี้สายโหด” บุกช่วย ด่าพนง.สนั่นกลางปั๊ม

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากย่าเปรมจิต อายุ 80 ปี ว่า ตนเองได้เปิดปั๊มน้ำมันในจังหวัดสระบุรี จากนั้นได้ขยายกิจการ โดยติดต่อซื้อที่ดินซึ่งอยู่ใกล้กับปั๊มน้ำมันเก่า แต่เจ้าของที่ไม่ยอมขาย จึงใช้ชื่อของลูกชายและหลานๆ อีก 3 คน ตนเองเป็นคนจ่ายเงินในการซื้อที่ ราคา 65 ล้านบาท ตอนนั้นคิดว่าลูกและหลานๆ ไม่น่าจะโกง

ซึ่งย่าเปรมจิต ให้หลานๆ เป็นผู้ดูแลควบคุมการเงิน ส่วนตนเองก็อยู่ด้วยช่วยกันดูแล มีการกู้เงินจากธนาคารมา 100 กว่าล้าน มาขยายกิจการ ใช้เวลา 6 ปี จนสามารถใช้หนี้ธนาคารหมด แต่หลังจากนั้นหลานๆ กลับไม่ค่อยใส่ใจในการบริหารปั๊ม เอาแต่เที่ยวเตร่ ขับรถแข่ง เอาเงินที่ขายน้ำมันได้ไปใช้จ่ายจนหมด และคิดที่จะยึดครองปั๊มของตนเอง ไม่ยอมให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องเงินและการบริหาร จนกลัวว่าปั๊มจะเจ๊ง เพราะในระยะ 7-8 ปีที่ผ่านมา เงินหายไปจากระบบหลายสิบล้านบาท

ย่าเปรมจิต ให้ลูกน้องเอาบัญชีมาดูจึงได้รู้ว่าเงินทุนสำรองภายในปั๊มแทบจะไม่เหลือ พร้อมยังพบว่ามีการเอาเงินที่มีการสแกนจ่ายคิวอาร์โค้ด ไปใช้จ่ายจนหมด ย่าเปรมจิต จึงเดินเก็บเงินตามร้านค้าภายในปั๊ม แต่หลานๆ ก็จ้าง รปภ.มาเดินตาม และแย่งถุงเงินไป นอกจากนี้ยังมีการบุกรุกเข้าไปภายในบ้าน ค้นหาเอกสาร มีหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด และหลานได้เข้าไปเปิดตู้เซฟเอาสมุดบัญชีตนไป ตนจึงได้ฟ้องศาลดำเนินคดี เพื่อที่จะขออำนาจศาลนำปั๊มกลับคืนมา

ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังปั๊มน้ำมันดังกล่าว พบย่าเปรมจิต เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ได้ขึ้นศาลครั้งล่าสุด ทนายของหลานได้เสนอมาว่า "ถ้าอยากได้ปั๊มคืน ให้จ่ายเงิน 300 ล้านบาท แล้วจะให้คืน" ซึ่งตนตอบว่าไม่เอา เพราะตนจะเอาเงินจากไหนไปซื้อ และอีกอย่างของก็เป็นของๆ ตนอยู่แล้ว ตนจะไปซื้อทำไม โดยตนอยากให้หลานมาเซ็นคืนให้ทั้งหมด ก็จบกัน

ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วพวกหลานๆ ไม่มีอะไรมาเลย แต่ทางหลานไม่ยอมคืนให้ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตอนนี้ได้ฟ้องหลานทั้งหมด 3 คน ทั้งหมด 4 คดี เป็นคดีแพ่ง 1 คดี เกี่ยวกับเรื่องเอาที่กับบริษัทคืน ส่วนคดีอาญาอีก 3 คดี ก็จะมีวิ่งราวทรัพย์ นำคิวอาร์โค้ดไปขึ้นเงิน และบุกรุก

ตนเองก็ไม่มีอะไรมาเลย แต่ถ้าทางหลานไม่ยอมคืนให้ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งตอนนี้ตนได้ฟ้องหลานทั้งหมด3 คนไว้ทั้งหมด 4 คดีแล้วเป็นคดีเพ่ง 1 คดีเกี่ยวกับเรื่องเอาที่กับบริษัทคืน ส่วนคดีอาญาอีก 3 คดีก็จะมี วิ่งราวทรัพย์ นำคิวอาร์โค๊ดไปขึ้นเงิน และบุกรุก ซึ่งจะต้องขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ตอนนี้คดีอยู่ในระหว่างขั้นตอนสืบพยาน

หลังจากนั้นประเดือนหรือ 2 เดือน ศาลน่าจะตัดสิน และตอนช่วงใกล้สืบพยานปัญหามันแรงขึ้นเรื่องๆ ป้าเปรมจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ เนื่องจากว่าเอกสารโอนเปลี่ยนมือไปค่อนข้างเยอะอยู่ แต่ส่วนตัวแล้วตนเองมั่นใจที่จะชนะคดี เนื่องจากมีเอกสารในการต่อสู้เป็นจำนวนมาก

หากในอนาคตถ้าตนชนะคดี พื้นที่ตรงนี้ตนเองคิดว่าจะทำเป็นมูลนิธิ หรืออะไรสักอย่างเพื่อคนที่ไม่มีกิน ไม่มีใช้ก็ให้มาขอความช่วยเหลือซึ่งจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป แต่ถ้าพวกหลานจะเข้ามาขอ ตนเองยืนยันเลยว่าจะไม่ให้ เขาจะได้รู้สึกตัวเองว่าได้ทำอะไรไว้บ้าง

ทีมข่าวติดต่อไปยังหนึ่งในหลานของย่าเปรมจิต เจ้าตัวระบุว่าไม่ประสงค์ที่จะให้สัมภาษณ์ เนื่องจากคดีอยู่ในชั้นศาล และศาลได้นัดไต่สวนสืบพยานแล้ว เกรงจะกระทบต่อรูปคดี ยืนยันเพียงว่า ทั้งหมดเป็นกิจการของตนเอง เรื่องเงินลงทุนตนเองได้ไปกู้มาจำนวน 100 ล้านบาท โดยพ่อเป็นคนกู้มาให้ และตนเป็นคนใช้หนี้ธนาคาร ตอนนี้ตนเองยังไม่อยากที่จะแก้ต่างอะไร เกรงว่าจะเข้าตัวเอง และจะเป็นการนำไปสืบเป็นข้อโต้แย้งในชั้นศาล พร้อมบอกด้วยว่า ณ วันนี้เอกสารสิทธิ์ทุกอย่างเป็นของพวกตนเองทั้งหมด แล้วจะมาเรียกร้องไปเพื่ออะไร ซึ่งตนเองก็ยังลี้ยงดูอยู่ตลอดเวลา

ขณะที่ “เจ๊เอ๋ เจ้าหนี้สายโหด” ได้เดินทางไปช่วยเหลือย่าเปรมจิต ที่นั่งอยู่กลางปั๊ม พร้อมวิพากษ์วิจารณ์พนักงานดังลั่นที่ไม่ให้ย่าเปรมจิตเข้าไปด้านใน

https://youtu.be/VdaJuNmGycE