สังคม

เอเจนซี่โต้หลอกสาวไทยแต่งงานหนุ่มจีน ยันไม่ได้สร้างโปรไฟล์ ชี้จ่ายค่าสินสอดไม่ครบ เพราะหนีกลับไทยก่อน

โดย chutikan_o

18 ก.ย. 2567

87 views

สาวไทยแฉ ถูกหลอกให้ไปแต่งงานกับชายชาวจีน สร้างโปรไฟล์เป็นคนรวย แต่ไม่ตรงปก แถมเอเจนซี่ฮุบเงินค่าสินสอดเกือบล้านบาท เอเจนซี่โต้ไม่ได้หลอก จ่ายค่าสินสอดไม่ครบ เพราะหนีกลับไทยก่อน ยังไม่มีลูกด้วยกัน

หลังจากที่เมื่อวานนี้ (17 ก.ย. 2567) คุณแบ๋ม อายุ 24 ปี ไปร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ว่าถูกเอเจนซี่ ชื่อคุณปุยฝ้าย หลอกให้ไปแต่งงานกับชายชาวจีน โดยบอกว่าชายชาวจีนที่แต่งงานด้วยมีฐานะร่ำรวย เป็นนักธุรกิจ มีคอนโดอยู่ใจกลางเมือง และที่สำคัญหากแต่งงานจะได้เงินค่าสินสอดหลักแสนบาท แต่ปรากฎว่าในความเป็นจริง กลับไปอยู่บ้านหลังเล็กๆ บนภูเขาที่ห่างไกลตัวเมือง ไม่มีแม้กระทั่งห้องส้วม และชายชาวจีนก็ไม่ได้เป็นนักธุรกิจ แต่เป็นเข้าของฟาร์มข้าวโพด ฟาร์มเลี้ยงแกะ ฟาร์มวัว

คุณแบ๋ม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีรุ่นพี่ในหมู่บ้านแนะนำว่า คุณปุยฝ้าย สามารถจัดหาสามีชาวจีนที่มีฐานะร่ำรวยให้แต่งงานด้วยได้ เพื่อจะได้มีชีวิตที่สุขสบาย ต่อมาได้ติดต่อกับคุณแบ๋ม และคุณปุยฝ้ายได้แนะนำให้รู้จักกับชายชาวจีนชื่อ อาเต๋า จากนั้นเธอก็ได้คุยกับอาเต๋าทางวีแชทประมาณ 1 เดือน จึงได้รู้ว่าอาเต๋าไม่ใช่นักธุรกิจ แต่เป็นเจ้าของฟาร์ม และมีคอนโดเปล่าให้เช่าในเมือง

ตอนนั้นยอมรับว่าคุยถูกคอกับอาเต๋าและตกลงที่จะแต่งงาน คุณปุยฝ้ายจึงทำหน้าที่คนกลางคอยประสานงานให้ และบอกว่าจะได้ค่าสินสอด 1 แสนบาท

จนวันที่ 20 สิงหาคม เธอได้เดินทางไปประเทศจีนพร้อมกับหญิงไทยอีก 1 คน ที่จะไปแต่งงานกับชาวจีนเหมือนกัน เมื่อไปถึงที่เมืองซีอาน มณฑลฉ่านซี พบว่าอาเต๋าขับรถมารับและพาไปบ้าน ซึ่งปรากฎว่าบ้านของอาเต๋า ไม่ได้อยู่ในเมือง แต่กลับอยู่บนภูเขา ที่ค่อนข้างทุรกันดาร

จนวันที่ 29 สิงหาคม เธอจดทะเบียนสมรสกับอาเต๋า และทวงถามเรื่องเงินค่าสินสอด โดยอาเต๋าบอกว่าจ่ายให้กับเอเจนซี่ คือปุยฝ้ายไปแล้ว เธอจึงได้สอบถามไปที่คุณปุยฝ้าย ก็ได้รับคำตอบว่ายังแลกเงินไม่ได้ เลยยังไม่ได้โอนเงิน จนช่วงต้นเดือนกันยายน คุณปุยฝ้ายโอนเงินมาให้เธอ 90,000 บาท และกำชับไม่ให้บอกอาเต๋าว่าเธอมีลูกอยู่ที่ไทยแล้ว

ต่อมาเธออยากหารายได้เพิ่ม เพราะต้องส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวที่ไทย จึงขออาเต๋าทำงาน แต่อาเต๋าบอกว่าเธอจะไม่มีเงินได้อย่างไร เพราะอาเต๋าโอนเงินไปให้ปุยฝ้ายแล้ว 800,000 บาท ซึ่งเธองงมาก เพราะได้รับเงินจากปุยฝ้ายเพียง 90,000 บาทเท่านั้น

นอกจากนี้เหตุผลที่ทำให้เธอทนอยู่กับอาเต๋าไม่ได้ คือสภาพความเป็นอยู่ที่แสนจะทรมาน เวลาจะปลดทุกข์ต้องไปใช้ส้วมหลุม น้ำก็ไม่ได้อาบ เพราะอาเต๋าจะให้ตักน้ำใส่ถังแล้วเอาผ้าชุบเหมือนกับเช็ดตัว ที่สำคัญอาเต๋าไม่ชอบอาบน้ำ เวลากลับมาจากทำงานก็จะมีเหงื่อและกลิ่น เมื่อมาถึงก็จะมาขอหลับนอนกับเธอ ซึ่งตอนแรกก็ยอม แต่ตอนหลังทนไม่ได้ จึงไม่ได้นอนด้วย ทำให้มีปากเสียงกัน

วันที่ 14 กันยายน เธอจึงตัดสินใจหนีกลับประเทศไทย ต่อมาปุยฝ้ายติดต่อมาข่มขู่ ให้ชดใช้เงินกับชาวจีน 350,000 บาท โดยบอกว่าเธอผิดสัญญา ซึ่งเธอยืนยันว่าจะไม่จ่าย เพราะเป็นผู้เสียหาย

ล่าสุดคุณแพม อายุ 21 ปี ผู้เสียหายอีกคน เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า ถูกปุยฝ้ายหลอกให้ไปแต่งงานกับชาวจีน ชายชาวจีนที่แต่งงานด้วยเป็นนักธุรกิจมีฐานะร่ำรวย แต่สุดท้ายกลับไม่ตรงปก แถมยังถูกทำร้ายร่างกาย และปุยฝ้ายอมเงินค่าสินสอดเกือบล้านบาท

คุณแพม เปิดเผยว่า เมื่อกรกฎาคมปีที่แล้ว ปุยฝ้ายแนะนำให้รู้จักกับชาวจีน บอกว่าเป็นหัวหน้าผู้รับเหมาในมณฑลการซู่ มีฐานะดีร่ำรวย เธอได้คุยกับชายชาวจีนรายนี้ทางแอปพลิชันและวิดีโอคอลคุยกัน จนตกลงปลงใจว่าจะแต่งงานด้วย

จนต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เธอจึงเดินทางไปจีนเพื่อจะแต่งงาน โดยมีปุยฝ้ายไปด้วยในฐานะเอเจนซี่และผู้ประสานงาน ซึ่งเมื่อหลังจากที่จดทะเบียนสมรสก็ได้รับเงินค่าสินสอด 100,000 บาท

ต่อมาเธอกับสามีชาวจีนเริ่มมีปากเสียงกันบ่อยขึ้น โดยเฉพาะเรื่องที่สามีกลับมาจากทำงานแล้วไม่อาบน้ำ แต่จะมาขอหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอไม่ยอม สุดท้ายถูกสามีชาวจีนทำร้ายร่างกายหลายครั้ง เธอพยายามจะต่อสู้แต่ก็สู้ไม่ได้ เพราะสามีตัวใหญ่น้ำหนักถึง 100 กิโลกรัม

จนเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เธอบอกเรื่องนี้กับปุยฝ้าย แต่ปุยฝ้ายบอกให้ทนอยู่ และเธอก็ยังถูกสามีของปุยฝ้ายซึ่งเป็นคนจีนตบที่หน้า เพราะไม่พอใจที่เธอจะขอกลับไทย

จนวันที่ 29 กรกฎาคม คุณแพมจึงหนีกลับมาไทย แต่ก็ถูกปุยฝ้ายตามคุกคามข่มขู่ว่าจะต้องใช้เงินคืนให้สามีชาวจีน อีกทั้งสามีชาวจีนยังส่งข้อความมาข่มขู่ว่าจะมาหาเธอที่ประเทศไทยและจะเอาตำรวจจับ เพราะเขาจ่ายเงินให้ปุยฝ้าย 850,000 บาท เป็นค่าสินสอด ซึ่งทำให้เธอตกใจ เพราะได้เงินค่าสินสอดเพียง 100,000 บาทเท่านั้น

ขณะที่คุณปุยฝ้าย เปิดใจกับทีมข่าวว่า ไม่ได้หลอกผู้เสียหายไปแต่งงานกับชาวจีน แล้วฮุบเอาค่าสินสอด อย่างที่ถูกกล่าวหา แต่เหตุผลที่จ่ายเงินค่าสินสอดยังไม่ครบตามจำนวน เพราะข้อตกลงระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้เสียหายจะต้องอยู่กินกับชาวจีนและมีลูกด้วยกัน แต่ในเมื่อผู้เสียหายหนีมาแบบนี้ ก็ต้องจ่ายเงินค่าสินสอดคืนให้ชาวจีน โดยเธอในฐานะเป็นเอเจนซี่ก็ต้องทำหน้าที่ทวงเงินให้ชาวจีน

ที่สำคัญตอนที่เธอแนะนำชายชาวจีนให้ผู้เสียหายรู้จัก ก็บอกชัดเจนว่าทำอาชีพอะไร ไม่ได้หลอกลวงหรือสร้างโปรไฟล์ให้ชาวจีนดูดีหรือดูรวยอย่างที่ถูกกล่าวหา อีกทั้งหลังเกิดเรื่องยังถูกหนึ่งในคู่กรณีไลฟ์สดประจานว่าเธอหลอกลวง ทั้งที่ไม่เป็นความจริง


https://youtu.be/SyE35F8yA6A

คุณอาจสนใจ

Related News