สังคม

‘หนุ่ม 17’ ร้อง ถูกพนง.ตื๊อขายคอร์ส ‘นวดหน้าน้ำทองคำ’ กลางห้างฯ หลงเชื่อหมดเงินเป็นแสน

โดย JitrarutP

19 มี.ค. 2567

2.6K views

เยาวชนชายวัย 17 ปี สุดงง ไปเดินเที่ยวห้างย่านพระรามสอง โดนพนักงานขายคอร์สเสริมความงามตื้อให้ซื้อคอร์ส สุดท้ายสูญเงินไปกว่า 1 แสนบาท  พ่อโอด ลูกป่วยเป็นอาการหลงเชื่อง่าย

กรณีเพจอีซ้อขยี้ข่าวโพสต์ข้อความว่า “หนุ่ม 17 ปี ไปเดินห้างย่านพระรามสอง มีพนักงานของคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง กรุเข้ามาลากไปปิดการขาย ถ้าไม่ซื้อไม่ปล่อยกลับ สุดท้ายเสียเงินร่วมแสน” เช้าวันนี้ (19 มี.ค.) เยาวชนชายพร้อมพ่อไปแจ้งความที่ สน.ท่าข้าม ระบุว่า ลูกชายโดนขายคอร์สเสริมความงามที่ห้างสรรพสินค้าย่านพระรามสอง ทำให้ต้องจำใจเข้าไปใช้บริการ 3 ครั้ง แต่ละครั้งที่เข้าไปใช้บริการเพราะความเกรงใจ และกลัวว่าจะมีผลกระทบกับตนเอง

โดยครั้งแรกคือวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ไปเที่ยวห้างชื่อดังย่านพระราม 2 กับเพื่อน เผอิญเจอคลินิกดังกล่าวพูดชักชวนให้มาใช้บริการด้วยโปรโมชั่นต่าง ๆ เมื่อเพื่อนเห็นเลยสนใจ จึงชักชวนให้เขาเข้าร่วมใช้บริการด้วย ในวันนั้นโดนขายคอร์สบริการนวดหน้าด้วย “น้ำทองคำ” และเสียค่าคอร์สไป 6,500 บาท แบ่งเป็นการโอนเงิน 3 ครั้ง  ครั้งแรก 12.44 น. จำนวน 3,000 บาท ครั้งที่ 2 เวลา 13.13 น. จำนวน 2,000 บาท และครั้งที่ 3 เวลา 14.17 น. เป็นเงิน 1,500 บาท

ต่อมาไปใช้บริการที่ร้านวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ไปใช้บริการครั้ง 2 ใช้บริการมาร์คหน้าทองคำ บริการบำรุงกล้ามเนื้อท้องและทรีทเม้นท์ต่าง ๆ รวมทั้งซื้อผลิตภัณฑ์เป็นครีมกระปุกบำรุงผิวหน้ามา 2 กระปุก

โอนครั้งแรก เวลา 13.14 น. 5,000 บาท เวลา 13.36 น. โอนครั้งที่สองเป็นเงิน 5,000 บาท เวลา 14.15 น. โอนเงินอีก 15,000 บาท เวลา 14.28 น. โอนอีก 2,250 บาท เวลา15.47 น. โอน 42,750 บาท และเวลา 16.32 น. โอนไป 20,000 บาท เพียงวันเดียวเพียงแค่ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เยาวชนชายคนนี้โอนเงินไป 6 ครั้ง รวม 9 หมื่นบาท

กระทั่งวันที่ 29 กุมภาพันธ์ เขาไปรับบริการครั้งที่ 3 เสียค่าใช้จ่าย 6,500 บาท โอนไปตอน 13.44 น. เท่ากับว่า 3 ครั้งที่ไปรับบริการเสียค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 103,000 บาท เยาวชนชายอ้างว่า จำไม่ได้ว่าคนในคลินิกมีการรบเร้าหรือบีบบังคับให้ซื้อคอร์สหรือไม่ แต่ที่ตกลงรับบริการและซื้อคอร์สต่าง ๆ ก็เพราะกลัวว่า ถ้าหากว่าไม่ตกลงซื้อของ หรือรับบริการจากคลินิกจะได้รับอันตราย จึงตกลงซื้อคอร์สหรือรับบริการต่าง ๆ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา รู้สึกเครียดอย่างมากและไม่กล้าบอกพ่อแม่ จนพ่อแม่มาทราบเรื่องเมื่อพบว่าเงินในบัญชีหายไป จึงตัดสินใจบอกพ่อแม่ และครั้งนี้จะถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับเขา หลังจากนี้จะไม่หลงเชื่ออะไรง่ายๆ อีกแล้ว

ด้านคุณพ่อของเยาวชนชาย ระบุว่า ลูกชายป่วยเป็นอาการหลงเชื่อง่ายและอ่อนไหวเครียดง่ายมานานแล้ว ซึ่งคุณพ่อเพิ่งมาทราบเรื่อง เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพราะพบว่าเงินในบัญชีหายไป เพราะเขาและลูกใช้เงินบัญชีเดียวกัน แต่ลูกก็ไม่กล้าบอก เพราะลูกกลัวว่าพ่อจะป่วยหนักกว่าเดิม จนต้องไปคะยั้นคะยอ ทำให้ลูกกล้าที่จะรับสารภาพว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านี้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ แล้วติดต่อคลินิกเพื่อขอคืนเงิน

แต่ปรากฏว่าคลินิกดังกล่าวเพิกเฉยและไม่ติดต่อกลับมา จึงตัดสินใจที่จะแจ้งความ เพราะตามกฎหมายแพ่งแล้ว คลินิกดังกล่าว ไม่สามารถทำหัตถกรรมลูกของเขาได้ เพราะเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน จึงถือเป็นโมฆียะ เขามีสิทธิบอกล้างได้

ล่าสุดทางคลินิกได้ติดต่อกลับมาแล้ว พร้อมยินดีคืนเงินให้ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาเจรจาบ่ายนี้


รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/2RTRkDtO8Lo

คุณอาจสนใจ