'กฤษอนงค์' ท้าทนายกางหลักฐานรีด 10 ล้านดิไอคอน ปัดหัก 20% เงินชดเชย อ้างผู้เสียหายโอนให้เอง

กฤษอนงค์ ท้าทนายกางหลักฐาน รีดเงินดิไอคอน 10 ล้านบาท พร้อมยอมรับไม่ได้บังคับผู้เสียหายจ่าย 20% ผู้เสียหายโอนให้เอง

คุณ กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้ก่อตั้งองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่และประธานศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ กล่าวถึงประเด็นที่มีกระแสข่าวว่ามีนักร้องเรียนผู้หญิง มีความเชี่ยวชาญด้านแชร์ลูกโซ่ ตบทรัพย์ดิไอคอน 10 ล้านบาท

คุณกฤษอนงค์ ยืนยันว่า 10 ล้านบาทไม่มีแน่นอน ถ้ามีตนก็พร้อมชี้แจง ตนมั่นใจว่าไม่เคยพูดประเด็นนี้ เพราะผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือทั้งหมด 89 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท ทางฝ่ายคู่กรณีคือดิไอคอน ขอเจรจาปรับลดต่อรองเหลือ 8 ล้านบาท

คุณกฤษอนงค์ กล่าวต่อว่า ตนให้เขาเจรจากันเอง และเงินก็จ่ายตรงไปที่ผู้เสียหายเลย แต่เนื่องจากตนเป็นผู้ประสานตรงกลาง จึงเกิดการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ซึ่งตนเป็นสำนักงานกฎหมายและมีทนายความด้วย ตอนที่โทรไปก็มีทนายความอยู่ด้วย

และที่สำคัญเรารู้จักกับพอลเป็นส่วนตัวมาเป็น 10 ปี แต่ไม่ได้สนิทสนม พอเขามาเปิดบริษัทเอง แล้วมีผู้เสียหายมาร้องอย่างต่อเนื่อง เราก็โทรหาเขาในฐานะคนที่รู้จัก สอบข้อเท็จจริงกับผู้เสียหาย แล้วเอาข้อมูลไปบอกเขาว่ามีแบบนี้ ตอนโทรยืนยันอีกครั้งก็โทรต่อหน้าทนายและผู้เสียหาย

คุณกฤษอนงค์ กล่าวอีกว่า จากนั้นพอลประสานผ่านภรรยาเก่าคือคุณจิ๊บมาหาตน ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีข้อเสนอมาจากฝ่ายของพอลว่าไม่ให้ทำ จะเอายังไง จะเอาเท่าไหร่ พอลเป็นคนพูดเอง เสนอมาเอง ตนก็บอกว่าจ่ายที่ตนมันไม่จบ ถ้าอยากจบก็จ่ายตรงไปที่ผู้เสียหาย

คุณกฤษอนงค์ กล่าวต่อว่า พอลก็บอกว่าให้ตนรับไว้ให้ แล้วจะดูแลยังไงก็ว่ามา หมายถึงดูแลผู้เสียหาย หลังจากนั้นเขาก็หายไป 3 วัน บอสพอลก็โทรถามถามผิดตรงไหน ตนก็บอกว่าอย่าใช้คำพูดนี้ เพราะมีผู้เสียหายอยู่จริง ตนก็เลยนัดผู้เสียหายให้เขาเจอ ซึ่งมีทั้งหมด 89 คน แต่นัดเจอครั้งแรกมี 17 คน

คุณกฤษอนงค์ กล่าวอีกว่า มูลค่าความเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท แต่ที่จ่ายกันจริงๆ ประมาณ 8 ล้านบาท ที่เขาจ่ายตรงกันไป และที่จ่ายผ่านกองทุนสำหรับคนที่มาไม่ได้ ตนก็ไปเคลียร์ให้ ตนบอกอย่าโอนให้ตน ให้โอนเข้ากองทุนไปเลย แล้วตนจะกดเงินสดมาจัดการให้ ตนไม่เข้าใจว่า 10 ล้านบาทมาจากไหน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

คุณกฤษอนงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่มีคนออกมาบอกว่า ว่ามีการหัก 20% จากผู้เสียหายที่ได้รับเงินชดเชย แล้วโอนมาให้ตนนั้น ผู้เสียหายเขาได้เงินคืน เขาก็อยากสนับสนุนเรา เราไม่เคยบังคับให้โอน ไม่เคยพูดว่าต้องได้ 20% แต่ที่ทราบคือมีแกนนำของผู้เสียหายที่ตกลงกันในกลุ่มว่าให้โอนสนับสนุน จึงโอนเงินเข้ากองทุนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มันนี่เกม แชร์ลูกโซ่ เงินเหล่านี้ก็นำไปช่วยเหลือผู้เสียหายรายอื่นต่อไป

คุณกฤษอนงค์ กล่าวอีกว่า ซึ่งผู้เสียหายเขาถามว่าแล้วคุณกฤษอนงค์ได้อะไร ตนก็บอกว่าได้ช่วยพี่ไง ตนก็มีธุรกิจของตน เขาถามว่าแล้วพวกเราจะสนับสนุนคุณกฤษอนงค์ยังไง ยืนยันว่าเป็นหลังจากที่ได้เงินแล้ว เพราะก่อนจะได้เงิน ตนเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำทั้ง 89 คน ตลอดระยะเวลาเป็นเดือน ตนถือว่าเราไม่ได้เป็นมูลนิธิ ไม่ได้เป็นวัด แต่งานที่เราทำเป็นบุญได้

คุณกฤษอนงค์ กล่าวต่อว่า ผู้เสียหายก็ถามว่าแล้วเราจะดูแลคุณกฤษอนงค์ยังไง คุณกฤษอนงค์เอาเงินตรงไหนมาแล ตนก็บอกว่ามันมีคนที่ตนไปทำคดีให้ เขาก็โอนเงินมาสนับสนุนกองทุน เราก็เอาเงินนี้ไปช่วยคนอื่นต่อ ถ้าพี่อยากจะสนับสนุน พี่ก็โอนเข้ามา แต่เท่าไหร่ไม่ได้บังคับ

คุณกฤษอนงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ทนายบอสพอล ออกมาบอกว่าไม่ใช่แค่ 10 ล้านบาท ยังมีอีก 4 แสนบาท บอกเป็นค่าดำเนินการ ค่าปรินท์เอกสาร ค่าเหนื่อยโอนให้ตน ถ้าทนายความมีหลักฐานเอาออกมาเลย ตนมั่นใจว่าไม่มีเรื่อง 10 ล้านบาทแน่นอน ฝากบอกทนายของพอลว่า ถ้ามีเอกสารหรือหลักฐานอะไรที่เข้าใจตรงหรือไม่ตรงก็ถามได้ หรือถามพอลก็ได้ ตนมีหลักฐานเยอะมาก


https://youtu.be/6-2VCof6dGU