สังคม

ดรามา! รีวิวร้านหม่าล่าสนุกปาก เจอร้านเปิดหลักฐานสวนจ่อฟ้อง รีบกลับลำขอโทษวอนอย่าดำเนินคดี

โดย paweena_c

1 ส.ค. 2567

240 views

กลายเป็นกระแสเกิดขึ้นในโลกออนไลน์ หลังลูกค้าไปรีวิวร้านหม่าล่าหม้อไฟแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม ทำให้ร้านเสียหาย พอเจ้าของร้านออกมาสวนกลับเปิดคลิปหลักฐาน รีบขอโทษแทบไม่ทัน พร้อมขออย่าดำเนินคดีเตรียมชดใช้เงิน 10,000 บาท

ผู้ใช้งาน เฟซบุ๊ก รายหนึ่งไม่ระบุตัวตนโพสต์ลงกลุ่มน้องใหม่ มมส 68 บอกว่าตัวเองไปใช้บริการที่ร้านนี้บ่อยไม่เคยมีปัญหา กระทั่งครั้งล่าสุดที่ไปมีคุณป้าคนนึง น่าจะเป็นเจ้าของร้านหรือเปล่า มาพูดจาตะคอกใส่ว่าให้ปิดประตูเบาๆ และตัวเองจะหยิบจับทำอะไรก็ถูกตะคอกต่อว่า พูดจาหมาไม่รับประทาน ซึ่งในโพสต์ผู้โพสต์ยังใช้คำด่าคุณป้ารายนี้ว่า "อีแก่" อีกด้วย

ซึ่งหลังจากผู้ใช้งาน เฟซบุ๊ก ไม่ระบุตัวตนรายนี้โพสต์เรื่องดังกล่าวลงไปก็มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเห็นใจและเข้าข้างทางร้านและตำหนิคนที่รีวิวว่าใช้คำไม่สุภาพ ไม่เหมาะสมในการรีวิว

ด้านเจ้าของร้านออกมาโพสต์สวนกลับทันที เพื่อเป็นการปกป้องร้านและพนักงาน โดยระบุว่า ตามโพสต์ดังกล่าวขอชี้แจงเป็นข้อ ๆ ดังนี้

1. ลูกค้าในกลุ่มหยิบถ้วยอาหารส่วนกลาง (แป้งต็อก) ลงมาวางบนหน้าตักตัวเอง ย้ำว่าหน้าตักตัวเอง !!! ซึ่งในขณะนั้นมีลูกค้าอีก 4 ท่าน นั่งร่วมรับประทานอยู่ ทางผู้จัดการจึงแจ้งว่าหากลูกค้าเปิดแป้งต็อกแล้ว ให้ปิดด้วยเนื่องจากแป้งต็อกหากโดนอากาศนาน ๆ อาจจะทำให้แป้งแตกได้ และไม่ได้เอะอะอะไรตามโพสต์ที่ลูกค้าพิมพ์เลย

2. ตะคอกลูกค้าให้ปิดประตูเบา ๆ จากการที่นั่งดูกล้องวงจรปิดตั้งแต่ลูกค้าเข้าใช้บริการจนลูกค้าเช็คบิลออกไป ยังไม่ได้ยินเสียงตะคอกออกจากปากผู้จัดการแม้แต่คำเดียว

3. โพสต์ชี้นำให้ลูกค้าท่านอื่น "คิดดี ๆ ก่อนไปนะคะ" นี่อ่านแล้วรู้สึกแย่ค่ะ คุณควรย้อนกลับไปมองว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเกิดจากพฤติกรรมบนโต๊ะอาหารของพวกคุณไม่ให้เกียรติลูกค้าท่านอื่น อยากหยิบจับอะไรก็หยิบจับตามอำเภอใจ ซึ่งถ้าการแจ้งให้ปฏิบัติตามกฎกติกาแล้วทำให้รู้สึกไม่พอใจ ควรใช้สติไตร่ตรองก่อนโพสต์นะคะ ไม่ใช่สักแต่จะโพสต์ให้ร้านเสียหาย

ขอสาบานต่อหน้าคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริงทั้งหมด หรือหากทางคู่กรณียืนกรานว่ามีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีหรือตะคอกลูกค้าจริง ขอให้กล้องวงจรปิดบอกทุกอย่างเดี๋ยวไปเปิดครั้งเดียวในศาลค่ะ

เคสนี้ขอจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับนางสาว ด… ….. ให้ถึงที่สุด ไม่ไกล่เกลี่ยไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

ขอให้พึงระลึกไว้ว่าถึงแม้ว่าจะโพสต์แบบไม่ระบุตัวตนถ้าจะหากันให้เจอจริง ๆ มันไม่ได้ยากเกินความสามารถแน่นอน หยุดทำลายคนอื่นด้วยวิธีการสกปรกแบบนี้ มีหลากหลายช่องทางที่จะคอมเพลนเข้ามา ไม่มีร้านไหนอยากให้ร้านตัวเองเจ๊งหรอกค่ะ เชื่อว่าหากแจ้งเข้ามาทุกร้านยินดีปรับปรุงแก้ไขอยู่แล้ว

ส่วนการคอมเพลนเข้ามาทางเรารับทราบยินดีและเต็มใจที่จะปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปแน่นอนอยู่แล้วค่ะ

สุดท้ายนี้ที่ต้องออกมาโพสต์เพราะผ่านความรู้สึก "อาย" มาแล้ว ขอลุกขึ้นสู้ปกป้องร้านนะคะ ทุกอย่างมีต้นทุนเราใช้เงินลงทุน อย่าเอาน้ำลายของคุณมาทำลายธุรกิจคนอื่น สุดแล้วแต่เวรแต่กรรมจะนำพาค่ะ ขอให้โชคดีแล้วเราจะได้พบกันเร็ว ๆ นี้แน่นอน

จากนั้นทางเจ้าของร้านก็โพสต์คลิปวงจรปิดขณะที่ผู้รีวิวกำลังใช้บริการอยู่ซึ่งจะเห็นว่ามีการหยิบถ้วยแป้งต๊อกลงมาวางไว้บนหน้าตักตัวเองจริงและจะเห็นผู้จัดการ (ถุงมือสีฟ้า) เดินมาเตือน

หลังจากเจ้าของร้านได้โพสต์อธิบายเรื่องราวต่างๆลงทาง เฟซบุ๊ก ส่วนตัวก็มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจจำนวนมาก เช่น บางคนก็บอกว่าเมื่อวานเพิ่งไปมาเองพนักงานยิ้มแย้มอาหารเยอะไม่มีใครวุ่นวายแถมราคาถูกสุดๆชอบมากอยากไปกินทุกวันด้วยซ้ำ

และดูจากกล้องวงจรปิดถ้าน้องคนที่รีวิวได้มาอ่านจะบอกว่าสมควรที่โดนตักเตือนเพราะมารยาทบนโต๊ะอาหารในที่สาธารณะคุณไม่มีเลย ทำกินเองที่บ้านเถอะค่ะ อย่าไปออกสร้างความเสียหายให้ผู้อื่นไม่ว่าจะกลับทางร้านหรือคนอื่นการศึกษาก็มีหนังสืออ่านออกทุกตัวแต่ไม่มีมารยาท

อีกคอมเม้นหนึ่งบอกว่า แกไม่ได้ตะคอก แต่แกพูดเสียงดังจริง เราเคยไปกินก็เขินลูกค้าคนอื่นอยู่แต่เราก็ผิดจริงตอนนั้นน้ำมันแห้งแต่ไม่ติดไฟแกก็พูดดีนะว่าต้องปิดไฟสิลูก งั้นหม้อมันจะไหม้ ซึ่งเราก็ไม่ได้ติดใจแต่แกพูดเสียงดัง เลยอายคนเท่านั้นเอง

ซึ่งทางเจ้าของร้านก็ได้มาตอบว่า ได้บอกให้แกพูดเบาๆแล้วนะคะเดี๋ยวจบเรื่องนี้อาจจะต้องให้แกไปตรวจหูค่ะ แกฝากมาขอโทษลูกค้าด้วยนะคะ

และทางเจ้าของร้าน คอมเม้น ตอบในโพสต์ตัวเองอีกว่า เรื่องพนักงานเดี๋ยวเราจัดการเอง ไม่ไล่ออกแน่นอน ไม่สามารถให้เหยียบย่ำสุขภาพจิตใจใครโดยที่ไม่เป็นความจริง ส่วนคำแนะนำติชมพร้อมนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น

หลังทางเจ้าของร้านได้โพสต์ตอบโต้สวนกลับและมีการลงบันทึกประจำวันเพื่อดำเนินคดีกับคนที่มารีวิวทำให้ร้านเสียหาย เจ้าตัว คนที่รีวิวก็รีบ อินบ๊อก มาขอโทษเจ้าของร้านทันทีระบุว่า พี่คะหนูยอมรับผิดทุกอย่างแล้วนะคะ พร้อมเจอหน้าพร้อมขอโทษทุกอย่างที่ทำลงไป

พร้อมกราบเท้าแม่ที่หนูโพสต์ใช้คำรุนแรงแบบนั้น และเจ้าของร้านค่ะ หนูสำนึกผิดแล้วจริงๆ จำไปตลอดชีวิตเลยค่ะ และขอชดใช้เงินจำนวน 10,000 บาท เพราะหนูมีเท่านี้จริงๆพร้อมกราบขอโทษด้วยใจจริงที่ สภ.ค่ะ ตอนนี้สำนึกมากกราบขอโทษจริงๆนะคะ

หลังจากนั้น คนที่ไปรีวิว ยังโพสต์ลงกลุ่มน้องใหม่ มมส. 68 แบบไม่ระบุตัวตนอีกว่า จากกรณีที่โพสต์เรื่องร้านหม่าล่ามีสุข เมื่อ 2 วันก่อน ตอนนี้รับรู้แล้วว่าจะโดนฟ้อง หนูต้องกราบขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไปเพราะด้วยความโมโห เพราะคิดว่าป้าแกเหวี่ยงใส่ จนเกิดการโพสต์ถ้อยคำหยาบคาย ไม่สุภาพ ต้องกราบขอโทษอีกครั้ง

ส่วนตัวเป็นลูกค้าประจำ แล้วไปบ่อยไม่เคยคิดมีปัญหาอะไร แต่วันนั้นทำไปด้วยความโมโหจริงๆ ส่วนเรื่องที่ทางร้านจะฟ้อง หนูไม่มีเงินจะจ่าย ไม่มีทรัพย์สินใดๆที่จะชดใช้ให้ เพราะทุกวันนี้มีเงินติดตัวแค่พันกว่าบาท หากทางร้านต้องการให้หนูกราบขอโทษ หนูก็ยินดีหนูยังคงเป็นลูกค้าประจำที่นั่น และชื่นชมตลอดว่าร้านอาหารอร่อย

แค่เหตุการณ์วันนั้นที่ทำให้หนูโมโหและโพสต์ไปด้วยความที่โง่ ไม่ทันคิดว่าร้านจะเสียหายขนาดนี้

กราบขอโทษจากใจเด็กคนนึงที่ไม่มีสมองและขาดการย้ำคิดย้ำทำ หนูได้ทำการลบโพสต์ออกไปภายในวันที่โพสต์ไม่กี่ชั่วโมงแล้ว

ซึ่งหลังจากคนที่รีวิวมาโพสต์ลงกลุ่มแบบนี้ก็ยังมี ชาวเน็ตเข้าไป คอมเม้น อยู่ในลักษณะให้เป็นบทเรียนและตำหนิว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่ควรทำอย่างยิ่งและยังมีการแซวอีกว่าที่ อินบ๊อก หาเจ้าของร้านตอนแรกว่าจะชดใช้เงิน 10,000 บาท คือ เงินดิจิตอล wallet จากทางรัฐบาลหรือเปล่า

ทีมข่าวลงพื้นที่ร้านมีสุข บุฟเฟ่ต์หม่าล่าหม้อไฟสไตล์จีน ตั้งอยู่บริเวณทางเข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตขามเรียง มหาสารคาม พบกับคุณสำราญ มูลชัย ผู้จัดการร้าน ซึ่งเป็นคุณยายของเจ้าของร้านด้วย เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ร้านเพิ่งเปิดมาได้ 10 เดือน ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเลย แต่ในกรณีของลูกค้ารายนี้ที่ไปโพสต์รีวิวร้าน ได้มาใช้บริการร้านช่วงเย็น ของวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ระหว่างที่ลูกค้าใช้บริการ ได้หยิบถ้วยออกจากสายพาน ตนจึงเดินไปเตือนว่า อย่าหยิบถ้วยออกจากสายพาน ซึ่งไม่ได้ใช้คำรุนแรงแต่อยางใด และไม่ได้เตือนลูกค้าคนที่เป็นเจ้าของโพสต์ด้วย แต่ต่อมาร้านทราบเรื่องการรีวิว ยอมรับว่าเสียใจ ร้องไห้ 3 วันเต็ม เวลาใครถามเรื่องที่เกิดขึ้นน้ำตาก็ไหล วันแรกไม่ได้นอนเลย คิดทบทวนว่าเราพูดอะไรผิดไป ทำไมถึงต้องว่าเราขนาดนี้ ทางหลานสาวก็รู้สึกว่าลูกค้าด่าแรงเกินไป และทำให้ร้านเสียหาย จึงได้ไปแจ้งความไว้


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/qiCdM44XWEw

คุณอาจสนใจ