สังคม

ญาติคาใจหนุ่มขับอีแต๊กดับปริศนา กู้ภัยยันไม่มีรุมประชาทัณฑ์ เผยอาการก่อนสิ้นใจคล้ายเสพยาเกินขนาด

โดย JitrarutP

9 ก.ย. 2567

70 views

ญาติคาใจเหตุชายขับรถอีแต๊ก พกยาเสพติดเข้ามาในกรุงเทพฯ เสียชีวิตหลังถูกจับกุม กู้ภัยยันไม่มีรุมประชาทัณฑ์ เผยอาการก่อนสิ้นลม ตาลอย ช็อก คล้ายคนเสพยาเกินขนาด

กรณีเกิดเหตุช่วงตี 4 ของวันที่ 8 กันยายน นายบัญชา สมิงแก้ว อายุ 45 ปี อาชีพเกษตรกร ขับรถอีแต๊กอยู่บนถนนส่ายไปมาเป็นที่น่าหวาดเสียว บริเวณหน้าโรงแรมสยาม ถนนเพชรบุรี กรุงเทพ มีชาวบ้านกว่า 10 คนทั้งขับรถยนต์ ขี่มอเตอร์ไซต์ช่วยกันไล่จับ ซึ่งเบื้องต้นชาวบ้านบอกว่า คนร้ายเมายา และขโมยรถคันดังกล่าวมาจากไซต์งานริมทางรถไฟมักกะสัน กระทั่งวิ่งไปถึงเชิงสะพานข้ามคลองแสนแสบ

ทำให้สิบตำรวจตรี พรหมมินทร์ ฤทธิ์ชัยสงค์ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ปทุมวัน ยิงปืนใส่ยางรถอีแต๊กด้านหลังซ้าย 2 นัด แต่คนขับรถอีแต๊กยังฝืนขับรถมาถึงสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ถนนรามคำแหง ก่อนที่รถอีแต๊กจะเสียหลักวิ่งขึ้นเกาะกลาง สิบตำรวจตรี พรหมมินทร์ ตัดสินใจยิงที่เครื่องยนต์จนรถดับขับต่อไม่ได้ ทำให้คนขับรถอีแต๊กวิ่งหลบหนีย้อนศรไปถึงหน้าการไฟฟ้าบางกะปิ ก่อนชาวบ้านที่วิ่งตามไปจับตัวเกิดความชุลมุนก่อนคนร้ายแน่นิ่งไป จากนั้นตามมาใส่กุญแจมือ และให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเสียชีวิต เมื่อตรวจสอบรถอีแต๊ก บริเวณเบาะคนขับพบกระเป๋าถือ 1 ใบ ภายในมียาบ้า 9 เม็ด และยาไอซ์ 1 ห่อ

ต่อมา เมื่อวานนี้ (8ก.ย.67) พนักงานสอบสวน สน.หัวหมากได้เชิญ นาย สุรกิติ เปล่งสงวน อาสาสมัครกู้ภัย ที่ประสบเหตุ มาให้ปากคำในฐานะพยานที่อยู่ในวันเกิดเหตุ บอกว่า รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีชายขับรถอีแต๊กเข้ามาในเมืองลักษณะน่าหวาดเสียว กระทั่งไปพบรถอีแต๊กคันดังกล่าวอยู่ที่บริเวณหน้าสถานีแอร์พอร์ตลิงค์ รามคำแหง จากนั้นชายคนดังกล่าวได้วิ่งหลบหนี และมีพลเมืองดีช่วยกันวิ่งไล่จับกุมไว้ได้ พอตำรวจมาถึงก็ใส่กุญแจมือที่ด้านหลัง จากนั้นราว 10 นาที ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวปัสสาวะราด มีอาการตาค้าง ตาลอย จึงขอให้ตำรวจปลดกุญแจมือ พอตรวจชีพจรพบว่าหัวใจเต้นแผ่วเบาเริ่มจึงปั๊มหัวใจ และใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้า แต่เมื่อดูท่าไม่ดีขึ้นจึงแจ้งนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนที่ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตในเวลาต่อมา

แต่ยืนยันว่า ตั้งแต่เข้าไปช่วยเหลือไม่มีชาวบ้านไปรุมประชาทัณฑ์ การใส่กุญแจมือของตำรวจก็เป็นไปตามยุทธวิธีในการควบคุมตัว แต่จากประสบการณ์ที่ทำงานด้านกู้ชีพมา อาการปัสสาวะราด ตาลอยคล้ายกับลักษณะของคนมีอาการ overdose หรือเสพยาเกินขนาด จึงเสียชีวิตด้วยอาการช็อก และตามตัวก็ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย

ทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้งหน้าการไฟฟ้านครหลวงเลย แอร์พอร์ตลิ้งมักกะสันมาเล็กน้อย ซึ่งจุดดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดแต่เป็นของการไฟฟ้านครหลวง และกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร

พันตำรวจเอก พรทวี สมวงค์ ผู้กำกับการ สน.หัวหมาก บอกว่าจากการตรวจสอบทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าของรถอีแต๊กขับมาจาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อมาหาญาติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เบื้องต้นไม่ได้รับรายงานว่ามีการรุมประชาทัณฑ์ แต่ได้รับรายงานชาวบ้านไปไล่ช่วยจับ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและประสานกลุ่มชาวบ้านเข้ามาสอบปากคำ

ขณะที่ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปคุยกับนางสาว วราพร พี่สาวของผู้เสียชีวิต บอกว่าเมื่อเช้า ตำรวจสน.หัวหมากได้เชิญญาติมาสอบปากคำแต่จะมาพรุ่งนี้ พร้อมยอมรับว่า น้องชายติดยาเสพติด ที่บ้านเคยพาไปบำบัดแล้ว แต่ไม่สำเร็จ วันที่เกิดน้องมาขอเงินน้าชาย 100 บาท แต่เงิน 100 บาทพอจะซื้อยาบ้าเหรอ ทำให้เธอติดใจสงสัยสาเหตุการเสียชีวิต เพราะเธอเห็นคลิปว่าน้องถูกเหยียบอก ถูกดึงคอขึ้นมาและพูดว่ายอมหรือยัง ซึ่งตอนนั้นน้องชายมีอาการน้ำลายฟูมปากแล้ว เธอมองว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงอาจทำให้น้องชายเธอเสียชีวิต ตอนนี้เธอก็ทำได้เพียงรอผลชันสูตรว่าน้องชายเสียชีวิตจาก การถูกทำร้ายหรือสาเหตุอื่น


https://youtu.be/qamaXzB0IvU

คุณอาจสนใจ