สังคม
‘บอสพอล’ เดินเต็มสูบ! ขึ้น 4 บัญชีดำ สั่งทนายลุยฟ้อง ด้าน ‘ทนายตั้ม’ ท้าเปิดคลิปใครไถ 7 ล้าน
โดย JitrarutP
25 ต.ค. 2567
70 views
“ทนายบอสพอล” รับออเดอร์จากบอสพอล ลุยฟ้อง 4 กลุ่ม “นักร้องหญิง-พยานเท็จ-ทนายความ-แม่ข่าย” ขณะที่ “กฤษอนงค์” ระเบิดอารมณ์โดนทัวร์ลงคนเดียว ด้าน “ทนายตั้ม” ท้าเปิดคลิปใครรีดเงิน 7 ล้าน
เมื่อวานนี้ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อแจ้งความ กับนักร้องเรียนสาว ก. (กฤษอนงค์) ในข้อหากรรโชกทรัพย์ นายวิฑูรย์ กล่าวว่าหลังจากที่ไปเยี่ยมบอสพอล ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อส่งเอกสารการมอบอำนาจแจ้งความ ให้บอสพอลเซ็น และได้นำมาแจ้งความ นักร้องสาว ก. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนจะเข้าข่ายข้อหารีดเอาทรัพย์หรือไม่ขอปรึกษากับทางตำรวจก่อน
ทั้งนี้บอสพอล ยังได้สั่งการมา 4 ออเดอร์ โดยออเดอร์แรกคือ ดำเนินคดีกับ น้องรัอง ก. ออเดอร์ ที่ 2 คือ ดำเนินคดีกับพยานที่แอบอ้างเป็นบุคคลใกล้ชิดบอสพอล ที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พามาให้ข้อมูลกับตำรวจ ซึ่งมีการพูดว่าบอสพอลได้มีการยักย้ายเงินโดยแปลงเป็นสกุลเงินคริปโต จำนวน 8 พันล้านบาท
โดยจะดำเนินคดีกับทั้งพยาน และนายเอกภพ ซึ่งจะพยายามทำให้ทันภายในสัปดาห์หน้า เพราะเรื่องนี้ทำให้เกิดความเสียหาย มีการพาดพิงไปถึงหน่วยงานรัฐว่ามีการรับสินบน ทำให้เกิดความเสียหายหลายฝ่าย
ออร์เดอร์ต่อมาคือให้ดำเนินการกับ ทนายความ ท่านหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในคนที่พาผู้เสียหายมาแจ้งความ ดิ ไอคอน กรุ๊ป โดยเป็นทนายความตัวหลักที่มีบทบาทมาก เนื่องจาก ก่อนหน้าวันที่บอสพอลจะถูกจับกุมนั้น ทนายความคนนี้ได้ให้คนโทรศัพท์มาหาบอสพอล และมีการเจรจาขอเงิน 7 ล้านบาท เพื่อให้คืนให้ผู้เสียหาย โดยบอกให้มาเคลียร์กันที่สำนักงานแล้วจะไม่ดำเนินคดี
ซึ่งบอสพอลไม่ได้จ่ายเงินให้ไป แต่ได้ให้เลขาอัดคลิปเสียงไว้ทั้งหมด โดยต้องการให้มีการตรวจสอบว่ากลุ่มผู้เสียหายของทนายความคนนี้ มีมูลค่าความเสียหายรวมกันถึง 7 ล้านบาทหรือไม่ หากไม่ถึงก็หมายความว่า ส่วนต่างที่เหลือเข้ากระเป๋าของทนายความ ในส่วนของคลิปเสียงนั้น ตนเองยังไม่ได้ฟัง แต่ถ้าได้มาก็คิดว่าน่าจะเปิดเผยต่อสื่อได้ และออเดอร์สุดท้าย คือรวบรวมรายชื่อแม่ข่ายที่มีพฤติกรรมไปเชิญชวนผู้เสียหายเป็นตัวแทนจำหน่าย จากนั้นแม่ข่ายขัดผลประโยชน์กับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป แต่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย
ขณะที่ เมื่อวานนี้ นางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ซึ่งก็คือนักร้อง ก. ได้เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำเอกสารมามอบให้ตำรวจ นางสาวกฤษอนงค์ ได้เปิดใจใน 3 ประเด็น ยืนยันเรื่องเงิน 10 ล้าน ได้เคลียร์ให้ผู้เสียหายแล้ว ส่วนเรื่องที่ตนรับเงิน 2 ทาง คือได้จากผู้เสียหาย 20% ซึ่งในส่วนของตนมีผู้เสียหายทั้งหมด 89 คน มีแค่ประมาณ 5 คนที่โอนเงินมาที่กองทุน 20% ส่วนอีก 64 คน โอนมาแค่ 3-5% และยังมี 1 คน ที่ขอ 20% คืน ซึ่งกองทุนได้โอนคืนไปแล้ว เรื่องสุดท้าย เงิน 6 แสนที่บอกว่าตนไปเรียกรับจากดิ ไอคอน กรุ๊ป ซึ่งเงินก้อนนี้เป็นเงินในการทำแผนงาน และได้มอบเอกสารให้กับบอสปันไปหมดแล้ว หลังจากนี้ตนจะไม่ให้สัมภาษณ์และไม่ไปออกรายการอะไรอีก
ทั้งนี้ในระหว่างให้สัมภาษณ์ นางสาวกฤษอนงค์ ได้มีท่าทีโมโหและใช้คำพูดรุนแรงถึงขั้น ขึ้นมึงขึ้นกู โดยพูดถึงกลุ่มของบอสพอลว่า ทำไมตอนนี้ทัวร์ถึงมาลงที่ตน ทั้งๆ ที่ไม่ได้แค่ตนคนเดียวที่ออกมาพูดเรื่องนี้ และตนไม่เคยอัดเสียงใคร แต่ที่มาอัดเสียงตน ต้องการอะไร ถ้าไม่ได้ทำผิดอะไรจะอัดเสียงไว้ทำไม และตอนนี้เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นที่บ้านของเธอ มีคนไปวนเวียนแอบมาถ่ายรูปบ้านของเธอ ซึ่งเธอบอกว่าเรื่องนี้ ลูกและคนในครอบครัวของเธอไม่เกี่ยว หากมีอะไรให้มาดำเนินการที่ตนเดียว
ล่าสุด พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงประเด็นที่บอสพอล สั่งทนายความเดินหน้าฟ้องดำเนินคดีใน 4 เรื่องว่าตนเห็นจากข่าวแล้ว หากบอสพอลจะฟ้องดำเนินคดีก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหาล็อต 2 ของคดีดิไอคอน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
ขณะที่เฟซบุ๊กษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขามูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โฟสต์เฟซบุ๊กหลัง ทนายของบอสพอล ยืนยันว่าจะมีการดำเนินคดีกับทนายความที่มาเจรจาขอเงิน 7 ล้านบาทไปให้ผู้เสียหายว่า โดยทนายตั้มได้โพสต์ข้อความระบุว่า เรื่องที่ทนายบอสพอล อ้างว่า 1 ในทนายดรีมทีมรีดเงิน 7 ล้าน เปิดคลิปแฉเลยครับ ว่ารีดเงินให้ตัวเอง หรือให้นำเงินมาคืนผู้เสียหายและในช่องคอมเมนต์ ยังระบุด้วยว่า ไม่ธรรมดาจริงๆแก๊ง The icon จุดประเด็นได้ช่างน่าติดตาม กำไรคนดูครับ ตอนแรกก็ไม่ทราบว่าหมายถึงใคร เพราะผมไม่มีเบอร์บอสพอล ไม่เคยอยากโทรหา แต่ถ้าหมายถึงผม บอสพอลเป็นคนโทรมาเอง แล้วผมบอกให้จ่ายผู้เสียหายกลุ่มเปราะบางเซ็ตแรก 30 คน คนละ 2 แสน 5 หมื่นบาท ยอดไม่ใช่ 7 ล้าน แต่เป็น 7.5 ล้านบาท ตอนนั้นผมนั่งอยู่ในรายการ อาจารย์ยิ่งศักดิ์ เทปวันที่ 15 ตุลาคม 67 ในรายการผมยังบอกเลยว่ามีคนสำคัญโทรมา แล้วผมจึงเมมเบอร์ เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดหลังจากที่พาผู้เสียหายกว่า 100 คน เข้าแจ้งความหมดแล้ว”
จากนั้นได้ลงรูปภาพว่ามีโทรศัพท์ของบอสพอล โทรเข้ามา ระบุวันที่ 15 ตุลาคม ตอน บ่าย 2 โมง 48 นาที และมีการคุยกันประมาณ 3 นาที ต่อมาและเมื่อมีชาวเน็ตรายหนึ่งสอบถามว่า ถ้ารีดมาคืนผู้เสียหายทำไมทนายไม่ทำตามกฎหมาย แจ้งความร้องทุกข์ละคะ แบบนี้มันต่างอะไรกับทนาย ก ผู้หญิงอะ ทีใครจะรู้ได้เงินจะถึงผู้เสียหายจริงเปล่า
ซึ่งทนายตั้มเข้ามาตอบว่า "ผมว่าไทม์ไลน์ค่อนข้างชัด ผู้เสียหายแจ้งความหมดแล้ว และบอสพอลติดต่อมาเอง แหม่คิดว่าไม่รู้เหรอว่ากำลังอัดเสียง ไม่เห็นยากแค่เปิดคลิปมาเลย
ล่าสุดทนายวิฑูรย์ ได้เปิดเผยถึงประเด็นที่ทนายตั้มท้าให้เปิดคลิปในประเด็นทนายดรีมทีมรีดเงิน 7 ล้านบาทจากบอสพอลว่า การโพสต์เฟสบุ๊คของทนายตั้มถือเป็นเรื่องดี เพราะคลิปเสียงใช้ในชั้นศาลไม่ได้ แต่การโพสต์จะช่วยทำให้ตนตรวจสอบได้ว่าผู้เสียหายของทนายตั้มถึง 7 ล้านบาทจริงหรือไม่ และยังไม่ชัดเจนว่าคนกลุ่มนี้เป็นผุ้เสียหายจริงหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะได้เข้าไปตรวจสอบผู้เสียหายกลุ่มนี้ ส่วนที่ทนายตั้มได้มีการแคปหน้าจอ ที่บอสพอลโทรหาทนายตั้ม ซึ่งได้แคปหน้าจอแค่เฉพาะวันที่ 15 ตุลาคม แต่ของวันที่ 16 ตุลาคม และ 17 ตุลาคม ทนายตั้มไม่ได้บันทึกภาพหน้าจอ
นอกจากนี้ ตนทราบว่าทนายตั้มเป็นฝ่ายโทรศัพท์ไปหาบอสปีเตอร์ก่อน จากนั้นบอสพอลจึงโทรศัพท์ไปหาทนายตั้ม แต่เหมือนเป็นการโทรศัพท์ไปมาระหว่างกัน ตนจึงไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นคนโทรศัพท์ไปก่อน จะขอคุยรายละเอียดกับบอสพอลอีกที
ส่วนใครจะเป็นผู้กล่าวเสนอเรื่องเงิน 7 ล้านบาทก่อนนั้น ตนก็ไม่ทราบเพราะตน เข้ามารับหน้าที่เป็นทนายความให้บอสพอล ก่อนวันที่ 15 ตุลาคมเพียงไม่กี่วัน แต่เลขาบอสพอล ได้บันทึกเสียงสนทนาระหว่างบอสพอลกับทนายตั้มเรื่องเงิน 7 ล้านบาทไว้ ส่วนจะนำคลิปเสียงนี้มอบให้ตำรวจหรือไม่ขอพิจารณาอีกครั้ง
โดยวันนี้ตนจะเข้าพบกับบอสพอลที่เรือนจำฯ เพื่อให้บอสพอลลงนามเอกสารมอบอำนาจ ในการฟ้องดำเนินคดีกับนายเอกภพและพยาน และดำเนินคดีกับหนึ่งในทนายความซึ่งอยู่ในชุดดรีมทีม ที่เจรจาขอเงิน 7 ล้านบาทจากบอสพอล
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/XM0w8S4oYGI
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทนายตั้ม ,ทนายบอสพอล ,กฤษอนงค์