สามีข้องใจ รถหรูถูกแอบขายเพียงหลักแสน คนใกล้ชิดยัน ‘ออฟฟี่ แม็กซิม’ ต้องการขายเอง

ยังคงเป็นปริศนา กรณีรถหรูของ ‘ออฟฟี่ แม็กซิม’ หายไป เชื่อคนใกล้ชิดนำไปขาย จากราคา 6 ล้านขายเพียงหลักแสน ขณะคนนำไปขายยัน ‘ออฟฟี่ แม็กซิม’ ต้องการขายรถเอง

หนุ่ม สามีของออฟฟี่ แม็กซิม โพสต์ร่ายยาวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อ 2 วันก่อน ระบุข้อความว่า รถ Porche รุ่น boxster สีขาว หมายเลขทะเบียน ขษ 56 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถแสนรักของภรรยา ออฟฟี่ แม็กซิม จู่ๆหายไปอย่างปริศนา หลังมีคนใกล้ชิด อ้างหวังดีจะเอารถไปต่อภาษีรถยนต์ให้ จากนั้นรถก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย

หนุ่ม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 15.00 น. มีคนมารับออฟฟี่กลับบ้านไปดูแลที่บ้านย่านสายไหม จากนั้นเวลาประมาณ 20.00 น. มีคนใกล้ชิดติดต่อมาหาว่าจะนำรถไปต่อ พ.ร.บ.ภาษีรถยนต์ให้ ด้วยความที่รู้จักและไว้เนื้อเชื่อใจ จึงมอบกุญแจรถไปให้ เพราะคิดว่าน่าจะไม่มีอะไร

พอผ่านไปหลายวัน สงสัยจึงถามออฟฟี่ว่า รถหายไปไหน ซึ่งภรรยาตอบมาว่า “รถขายไปแล้ว” ตอนนั้นตนเองไม่เชื่อ เนื่องจากภรรยาเคยผ่าตัดสมองมา 2 ครั้ง เวลาพูดก็มีหลงๆ ลืมบ้าง หรือพูดผิดพูดถูก จึงไม่ได้คิดว่าจะพูดความจริง แต่พอเวลาผ่านไปอีกหลายวันก็ยังไม่เห็นนำรถคันดังกล่าวเอากลับมาคืน จึงพยายามติดต่อไปที่คนดูแลรถที่อาสาจะนำรถไปต่อ พ.ร.บ.ภาษีรถยนต์ ทุกคนก็บ่ายเบี่ยงไม่มีใครตอบคำถามอะไรเลย จนทำให้ตนเองกับอีกฝ่ายมีปัญหากัน

และคิดแล้วว่ารถน่าจะถูกนำไปขายไปแล้ว จึงพยายามออกตามหารถ โดยปรึกษาทนายความและตำรวจ แล้วก็สืบทางโลกโซเชียลจนสุดท้ายมาทราบว่า มีบุคคลหนึ่งซื้อรถของภรรยาไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ไม่มีเอกสารอะไรเลย มีเพียงการลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่ สน.สายไหม ที่ไปลงบันทึกไว้ว่ารถหายไป

เมื่อไปตรวจสอบก็พบว่าชื่อที่ครอบครองรถคันดังกล่าวยังเป็นชื่อของออฟฟี่อยู่ จากนั้นได้สอบถามคนที่ขายรถของตนเองไปว่า ถ้าหากขายรถไปจริง เอกสารการซื้อขายรถอยู่ที่ไหน ก็ได้รับคำตอบมาว่า เอกสารที่ขายรถนั้นฉีกทิ้งไปแล้ว

หนุ่ม กล่าวอีกว่า มองว่าการขายมันเป็นไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ราคาที่ขายนั้นขายไปเท่าไหร่ ตอนนี้ไม่ทราบรายละเอียดอะไรเลย แม้จะพยายามสอบถามคนที่ขายไปแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับโอนเงินจำนวนหนึ่งเข้ามาในบัญชี ตนเองจึงต้องไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนเพื่อเป็นหลักฐานว่า ไม่รู้เกี่ยวกับการซื้อขายรถคันดังกล่าว และอยากทราบว่า ขายรถไปเพียงหลักแสน ทั้งที่ราคาจริงอยู่ประมาณ 6 ล้านบาท และการซื้อขายในครั้งนี้สมบูรณ์ได้อย่างไร ในเมื่อออฟฟี่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ร่างกายซีกขวาไม่สามารถใช้งานได้ ใครเป็นคนเซ็นเอกสารเหล่านั้น เนื่องจากตัวของออฟฟี่เป็นคนถนัดขวา

หนุ่ม กล่าวว่า จากการสังเกต ในวันที่ภรรยากลับมาหา เห็นว่ามือของภรรยามีหมึกเปื้อนอยู่ที่นิ้วโป้ง ตอนแรกที่เห็นคิดว่าเป็นการปั๊มลายนิ้วมือเพื่อทำเรื่องประกัน แต่ไม่คิดว่า เป็นการปั๊มเพื่อขายรถ ที่ตนเองออกมาเรียกร้องและตามหารถ เพื่อต้องการปกป้องทรัพย์สินของภรรยาในช่วงที่ภรรยาป่วยไม่สบาย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่กลับมีคนบางกลุ่มมาฉวยโอกาสเอาผลประโยชน์ตรงนี้จากภรรยา

ส่วนคนใกล้ชิดออฟฟี่ แม็กซิม ที่ถูกกล่าวหาว่าน่าจะเป็นคนนำรถไปขาย กล่าวว่า ออฟฟี่ แม็กซิมเป็นคนที่ต้องการประกาศขายรถเอง ตนเองจึงทำหน้าที่หาคนซื้อให้ ซึ่งซื้อขายในราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท ไม่ใช่ขายหลักแสนตามที่หนุ่มให้สัมภาษณ์ และยืนยันว่าออฟฟี่เป็นคนที่ต้องการขายรถคันนี้เอง เพราะต้องการนำเงินมาจ่ายหนี้สินภาระต่างๆ

https://youtu.be/3gOCgK-kAG0