ผู้โดยสารเล่านาทีระทึก ขณะตกหลุมอากาศ เผยคนไม่ได้คาดเข็มขัด กระเด็นชนเพดานเครื่องบิน

‘สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส’ ส่งเครื่องบินมารับผู้โดยสาร-ลูกเรือกว่า 140 คน กลับสิงคโปร์แล้ว ผู้โดยสารเล่านาทีระทึก ขณะตกหลุมอากาศ เผยคนไม่ได้คาดเข็มขัด กระเด็นขึ้นไปบนเพดานเครื่องบิน

ผู้โดยสารเที่ยวบิน SQ 321 จำนวน 131 คนและลูกเรืออีก 12 คน เดินทางถึงสนามบินชางงีของสิงคโปร์ เมื่อเวลา 05.05 น. วันนี้ (22 พ.ค. 2567) ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 04.05 น. ตามเวลาประเทศไทย ส่วนผู้โดยสาร 79 คน และลูกเรืออีก 6 คน ที่ได้รับบาดเจ็บจากเครื่องบินตกหลุมอากาศยังพักรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ

ซาฟราน อัซมีร์ หนึ่งในผู้โดยสารที่เดินทางกลับมา เล่าเหตุระทึกที่เกิดขึ้นให้กับผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์สว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากสำหรับเขา มันเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 10 วินาที ไม่มีใครคาดคิด และเตรียมรับมือได้ทัน เขาบอกว่า เครื่องบินเริ่มเอียงและสั่น ตัวเขาคาดเข็มขัด จึงไม่เป็นอะไรมาก แต่คนที่ไม่ได้คาดเข็มขัด พวกเขากระเด็นขึ้นไปบนเพดานเครื่องบิน

ผู้โดยสารบางคนตะโกนตอบผู้สื่อข่าวที่ถามว่า บาดเจ็บหรือไม่ ผู้โดยสารบอกว่า พวกเขาโชคดี ไม่เป็นไร

รายงานระบุว่า นายโก๊ะ ชุน ฟอง ประธานบริหารบริษัทเอสไอเอ บริษัทแม่ของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส มาต้อนรับและเตรียมรถรับส่งผู้โดยสารให้ถึงบ้านหรือโรงแรมที่พวกเขาพัก ส่วนผู้โดยสารที่รอต่อเครื่อง ก็ได้จองเครื่องบินโดยสารให้ใหม่ รวมทั้งจัดหาโรงแรม หรือที่นั่งพักเพื่อรอเดินทางไปกับเที่ยวบินต่อไปด้วย

ในส่วนของการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้สำนักงานสืบสวนความปลอดภัยด้านการขนส่งของสิงคโปร์ หรือ TSIB เริ่มการสอบสวนเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศในครั้งนี้แล้ว และได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังกรุงเทพฯ ขณะที่สำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯก็ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยตรวจสอบด้วย

สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวานนี้ (21 พ.ค. 2567) สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 เส้นทางการบินจากสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน มุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์ ประสบกับสภาพอากาศปั่นป่วนอย่างกะทันหันเหนือลุ่มน้ำอิรวดีที่ความสูง 37,000 ฟุต และเครื่องบินลดระดับความสูงลงไปที่ 31,000 ฟุตภายในระยะเวลาอันสั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังเครื่องบินออกเดินทางได้ประมาณ 10 ชั่วโมง

นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และเปลี่ยนเส้นทางเครื่องบินไปยังกรุงเทพฯ เหตุดังกล่าวทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 1 คน เป็นชายอังกฤษวัย 73 ปี เชื่อว่า เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย

ขณะที่ Flightradar 24 แอปพลิเคชันติดตามเที่ยวบิน ได้เปิดเผยข้อมูลการบินเบื้องต้นของเครื่องบินโบอิ้ง 777-330 ER เที่ยวบิน SQ 321 ว่า เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรวดเร็ว ในขณะนั้นเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และเครื่องบินมีการเปลี่ยนแปลงความสูง

ในวันนี้นายโก๊ะ ชุน ฟอง ยังได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอโทษทุกคนบนเครื่อง SQ321 ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์อันเจ็บปวด พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้โดยสารที่เสียชีวิต

ในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า ลำดับความสำคัญของสิงคโปร์แอร์ไลน์สในตอนนี้ คือการให้ความช่วยเหลือที่เป็นไปได้ทั้งหมดแก่ผู้โดยสารและลูกเรือของเรา นอกจากนี้สายการบินกำลังร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวน และจะให้ข้อมูลอัปเดตผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย

หลังเข้าช่วยเหลือลำเลียงผู้บาดเจ็บเข้ารักษา เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้นำเอกสารมามอบให้แก่สื่อ เรื่อง การเกิดอุบัติภัยหมู่ เครื่องบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ตกหลุมอากาศ ที่เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรง โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ทั้งหมด 71 ราย

ในจำนวนนี้ มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 26 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 4 ราย บาดเจ็บปานกลาง 39 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 4 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลกรุงเทพ 2 ราย และบาดเจ็บรุนแรง 6 ราย

ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาล ยืนยันว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตที่ส่งตัวมาและไม่มีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

ล่าสุด ทีมข่าวได้สอบถามทางโรงพยาบาลสมิติเวช แจ้งว่า ตอนนี้กำลังสรุปรายชื่อผู้บาดเจ็บ ซึ่งมีบางรายที่อาการดีขึ้น และเตรียมออกจากโรงพยาบาล

และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรี ของไทย คุณเศรษฐา ทวีสิน ได้โพสต์ข้อความ แสดงความเสียใจ โดยระบุว่า “ผมได้รับทราบเกี่ยวกับเครื่องบินของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ที่ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วครับ ทางการไทยพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในทุกด้าน และกระทรวงคมนาคมกำลังเร่งดูแล และประสานเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ผมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยครับ”

ทางด้าน นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสิงคโปร์ เช้านี้โพสต์ ข้อความขอบคุณประเทศไทย โดยระบุว่า ในนามของรัฐบาล และประชาชนชาวสิงคโปร์ ผมขอขอบคุณทางการไทยที่ให้การช่วยเหลือทางการแพทย์ ดูแลผู้โดยสารและลูกเรือที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้รู้สึกโล่งใจที่ทราบว่าผู้โดยสาร 131 คน และลูกเรืออีก 12 คน ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวดังกล่าว ได้เดินทางกลับสิงคโปร์อย่างปลอดภัยเมื่อเช้านี้ โดยสำนักงานสืบสวนความปลอดภัยด้านการขนส่ง กระทรวงคมนาคม สิงคโปร์ จะดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอีกครั้ง และขออธิษฐานให้ที่ได้รับบาดเจ็บ หายและกลับบ้านได้โดยเร็ว

เช่นเดียว นาย ชี ฮง ทาต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ ก็โพสต์ข้อความ ขอบคุณทางการไทยที่ให้การสนับสนุนในการอพยพผู้โดยสารและลูกเรือ และให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ ดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อันเลวร้ายครั้งนี้ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และภาวนาให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บฟื้นตัวอย่างราบรื่น และหวังว่าจะสามารถนำผู้บาดเจ็บกลับมาสิงคโปร์ได้โดยเร็วที่สุด

ส่วนการสอบสวนสาเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศนั้น นาย ชี ฮง ทาต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนความปลอดภัยการขนส่ง หรือ TSIB ของสิงคโปร์ ได้เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ แล้วเมื่อคืนนี้ เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER

นอกจากนี้ คณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ หรือ NTSB ของสหรัฐอเมริกา ยังได้ส่งตัวแทน รวมถึงที่ปรึกษาทางเทคนิค จำนวน 4คน มาร่วมในการสอบสวนสาเหตุด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/cuygH1kISeE