สังคม

ยังยิ้มได้ 'หนุ่ม กรรชัย' ไม่กังวลคดีเด็กเชื่อมจิต มั่นใจในทนายความ ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ

โดย paweena_c

2 ก.ค. 2567

66 views

"หนุ่ม กรรชัย" เดินออกมาจากศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มหลังฟังศาลไต่สวนนัดแรกนานกว่า 6 ชม. เผยมั่นใจในทนายความ เบื้องต้นศาลจะนัดไต่สวนฝ่ายโจทก์อีก 2 นัดก่อนพิจารณาว่าจะรับฟ้องหรือไม่

บรรยากาศที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ (1 ก.ค. 67) มีบรรดากองเชียร์แฟนคลับของ 'หนุ่ม กรรชัย' เดินทางมาเพื่อรอและให้กำลังใจจำนวนมาก บางคนมารอกันตั้งแต่เช้า บางคนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มาจากนนทบุรี และมีการนำป้ายมาชูเพื่อให้กำลังใจพี่หนุ่มด้วยซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลจัดสถานที่ไว้ให้สำหรับแฟนคลับพี่หนุ่มกรรชัยบริเวณหน้าศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ส่วนทางฝั่งครอบครัวเชื่อมจิตเดินทางมากันด้วยชุดสีม่วงประมาณกว่า 50 คนทุกคนขึ้นไปยังบนศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อฟังกระบวนการพิจารณาด้วย

กระทั่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาชั้นต้นศาลจะให้ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยกันก่อนซึ่งใช้เวลาพูดคุยนานกว่า 3 ชั่วโมงไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ลงตัว เนื่องจากทางฝั่งครอบครัวเชื่อมจิตต้องการให้ 'หนุ่ม กรรชัย' และรายการโหนกระแส ลบคลิปข่าวทุกคลิปที่เกี่ยวกับเชื่อมจิต ซึ่งทนายความทางฝั่งของพี่หนุ่มและช่อง 3 ยืนยันว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่สามารถทำให้ได้ จึงต้องเข้าสู่กระบวนการไต่สวนมูลฟ้อง

จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึง 16:27 น. 'หนุ่ม กรรชัย' ชัยปรากฏตัวครั้งแรกและเดินขึ้นไปยังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อฟังกระบวนการไต่สวนฯ ซึ่งเป็นการเบิกพยานฝ่ายโจทก์ก่อน 3 ปาก คือ หมอที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมครอบครัวเชื่อมจิต และพ่อกับแม่ของเด็ก 8 ขวบ

ต่อมาเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. 'หนุ่ม กรรชัย' พร้อมกับ 'กัน จอมพลัง' 'ต้นอ้อเป็นหนึ่ง' 'คุณอี้ แทนคุณ' ได้เดินออกมาจากศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ทุกคนดูอิดโรยเพราะศาลท่านใช้เวลาไต่สวนนัดแรกนานกว่า 6 ชั่วโมงเพราะเป็นคดีที่ละเอียดอ่อน สังคมให้ความสนใจ มีกฎหมายเด็กและเยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้องในคดีนี้ด้วย จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณานาน

โดยทุกคนเดินออกมาจากศาลมาพบปะกับชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นำดอกไม้มามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจให้พี่หนุ่ม กรรชัย

หลังจากนั้น หนุ่มกรรชัย ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่าการนัดไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกที่ทางครอบครัวเชื่อมจิตได้ฟ้องร้องตนในวันนี้ยังไม่เสร็จสิ้นเสียทีเดียว เบื้องต้นศาลได้นัดไต่สวนฝ่ายโจทก์อีก 2 นัด ก่อนที่จะพิจารณาว่าจะรับฟ้องหรือไม่ ส่วนตัวไม่มีความกังวลใจอะไรเพราะมั่นใจในทนายความของตนเอง พร้อมกันนี้อยากจะขอบคุณชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีทุกคนที่มาให้กำลังใจ

ด้าน นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ 'อี้ แทนคุณ' บอกว่า วันนี้หลังจากที่ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ ศาลจึงได้ไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ ซึ่งฝ่ายโจทก์ได้เบิกพยานคือหมอของน้องเชื่อมจิตขึ้นให้การ ศาลถามเรื่องพัฒนาการของเด็กตามหลักวิทยาศาสตร์และรู้ได้อย่างไรว่ามีการเชื่อมจิตสำเร็จ และรู้ได้อย่างไรว่าเป็นบุตรของพระพุทธเจ้าเป็นอนาคามีกลับชาติมาเกิด หลังจากนั้นทนายฝ่ายจำเลย คือ ทนายพรศักดิ์ ได้ขึ้นซักค้านในประเด็นต่างๆ

จนกระทั่งเวลาประมาณเกือบหนึ่งทุ่มครึ่ง ศาลจึงได้ยุติการไต่สวน และนัดหมายไต่สวนฝ่ายโจทก์อีก 2 นัด โดยการไต่สวนนัดที่ 2 จะมีขึ้น 30 กันยายน 2567 และ นัดที่ 3 วันที่ 7 ตุลาคม 2567 ซึ่งในคดีนี้ ทางตนและคณะไม่ได้หนักใจ เพราะเชื่อใจในฝีมือของทนายความฝ่ายจำเลย

ด้านต้นอ้อ เป็นหนึ่ง บอกว่า ตนโดนน้องเชื่อมจิต ชักสีหน้าใส่ในศาลถึง 2 รอบ แต่ตนก็ไม่ได้ถือสาเพราะคิดว่าเป็นเด็ก นอกจากนี้ก็ยังเห็นพฤติกรรมของน้องในศาลซึ่งไม่สำรวม ก็รู้สึกเป็นห่วง

ขณะที่เพจ facebook ดาว 8 แฉก โพสต์ข้อความระบุว่า หวิดวางมวยในห้องพิจารณาคดีระหว่างทนายตุ๋ยและพ่อน้องเชื่อม ตำรวจศาลห้ามปรามกันอุตลุด @สุราษฎร์ธานี ทำให้กลายเป็นประเด็นที่สังคมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะตลอดการพิจารณาคดีเมื่อวานนี้ทั้งวันก็ไม่มีเหตุการณ์บานปลายหรือรุนแรง

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้สอบถามกับนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยทนายพรศักดิ์ บอกว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการพิจารณาคดี เวลาประมาณ 20:00 น.

หลังการไต่สวนเบิกพยานปากแรกของฝ่ายโจทก์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้พิพากษาท่านลงจากบัลลังก์แล้ว ในห้องพิจารณาเหลือเพียงตนเองและทนายฝ่ายจำเลย ส่วนฝั่งครอบครัวเชื่อมจิตอยู่กันครบพ่อแม่ลูกรวมถึงทนายฝ่ายโจทก์

นอกจากนี้ในห้องพิจารณายังมีเสมียนและเจ้าหน้าที่ศาลอยู่ในห้องด้วย จังหวะนั้นทนายของครอบครัวเชื่อมจิต นำคำให้การของหมอคนสนิทน้องเชื่อมจิต ซึ่งเบิกความในฐานะพยานมาอ่านให้พ่อกับแม่น้องเชื่อมจิตฟัง ทนายพรศักดิ์ จึงยกมือคัดค้านเพราะตามหลักการแล้วไม่สมควรทำ

แต่พอพ่อของน้องเชื่อมจิตเห็นว่าทนายพรศักดิ์ ยกมือคัดค้านจึงลุกจากเก้าอี้ และมองหน้าด้วยสายตาอาฆาต พร้อมกับเดินปรี่เข้ามาเหมือนจะหาเรื่อง และต่อว่าทนายพรศักดิ์ด้วยความไม่พอใจว่า ยกมือคัดค้านทำไม โชคดีที่ยังมีตำรวจที่อยู่ภายในห้องพิจารณาเข้ามาห้ามพ่อน้องเชื่อมจิตได้ทัน

ทนายพรศักดิ์ บอกว่า ตอนนั้นตนรู้สึกตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้น และเกิดขึ้นในห้องพิจารณาคดีด้วย ตนจึงเตรียมที่จะไปยื่นหนังสือถึง ผอ.ศาล ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอยากให้ช่วยเข้ามาจัดการและดูแลว่าจะมีแนวทางอย่างไรในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ

นอกจากเหตุการณ์นี้แล้วก็ยังมีเหตุการณ์ที่เด็ก 8 ขวบมองหน้าคุณต้นอ้อ และมองหน้าตนเองอย่างไม่ละสายตา ซึ่งตนเห็นแล้วต้องยอมรับว่ารู้สึกสงสารและเป็นห่วงเด็กที่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้รวมถึงมีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสมในห้องพิจารณาคดี

สำหรับการไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกสืบพยานฝ่ายโจทก์ได้เพียงปากเดียว คือ หมอคนสนิทของเด็ก 8 ขวบ ซึ่งมีการเบิกความในลักษณะว่าน้องสามารถเชื่อมจิตคุยกับองค์เทพ และเบื้องบนได้ ซึ่งตนในฐานะพยานจำเลยก็มีการซักค้านในหลายประเด็น รวมถึงพยานหลักฐานทางฝั่งของตนเองเตรียมมาค่อนข้างพร้อมและนัดต่อไป 30 กันยายนนี้ ภาพรวมค่อนข้างมั่นใจว่า ไม่มีอะไรน่ากังวล




รับชมผ่านยูทูป :  https://youtu.be/OTdAKG7kd4E

คุณอาจสนใจ

Related News