เพื่อนบ้านกร่าง! ถอยกระบะชนรั้ว หลังพ้นคุกก่อเหตุซ้ำ ลากปืน-มีด บุกบ้าน ลั่นที่ผ่านมาถูกใส่ร้ายตลอด

ไม่สลด! เพื่อนบ้านขับกระบะถอยชนประตูรั้วบ้านคู่กรณี กร่างใส่ตำรวจแถมยิงปืนขู่ เคยถูกจับแต่ได้ประกันตัว ออกมาก่อเหตุซ้ำอีก

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา นายเอก ขับรถกระบะจอดที่หน้าบ้านของคู่กรณีก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะกัน และทางฝั่งคู่กรณีที่อยู่ในบ้านพยายามจะต่อยนายเอก นายเอกจึงลากมีดสปาต้าลงมาฟันประตูรั้วบ้านหลายครั้งจนพังเสียหาย ก่อนตะโกนถามว่าอยากกินลูกซองไหม จากนั้นเดินไปหยิบของลักษณะคล้ายปืนลูกซองยาว พันด้วยผ้าขนหนูและยกขึ้นมาพาดบนรั้วบ้านของคู่กรณี ทำให้คู่กรณี ต้องล่าถอยหนีกลับเข้าบ้านแทบไม่ทัน

ทีมข่าวเที่ยงวัน ทันเหตุการณ์ คุณนฤชา กมุทโยธิน ลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุย่านดอนเมือง และได้พูดคุยกับคุณแอม บอกว่า ครอบครัวของเธอรู้จักกับ นายเอกช่วงต้นเดือนมกราคม ปี 2567 ในฐานะเพื่อนบ้านกัน ตอนแรกก็ปกติดี นายเอก เคยซื้อกะปิมาฝาก และยังช่วยอุดหนุนห่อหมกที่เธอทำขายหลายครั้ง ต่อมาช่วงเดือนต้นเดือนกุมภาพันธ์ เอกได้ชักชวน นายบอย น้องชายของสามีเธอไปทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ด้วยกัน

แต่นายบอย ปฏิเสธ นายเอกจึงทำทีพาไปเลี้ยงที่ร้านเหล้า โดยวันนั้นนายเอกมีการใช้นายบอยไปกดเงินสดให้จำนวน 20,000 บาท จ่ายค่าเด็กเสิร์ฟ 1,500 บาท และให้เงินนายบอยอีก 5,000 บาท

หลังจากเอกส่างเมา กลับมาทวงเงินที่เลี้ยงเหล้านายบอยจำนวน 50,000 บาท พร้อมเรียกให้บอยไปเก็บกวาดบ้านเพื่อใช้หนี้และยึดโทรศัพท์ไป ซึ่งโทรศัพท์เครื่องนั้นเป็นของแอม แอมจึงรีบไปทวงคืนจากเอก แต่นายเอกก็บ่ายเบี่ยงไม่คืนให้ แอมจึงตัดสินใจไปแจ้งความ ต่อมา วันที่ 10 กุมภาพันธุ์ ตำรวจช่วยเข้าไปพูดคุยกับเอก แต่ก็ไม่เป็นผล หนำซ้ำยังควักปืนขึ้นมายิงข่มขู่ต่อหน้าตำรวจ 7-8 นัด

ขณะเดียวกัน เช้าวันรุ่งขึ้นตำรวจจึงจับกุมตัวเอกไปฝากขังที่ สน.ดอนเมือง และส่งฝากขังที่ศาล ติดคุกอยู่ 2 สัปดาห์ ญาติของเอกก็ไปประกันตัว จากนั้นนายเอกก็วนเวียนมาข่มขู่คุกคามที่บ้านหลายครั้ง เธอจึงบอกว่าถ้าอยากได้เงินคืน ก็จะคืนค่าเรียกเด็กและเงินที่ให้นายบอยมา รวม 6,500 บาท แต่ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้

ต่อมาวันที่ 6 มีนาคม เอกบังเอิญเจอเธอที่ร้านสะดวกซื้อ ปรากฏว่า เอกเดินเข้าไปทวงเงินแล้วตบหน้าเธอกลางร้านค้า เธอจึงไปแจ้งความตำรวจ สน.ดอนเมือง อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดใด ต่อมาวันที่ 7 มีนาคม เอกได้ขับรถกระบะเข้ามาในซอย และถอยรถชนรั้วจนรถ และข้าวของในบ้านพังเสียหาย

วันที่ 8 มีนาคม เธอทราบข่าวว่าเอก ถูกตำรวจจับในพื้นที่ สน.วังทองหลาง โดยตำรวจส่งตัวไปที่โรงพยาบาลศรีธัญญา แต่ปรากฏว่าทางโรงพยาบาลไม่รับ เพราะเอกเป็นมะเร็ง แพทย์ให้กลับไปรักษาตัวก่อน จนเอกกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง เมื่อ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา

คุณ แอม บอกว่าเธอแจ้งความกับตำรวจนับ 10 ครั้ง แจ้งความจนท้อ แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมนายเอกเข้าคุกได้ ทำให้ เธอและครอบครัวต้องอยู่กันแบบหวาดระแวง เพราะไม่รู้ว่านายเอกจะกลับมาคุกคามอีกเมื่อไหร่ อีกทั้งมองว่าหลังจากนี้นายเอกอาจจะกระทำรุนแรงขึ้น เช่น การทำร้ายร่างกาย ม่ใช่แค่ทำลายทรัพย์สินเหมือนที่ผ่านมาแล้วก็ได้

ขณะที่นายบอย น้องของสามี บอกว่าตนเป็นต้นเรื่องเป็นคู่กรณีกับนายเอก หลังจากที่มีปัญหากันเมื่อครั้งที่ผ่านมา

ล่าสุดวันที่ 30 มีนาคม ก่อนที่เอก จะต้องไปขึ้นศาลเพียง 1 วัน นายเอกได้มีการไลฟ์สด ตั้งแต่ขับรถเข้ามาในหมู่บ้านบีบแตรลากยาวมาตลอดทาง จากนั้นก็เข้ามาจอดรถขวางประตูบ้านที่ตนเองอยู่กับพี่ชาย และก็ลงมาตะโกนด่า ถามว่าจะเอายังไงๆ และใช้มีดฟันที่ประตูจนพังเสียหาย

โดยตนเห็นว่านายเอก พกมีดดาบมาด้วยอีกหลายเล่มอยู่ในรถ จึงตอบโต้กลับได้แค่เพียง พยายามชกไปที่หน้าของนายเอกแต่ก็โดนแค่ปลายนิ้วจากนั้น นายเอกก็กลับขึ้นไปบนรถและลากปืนลูกซองลงมาทำท่าจะยิง ซึ่งตนเองเห็นเลยว่าเป็นปืนลูกซองแน่นอน จึงรีบหนีกลับเข้าไปในบ้าน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่า เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และกฎหมายก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้พอจับตัวไปก็ได้ประกันตัวออกมา ตนจึงอยากเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยจัดการกับนายเอกด้วย เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตรายและทุกวันนี้ที่บ้านตนเองต้องอยู่อย่างหวาดระแวงไม่กล้าจะออกไปไหนมาไหน

จากการสอบถามนายเอก บอกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องเงินเลี้ยงเหล้าอย่างที่อีกฝ่ายให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ แต่เป็นเรื่องที่ในบอยโกหกตนว่าเป็นครูสอนยิงปืนและบอกให้ตนหาปืนมาให้ ตนก็ไปหามาให้ในราคาหลักหมื่นบาท

แต่ปรากฏว่านายบอยไม่มีเงินจ่าย ตนจึงเสนอให้มาทำงานปล่อยเงินกู้ด้วยกัน แต่นายบอยก็ไม่รับผิดชอบอะไรเลย จึงมีปัญหากันก่อนที่นายบอยจะนำปืนมาคืนใน วันที่10 มีนาคม วันที่ตำรวจมาที่บ้าน และหลังจากนั้นก็เริ่มมีการให้ข่าวกล่าวหาตัวเองว่า เป็นเพื่อนบ้านมหาภัย เป็นบ้า มีปัญหาทางจิตจนลูกเมียทิ้ง และให้ข่าวใส่ร้ายตนมาโดยตลอดเอาความดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่นโดยที่บอยไม่พูดความจริง

ซึ่งที่ตนเองรับไม่ได้คือบอย พูดแต่เรื่องโกหก เช่นเรื่องที่ไปเที่ยว มีการเรียกผู้หญิงมาเอ็น ดื่มเหล้ากินหมดไปเท่าไหร่ตนเป็นคนดูแลจ่ายให้ทั้งหมด บอยหายไปกับผู้หญิงทั้งคืน แต่มาโยนความผิดให้ตน จนทะเลาะกับเมีย ส่วนบอยก็ลอยตัวไม่สนใจอะไร ทิ้งให้ตนรับผิดชอบฝ่ายเดียว

ตนเองจึงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเสียศักดิ์ศรี ที่ผ่านมาตนเองยอมติดคุก ยอมถูกตำรวจจับ แต่วันนี้ขอฝากถึงนายบอยหรือว่า บอย ต้องเป็นฝ่ายติดคุกบ้าง จากสิ่งที่บอยกระทำ

https://youtu.be/NzXOfJ6fDRI