‘นิรมิตเทวาจุติ’ ออกแถลงการณ์ถึงนายกฯ ควบคุมพฤติกรรมสื่อ ขู่ฟ้องสื่อทั้งแพ่งและอาญา

เพจนิรมิตเทวาจุติ ออกแถลงการณ์ถึงนายกฯ ควบคุมพฤติกรรมสื่อ ปมนำเสนอข้อมูลเท็จ ขู่ฟ้องสื่อทั้งแพ่งและอาญา ฐานทำให้กลุ่มเสียหาย สังคมขัดแย้ง

จากการที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับปฏิบัติตามคำสั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางพวงเพ็ชร  ชุนละเอียด ประสานจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ตรวจสอบลัทธิเชื่อมจิต สอนธรรมะเข้าข่ายหลอกหลวงประชาชนหรือไม่ พร้อมเตรียมลงพื้นที่คุยกับพ่อแม่ของน้องไนซ์ เชื่อมจิต ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก

ต่อมา ค่ำวานนี้ (24 เม.ย. 2567) เพจนิรมิตเทวาจุติไลฟ์สด “นารีสวรรค์เผยความจริง เชื่อมจิต มีบัญญัติในพระไตรปิฎก” โดยมีแอดมินหญิง 2 ราย และช่วงหนึ่ง ได้อ่านแถลงการณ์ ใจความว่า ตามที่สื่อมวลชน ได้เผยแพร่ ภาพถ่ายของน้องไนซ์และนำเสนอเนื้อหา เชิงกล่าวหา ว่าอ้างตนความอันเป็นเท็จ พระสงฆ์ก้มกราบน้องไนซ์ จนเป็นเหตุให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์และเข้าใจผิด ซึ่งสาเหตุมาจากการนำเสนอข่าวอันเป็นเท็จของสื่อสารมวลชน ด้วยเหตุนี้กลุ่มนิรมิตเทวาจุติ จึงจะดำเนินการทางกฎหมาย และระเบียบทางด้านปกครอง 3 ข้อ ดังนี้

1.ยื่นเรื่องราวร้องเรียนนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้มีมาตรการควบคุมพฤติกรรมของสื่อ ที่นำเสนอเรื่องราวอันเป็นเท็จ ทำให้สังคมบิดเบือน และเกิดความขัดแย้งเป็นวงกว้าง รวมทั้งขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อปฏิรูปการทำงานของสื่อ

2.ดำเนินการเอาผิด ทั้งทางแพ่งและอาญา กับสื่อที่นำเสนอข่าวเท็จ ทำให้น้องไนซ์และครอบครัว รวมทั้งกลุ่มนิรมิตเทวาจุติ ที่ทำให้ได้รับความเสียหาย รวมทั้งฟ้องร้องเจ้าของช่อง ขอให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ

และ 3.แถลงข้อเท็จจริงชี้แจง ความคืบหน้าการดำเนินคดี ทุกแพลตฟอร์มของกลุ่ม เพื่อให้ประชาชนได้ทราบความคืบหน้า

ด้านทนายอนันต์ชัย ไชยเดช และประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ผู้ออกมายืนยันจะฟ้องร้อง ตั้งแต่ก่อนที่เพจนิรมิตเทวาจุติจะไลฟ์สด เพราะมีรูปของทนายอนันต์ชัยในโพสต์ด้วย ว่า การอ้างว่าเชื่อมจิต มีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก เรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ หากไม่จริง แล้วนำเรื่องไม่จริง ออกเผยแพร่สู่สาธารณะ ผมจะจัดให้เข็ด ทั้งผู้นำเข้าข้อมูล และแอดมินผู้เผยแพร่ด้วย เพราะการกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560

ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า ไม่ได้ดูไลฟ์สด แต่มีคนส่งมาให้ ซึ่งไม่ขอวิจารณ์ และให้คำแนะนำแก่ผู้เกี่ยวข้อง ที่จะเข้าตรวจสอบลัทธิเชื่อมจิต โดยสงสัยว่า น้องไนซ์เป็นเด็กพิเศษ ที่มีความจำดี ไม่ใช่เด็กวิเศษ การเข้าตรวจสอบในพื้นที่ ต้องนำหมอเด็ก ผู้รู้ด้านพระไตรปิฎก พระธรรมวินัย เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ตำรวจร่วมพูดคุยด้วย และต้องแยกพ่อแม่เด็กออก

ทนายอนันต์ชัย กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน 15 วัน ก่อนที่ทางมูลนิธิทนายกองทัพธรรมจะดำเนินการต่อไป

รับชมทางยูทูบที่ :https://youtu.be/cxd9Ev-_wN8