สังคม
รับน้องโหด! เผาขนอวัยวะเพศ-ทำร้ายสาหัส แม่พ่อพาลูกขอย้ายที่เรียน เจอรุ่นพี่กว่า 20 คนรุม
โดย JitrarutP
16 ส.ค. 2567
419 views
พ่อแม่ร้องลูกชายเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี แล้วโดนรับน้องทารุณ ทั้งเผาขนอวัยวะเพศ ทำร้ายร่างกาย ในวันที่พาลูกชายไปขอย้ายที่เรียนยังโดนรุ่นพี่กว่า 20 คน รุมทำร้าย
ราว 5 โมงเย็นวานนี้ (15ส.ค.67) พ่อและแม่ของนักศึกษาชายวัย 20 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี ระบุว่า ผู้เป็นพ่อและลูกชายโดนกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนนทบุรี รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ชนวนเหตุที่โดนทำร้ายเพราะลูกชายเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ แล้วถูกรุ่นพี่รับน้องด้วยความรุนแรง เช่น ใช้ไฟลนอวัยวะเพศ ไฟเผาขนรักแร้ ดึงขนคิ้ว บังคับกินดิน และทำร้ายร่างกายเกือบทุกวัน จนทนไม่ไหว จึงมาปรึกษาพ่อแม่ ขอย้ายวิทยาเขต แต่เคยถูกรุ่นพี่ขู่ว่าถ้าย้ายจะตามไปเล่นงานถึงบ้าน เพราะได้ยึดบัตรประชาชน และเคยตามมาถ่ายภาพครอบครัวไว้แล้ว เมื่อวานนี้ (15 ส.ค. 67) ราว 11 โมงครึ่ง ทางครอบครัวจึงพากันไปพบอาจารย์เพื่อเจรจากับกลุ่มรุ่นพี่ และทำเรื่องขอย้ายที่เรียนที่มหาวิทยาลัย
พอทำเรื่องเสร็จกำลังเดินกลับ แต่ต้องผ่านโรงอาหารของมหาวิทยาลัย ได้เจอกับกลุ่มรุ่นพี่ราว 20 คน ดักรออยู่ พอเห็นหน้าลูกชายก็เข้ามารุมกระทืบทันที โดยเน้นที่ศีรษะ พ่อที่เห็นลูกโดนทำร้ายก็เข้าไปป้องกัน ทำให้โดนทำร้ายไปด้วย จนแม่จนไม่ไหวต้องเอาตัวไปกอดลูกชายป้องกันไม่ได้โดนกระทืบอีก กลุ่มรุ่นพี่ถึงได้หยุด
พ่อผู้บาดเจ็บได้พาทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังมหาวิทยาลัยแห่งนี้ พบว่าจุดที่โดนทำร้ายอยู่ในมหาวิทยาลัย แม้จะมีคณะครูเข้ามาห้ามแต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ จนต้องแจ้งตำรวจให้มาช่วย ซึ่งการรุมทำร้ายกันครั้งนี้ทำให้ลูกชายสมองบวม หมดสติ ต้องรักษาตัวในห้องไอซียู ส่วนตัวพ่อ ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และตามร่างกาย
ช่วง 5 ทุ่มครึ่งวานนี้ (15ส.ค.67) พ่อกับแม่ต้องย้อนกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพราะคุณหมอแจ้งว่า ลูกชายรู้สึกตัวแล้ว สามารถออกจากห้องผู้ป่วยวิกฤตมาอยู่ห้องผู้ป่วยรวมได้ แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ห้ามเดิน เพราะต้องรอตรวจเช็คสมองอย่างละเอียดก่อน เมื่อพ่อและแม่เข้าไปคุยพบว่าลูกชายสามารถคุยโต้ตอบได้ ทำให้ทีมข่าวได้คุยกับน้องถึงสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เขาเล่าว่า ชนวนเหตุเริ่มมาจากที่เขาไปนั่งเล่นนั่งคุยกับเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ตอนนี้เรียนกันคนละสถาบัน พอรุ่นพี่มาเห็นก็บอกให้เลิกคบ เขาจึงอธิบายว่า เป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้คิดถึงเรื่องสถาบัน ทำให้รุ่นพี่ไม่พอใจ เข้าใจผิด คิดว่าเขาเอาเรื่องข้อมูลในสถาบันไปเปิดเผยจึงทำร้าย
มีการบังคับให้กินดินในกระถางต้นไม้ พร้อมขู่ว่า "ไม่ต้องให้แม่มึงมารับที่โรงพยาบาลหรอก ให้มารับศพที่วัดเลย" แล้ววันนั้นได้ขอตัวกลับบ้าน เพราะไม่พอใจ ทำให้รุ่นพี่ยึดบัตรประชาชน ยึดโทรศัพท์มือถือไป และยังตามไปดักถ่ายภาพที่หน้าบ้าน
พอถึงบ้านเลยเล่าพฤติการณ์ทุกอย่างให้ฟัง เรียกว่าเป็น "ลัทธิ" รุ่นพี่รุ่นน้องในองค์กร เช่น อบรมให้เรารักในระบบ ฝึกร่างกายที่ด้านนอกมหาวิทยาลัยเหมือนทหาร ให้ไปนอนในป่า ในวัด ฝึกความอดทนถูกยุงกัด ท่องกลอน ร้องเพลงของกลุ่มหากทำไม่ได้จะถูกจุดไฟเผาขน พ่นสีสเปรย์ที่อวัยวะเพศ นอกจากนี้ทุกอาทิตย์รุ่นพี่จะเรียกเก็บเงิน 100 บาท เป็นเงินกองทุนเข้าสู่องค์กรไว้ช่วยเหลือประกันตัวนักศึกษาที่ก่อเหตุ
เมื่อคืนนี้ทีมข่าวได้คุยกับ 1 ในกลุ่มรุ่นพี่ เป็นนักศึกษาชายวัย 22 ปี บอกว่า ผู้บาดเจ็บเป็นรุ่นน้องปี 1 มาขอเข้าร่วมรับน้องเอง ไม่ได้มีการบังคับ หรือข่มขู่ว่าต้องมาเข้ารับน้อง เป็นการรับน้องของกลุ่มซึ่งมหาวิทยาลัยไม่รู้ด้วย และการรับน้องก็ทำนอกสถานที่ ไม่ได้ซ้อมทารุณ หรือบังคับให้กินดิน ตามที่ถูกกล่าวหา มีแค่ลุกนั่ง วิดพื้นเท่านั้น ส่วนที่ผู้บาดเจ็บมาขอออกจากกลุ่มทราบว่ามีปัญหาส่วนตัวกันเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา และวันนั้นยังขี่มอเตอร์ไซต์ไปส่งน้องตามปกติ
กระทั่ง 14 สิงหาคม ผู้บาดเจ็บโทรมา และให้พ่อมาด่ากลุ่มรุ่นพี่ บอกว่า ’’เดี๋ยวกูจะไปเตะหน้าพวกมึงรอเลย’’ และยังท้าให้เข้าไปหา แถมยังบอกด้วยว่า "พรุ่งนี้เดี๋ยวกูเข้าไปมึงอยู่มอใช่ไหม มึงเตรียมคนมารอรับศพพวกมึงเลย เดี๋ยวกูเข้าไป’’ พร้อมส่งคลิปเสียงเป็นหลักฐานด้วย
ส่วนวันเกิดเหตุ (15 ส.ค. 67) ผู้บาดเจ็บข่มขู่ว่าจะบุกเข้ามาตัดเศียรองค์พ่อพระวิษณุกรรมที่ทุกคนต่างกราบไหว้บูชาหน้ามหาลัย ทำให้ทุกคนก็ไม่พอใจ และมีปากเสียงและทำร้ายกัน ซึ่งคนที่ทำร้ายจริงๆ ไม่เกิน 3-4 คน
ล่าสุดทีมข่าวไปคุยกับนาย กฤษณะ จิรสารสวัสดิ์ รองคณบดีกิจการนักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ แถลงแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าทางมหาวิทยาลัยมีกฎระเบียบประกาศห้ามรับน้อง หรือทำกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีการกำหนดบทลงโทษไว้แล้ว ซึ่งกิจกรรมรับน้องที่เกิดขึ้น เกิดนอกเวลาเรียนและนอกมหาวิทยาลัย ทำให้ทางมหาวิทยาลัยไม่เคยรับรู้ว่ามีการรับน้องเกิดขึ้น
แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วมหาวิทยาลัยก็มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด และมีบทลงโทษกับนักศึกษาที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบพิสูจน์ทราบตัวบุคคลว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง แต่โทษสูงสุดคือไล่ออก
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เหตุการณ์รุมทำร้ายภายในมหาวิทยาลัย เบื้องต้นพบว่ามีกลุ่มทำร้ายมี 6 คน ทั้งกลุ่มเพื่อนและรุ่นพี่ และขณะเกิดเหตุมีอาจารย์ที่ปรึกษา 2 คนเห็นเหตุการณ์ และพยายามเข้าไปห้ามปรามแล้ว แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเร็วและชุลมุน ทำได้เพียงตะโกนขอความช่วยเหลือ และประสานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปิดประตูทางเข้าออกมหาวิทยาลัย ป้องกัน กลุ่มที่ก่อเหตุรีบหลบหนีไป ทำให้ควบคุมตัวไว้ได้เพียง 2 คน
เบื้องต้น ทางมหาวิทยาลัยก็จะช่วยรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ส่วนกรณีที่ครอบครัวนายต้นบอกว่านายต้นถูกกลุ่มรุ่นพี่ตามไปคุกคามที่โรงพยาบาลขณะกำลังรักษาตัว จนครอบครัวต้องพาย้ายโรงพยาบาลนั้น ทางมหาวิทยาลัยยังไม่ได้รับทราบเรื่องนี้ แต่ก็จะเร่งตรวจสอบพฤติกรรมของรุ่นพี่กลุ่มนี้โดยเร็ว
ขณะที่ นางสาว ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรงมาก ที่ผ่านมาเคยมีการสั่งการให้แต่ละสถาบันกวดขันดูแลเรื่องการรับน้องให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่ก็ยังมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ดังนั้น ต้องมีคนรับผิดชอบ พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และเรียกประชุมโดยด่วนกับอธิการบดีและผู้บริหารของสถาบัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง รับน้องโหด ,ทำร้ายร่างกาย ,เผาขนอวัยวะเพศ