ส่งกำลังใจ ‘ตร.ทางหลวง’ ถูกสาวขับกระบะชนสาหัส ล่าสุดยังไม่พ้นขีดอันตราย

ร่วมส่งกำลังใจ ตำรวจทางหลวงลพบุรี ถูกสาวขับกระบะชนสาหัส ขณะยืนโบกรถช่วงสงกรานต์ เร่งพาขึ้น ฮ.เข้ากรุง แต่ขึ้นบินได้ 5 นาที ต้องปรับแผน ต้องกลับมาลงจอด เนื่องจากอาการทรุด

จากกรณีที่ ดาบตำรวจ ปิยนันท์ สีเสื้อ ตำรวจทางหลวง หมวดทางหลวงบ้านดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี กำลังปฏิบัติหน้าที่ อำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกลางสงกรานต์ อยู่บนทางหลวงหมายเลข 21 หมู่ที่ 4 ตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม ถูกรถกระบะนิสสันสีขาว ขับมาชน จนร่างอาบตำรวจปิยนันท์ กระเด็นลอยไปไกลราว 10 เมตร ศีรษะด้านหนักกระแทกกับพื้นล้มหมดสติอาการสาหัส เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น เมื่อวานนี้

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย จากมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอยู่ด้วยกัน ได้รีบนำตัว ดาบตำรวจ ปิยนันท์ ส่งโรงพยาบาลพัฒนานิคม อำเภอพัฒนานิคม /ส่วนคนขับรถกระบะ ทราบชื่อต่อมา คือ นางสาวพรเพ็ช ปั้นสมใจ หลังเกิดเหตุไม่ได้หลบหนี ถูกควบคุมตัวพาไปสอบสวนที่ สภ.พัฒนานิคม เบื้องต้นให้การว่า ขณะเกิดเหตุตำรวจทางหลวงได้วางกรวยขยายช่องทางพิเศษ แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางคอขวด และช่วงนั้น ดาบตำรวจปิยนันท์ ยืนโบกรถอยู่ จึงไม่ทันสังเกต ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ ขณะนี้จึงยังไม่ได้ตั้งข้อหา เนื่องจากต้องรอสอบปากคำเพิ่มเติม และรอดูอาการของผู้บาดเจ็บก่อน

ส่วนอาการของ ดาบตำรวจปิยนันท์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีอาการทางสมอง สำนักงานตำรวจทางหลวงลพบุรี จึงได้ประสานงานกองบินตำรวจ เพื่อขอสนับสนุนให้นำเฮลิคอปเตอร์มารับผู้บาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลพัฒนานิคม เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ในกรุงเทพฯ

จนเวลา 4 ทุ่ม เฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจ พร้อมแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉิน ได้บินมาลงจอด ณ สนามโรงเรียนพัฒนานิคม ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลราว 1 กิโลเมตร แต่ปรากฏว่าหลังเฮลิคอปเตอร์ได้ยกตัวขึ้นไปได้ประมาณ 5 นาที นักบินได้ประสานกลับลงมายังภาคพื้นเพื่อนำเฮลิคอปเตอร์ บินกลับมาลงจอดที่จุดเดิม

เนื่องจากได้รับแจ้งจากทีมแพทย์ที่ดูแลอยู่บนเครื่องว่า ชีพจรของดาบตำรวจปิยนันท์ ตกกะทันหัน ความดันไม่คงที่ เนื่องจากความกดอากาศ คนไข้อยู่ในอาการวิกฤติ ไม่สามารถนำไปต่อได้ จึงได้ให้รถโรงพยาบาลพัฒนานิคมมารับ และทีมแพทย์ได้ประเมินแล้ว จึงได้ส่งตัว ดาบตำรวจปิยนันท์ ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช อำเภอเมืองลพบุรี

ล่าสุดทีมแพทย์ประเมินว่า เสียเลือดมาก และมีภาวะสมองบวม ถือเป็นอาการที่มีความรุนแรงมาก หากไม่รับการรักษาอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หรือหากรับการรักษาช้าเกินไป ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวตามมา ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดเป็นการด่วน โดยเบื้องต้นได้ให้ยากระตุ้น เพื่อให้ชีพจร และความดันกลับมาคงที่ แต่ต้องดูอาการหลังการผ่าตัดอีกครั้ง และยังคงต้องอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย

https://youtu.be/bl2tiYDLs_Q