ผบ.ตร. เตรียมเรียก 'บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กเต่า' เคลียร์ใจ หย่าศึกภายใน 'วงการตำรวจ' บ่ายวันนี้

บิ๊กต่อ เตรียม เรียก บิ๊กโจ๊ก และ บิ๊กเต่า เคลียร์ใจกันบ่ายวันนี้ หลังมีวิวาทะใหัสัมภาษณ์ผ่านทางสื่อมวลชนอย่างเผ็ดร้อน ด้าน "นายกฯ" ติง บิ๊ก ตร. โต้กันผ่านสื่อ ลั่น เป็นผู้ใหญ่แล้วควรรู้ อะไรควรไม่ควร

ช่วงเช้าวานนี้ (22 ก.พ.) บิ๊กโจ๊ก หรือ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นัดนักข่าวแถลงเรื่องที่มีข่าวว่าถูกแจ้งข้อหา มาตรา 157 และ 149 ซึ่งเชื่อมโยงมาจากคดีเวปพนันมินนี่ โดยบอกว่าไม่เป็นความจริง และคดีนี้พนักงานสอบสวนไม่มีสิทธิ์ทำคดีด้วย เพราะถ้าเป็นไปตามที่ "ท่านรองผู้ทรงพลัง" บอก คือ คดีนี้เป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน มูลค่าเกินกว่า 300 ล้านบาท ต้องเป็นคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจ และการไปบอก ป.ป.ช.ว่าจะเอาคดีมาทำเอง ถือว่าไม่เหมาะสม มันเกินไป และพนักงานสอบสวนที่ทำคดีระวังจะติดคุก

ขณะที่ "บิ๊กเต่า" พลตำรวจโท จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะโฆษกคณะพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันมินนี่ โต้กลับเรื่องนี้ว่า คดีนี้ต่อให้ยศเล็กกว่านี้ก็สามารถทำคดีนี้และออกมาให้สัมภาษณ์ได้ เพราะได้รับคำสั่งแต่งตั้งจาก ผบ.ตร. และเว็บพนันมินนี่มีมูลฐานความผิดไม่เกิน 100 ล้านบาท แต่ที่บอก 300 ล้าน รวมกันหลายเว็บ และที่ออกมาขู่จะฟ้องกลับพนักงานสอบสวนก็ไม่กลัว พร้อมเดินหน้าชนด้วยความถูกต้อง ขอให้อย่าทรยศองค์กร เหมือนที่ทรยศเจ้านายมาแล้วหลายๆ คน

ส่วนประเด็นที่บิ๊กโจ๊กบอกว่า เขาไม่มีเส้นทางการเงินเข้าหรือออกที่ไปเกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์แน่นอน พร้อมให้เรียกแม่มาสอบเลย หรือถ้าจะตรวจสอบเส้นทางการเงินก็ยินดี แต่จะมาโยงว่าเส้นเงินที่บิ๊กโจ๊กให้ พันตำรวจโท คริษฐ์ ดูแลเรื่องการใช้จ่ายส่วนตัว ไปเกี่ยวกับเงินในบัญชีม้าของพันตำรวจโท คริษฐ์ ไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้เรื่อง เรื่องของพันตำรวจโท คริษฐ์ ก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน แต่ไม่ทิ้งลูกน้องแน่นอน

พร้อมตั้งคำถามว่า ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนายตำรวจระดับสูงรับเงินเว็บพนันตั้งหลายคน ทำไมไม่ไปจัดการ และเขาไม่ได้ดูแลเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ แต่ทำไมถึงมาจ้องเล่นงานกัน เชื่อว่าเหตุการณ์ที่้เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการจงใจดิสเครดิตเพื่อผลประโยชน์ในอนาคต ซึ่งเป็นมาแบบนี้ตั้งเดือนตุลาคม 2566 แล้ว พร้อมย้ำว่าครั้งหน้าให้เอาเบอร์ใหญ่มาชี้ อย่าทำตัวเป็นอีแอบ

สำหรับประเด็นที่ถูกอีกฝ่ายตั้งคำถามว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง และให้ลูกน้องมาพูดแทน "บิ๊กเต่า" ตอบโต้เรื่องนี้ว่า ที่หัวหน้าไม่ออกมาพูดเพราะเขาเน้นทำงาน ไม่เน้นพูด และเรื่องนี้ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง หรือต่อให้มี เขาก็ไม่เกี่ยว แต่ที่ปล่อยผ่านไม่ได้ เพราะเข้าไปทำคดีแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานมันมีเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จะปล่อยผ่านไม่ได้

ส่วนที่อีกฝ่ายตั้งคำถามว่า ทำไมถึงโดนอยู่คนเดียวนั้น ตัวเขาต้องรู้ดีที่สุด แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้สงสารน้องๆ ทุกคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวจนต้องโดนไปด้วย เพราะต้องทำตามผู้บังคับบัญชา ไม่กล้าบิดพริ้ว มองว่าน้องๆ ขึ้นเรือผิดลำ และเรือลำนี้กำลังจะล่ม

ล่าสุดพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้พูดประเด็น ที่ 2 บิ๊กตำรวจ คือ บิ๊กเต่า และ บิ๊กโจ๊ก มีการปะทะคารม กันจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้ลอยตัว และตนก็คุยกับรอง ผบ.ตร. ทุกวัน โดยวันนี้ช่วงบ่ายจะเรียกทุกคนมานั่งคุย รวมถึง พลตำรวจตรีจรูญเกรียติด้วย

เพราะถ้าเป็นอย่างนี้พี่น้องประชาชนจะเชื่อถือได้อย่างไร ถ้าตำรวจยังทะเลาะกัน ตนจะออกเป็นคำสั่งว่าการให้ข้อมูลข่าวสารให้ตั้งโฆษกขึ้นมาให้มีการกระจายข่าวที่เดียว

ส่วนประเด็นที่ บิ๊กโจ๊ก ถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง หลังถูกกล่าวหาในความผิดมาตรา 149 และ มาตรา157 เรื่องนี้ตนยืนยันว่า บิ๊กโจ๊ก ยังไม่ได้ถูกดำเนินคดี ยังเป็นผู้บริสุทธิ์

นอกจากนี้ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ยังกล่าวถึงประเด็นที่ถูกพลตำรวจตรีนำเกีรยติ ธีระโรจนพงษ์ หนึ่งในลูกน้องคนสนิทของบิ๊กโจ๊ก และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีเวปพนันมินนี่ ฟ้องดำเนินคดีมาตรา 157 ว่าตนได้คุยกับทีมของบิ๊กโจ๊กแล้ว

ตนยังไม่เห็นในร่างคำฟ้องว่าฟ้องเกี่ยวกับเรื่องอะไร แต่จากที่ได้พูดคุยกับบิ๊กโจ๊ก เรื่องที่ฟ้องไม่เกี่ยวข้องกับเวปพนันมินนี่ หรือ การโยกย้าย พลตำรวจตรีนำเกียรติ และตนก็ไม่ได้เป็นคนสั่งย้าย พลตำรวจตรีนำเกียรติออกจากตำแหน่งเดิม ซึ่งการร้องเป็นสิทธิ์ของตัวเขา พอมีเอกสารฟ้องร้องเผยแพร่ ปรากฎในช่วงนี้มันก็กลายเป็นประเด็นในสังคม

วันนี้ที่ตนเป็นผบ.ตร. มันไม่มีความจำเป็นที่ตนจะต้องไปชกกับใคร องค์กรมันมีวัฒนธรรม มีอะไรก็ต้องมาพูดคุยกันจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ ถ้าจะสู้ก็ขอให้สู้ด้วยงานสู้ด้วยเรื่องเท็จจริง ที่ผ่านมาตนเองก็โดนมาเยอะ

ทั้งนี้ตนยังไม่ทราบว่าบิ๊กโจ๊ก พูดว่ามีนายตำรวจยศใหญ่ในคดีเว็บพนันที่เป็นอีแอบ ไม่ยอมออกมาเคลื่อนไหวเอง ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกมาชี้แจงตลอด ตนก็ยังไม่ทราบว่าอีแอบนั้นคือใคร แต่ตนอยากจะบอกว่าใครเจ๋ง ก็ต้องเก็บไว้ นักเลงเขาไม่พูดกัน ตอบโต้กันองค์กรมันเสียหาย

เรื่องปัญหาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังมีความเห็นของนายกรัฐมนตรี คุณเศรษฐา ทวีสิน

ท่านนายกฯ บอกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นประเด็นทางการเมือง แต่เป็นประเด็นการทำผิดกฎหมาย ที่จะต้องพิสูจน์ ว่า ใครเป็นผู้ทำผิด เพราะรัฐบาลนี้ยึดหลักการทำในสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมาย ถ้ามีข่าวออกไปว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เอง มีส่วนพัวพันในเรื่องที่ผิดกฎหมาย ความไว้วางใจและความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัยก็จะลดน้อยลงไป จึงอยากให้มีการพิสูจน์โดยเร็ว โดยใช้กฎหมายเป็นหลัก โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกๆฝ่าย

ส่วนที่มีการแถลงข่าวตอบโต้กันผ่านสื่อ ท่านนายกฯ บอกว่า ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ควรที่จะทราบว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ และยืนยันว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาวันนี้ยังไม่ถือว่าผิดกฎหมาย ผมย้ำตลอดว่าต้องให้ความเป็นธรรม แต่การที่มาใช้สื่อ ตอบโต้กันไปมา ถ้าถามผม ผมไม่อยากให้ทำ

นักข่าวถามอีกว่า ท่านนายกฯจะถือโอกาสนี้กวาดขยะในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ท่านนายกฯ บอกว่า แน่นอนครับ หากมีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นไม่ไว้หน้าอยู่แล้ว

https://youtu.be/XQc7yToSKtQ