สังคม

หาที่ตั้งใหม่! 'ท้าวเวสสุวรรณ' องค์ใหญ่ที่สุดในโลกแยกส้มหล่น หลังเจอพิพาทที่ดิน ซื้อขายไม่ลงตัว

25 ม.ค. 2567

352 views

ต้องย้ายที่อยู่ใหม่! สำหรับรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณองค์ใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณแยกส้มหล่นระยอง หลังไม่สามารถตกลงซื้อขายเรื่องที่ดินกันได้ ผู้จัดสร้างอ้างเจ้าของที่ดินผิดสัญญา ด้านเจ้าของที่ดินโต้ ผู้ซื้อไม่นำเงินมาวางตามนัด

เรื่องของรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ตั้งอยู่บริเวณแยกส้มหล่น ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองระยอง กลายเป็นประเด็นดรามาขึ้นมาในโลกโซเชียล จำเป็นต้องย้ายที่อยู่ใหม่ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการซื้อขายที่ดิน

ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่สมาคมสายธารสะพานบุญ พบนายจักรกฤษณ์ อายุ 27 ปี หรือ ปอนด์ส่งศพฟรีทั่วไทย ผู้ก่อตั้งสมาคมสายธารสะพานบุญ และเป็นผู้จัดสร้างรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดใจว่า ท้าวเวสสุวรรณ ต้องย้ายที่อยู่จริง โดยกำลังหาสถานที่ตั้งใหม่ สำหรับปมปัญหาเกิดจากเรื่องที่ผิดสัญญาซื้อขายที่ดิน

นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า เรื่องเริ่มต้นเมื่อรปะมาณ 4 ปีที่ผ่านมา มีการขอเช่าที่ดินผืนดังกล่าว เนื้อที่ 365 ตารางวา ทำสัญญาเช่าเดือนละ 15,000 บาท หลังจากนั้นมีการพูดคุยกับตัวแทนเจ้าของที่ดิน เพื่อขอซื้อที่ดิน เพื่อสร้างท้าวเวสสุวรรณ เสนอราคาซื้อขายกันที่ 6 ล้านบาท

ต่อมาจึงได้เริ่มก่อสร้างรูปปั้นองค์ท้าวเวสสุวรรณ สูง 29 เมตร หน้ากว้างประมาณ 9 เมตร รูปแบบมาจากความฝัน ใช้เงินส่วนตัวในการสร้าง หลังจากที่รูปปั้นแล้วเสร็จ ได้มีผู้ศรัทธาเข้ามากราบไหว้บูชากัน ว่าเป็นองค์ท้าวเวสสุวรรณที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีรายการทีวีและยูทูปเบอร์ชื่อดังเข้ามานำเสนอ จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง

ต่อมาเมื่อครบกำหนด 1 ปี เจ้าของที่ดินให้นายหน้ามาแจ้งว่า ต้องการขายที่ดินแปลงนี้ ในราคา 11 ล้านบาท จากที่ตกลงกันไว้ที่ 6 ล้านบาท ทางตนเองจึงขอต่อรองและทวงสัญญาที่ตกลงกันไว้ จบที่ 8.8 ล้านบาท โดยตนเองขอเวลา 3 ปี ในการชำระ แบ่งเป็ฯ 3 งวด แต่เจ้าของที่ดินไม่ยอม ให้เวลาจ่ายเงินทั้งหมดภายใน 1 ปี ซึ่งตนไม่มีทางเลือก เพราะก่อสร้างท้าวเวสฯ ไปแล้ว จึงต้องยอมรับข้อเสนอ และได้วางเงินมัดจำไปแล้ว 1 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจ่ายภายใน 1 ปี

จนกระทั่งครบกำหนดเวลาจ่ายงวดที่ 2 ตนเองยังไม่พร้อมจึงขอผ่อนผันไปก่อน แต่ทางนายหน้าบอกว่าต้องจ่ายค่าเสียโอกาสเดือนละ 76,000 บาท เพราะถือว่าขาดประโยชน์ไปจากการที่จะได้ขายที่ให้บุคคลอื่น เนื่องจากสัญญาสิ้นสุดไปแล้วครบ 1 ปี ตนก็ยอมจ่ายค่าเสียโอกาสไปได้ 6 เดือนแล้ว (โดยมีหลักฐานสลิปการโอนเงินทั้งหมด) และรู้สึกว่าไปต่อไม่ได้ เพราะแบกภาระไม่ไหว

หลังจากนั้นเจ้าของที่ดินยื่นโนติส และมีคำสั่งให้ย้ายออกภายใน 90 วัน ซึ่งตนเองได้ยื่นขอขยายเป็น 6 เดือน และ ขอเงินมัดจำ 1 ล้านบาทคืน แต่ยังไม่มีคำตอบ และจำเป็นต้องยอมยุติกับสถานที่แห่งนี้ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะย้ายไปที่ไหน ยังมือแปดด้าน อยากขอความเห็นใจจากเจ้าของที่ดินด้วย

ขณะที่ น.ส.ขวัญตา หุ้นส่วนในที่ดิน เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เจ้าของที่ดินก็คือคุณแม่ของเพื่อน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับตน ได้เสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อคืนก่อน ยืนยันไม่ได้มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ดินผืนนี้ได้มาจากการชดใช้หนี้ ต้นทุนเริ่มที่ ราคา 5 ล้านบาทเมื่อหลายปีก่อน จนถึงวันนี้ หากต้องขายที่ราคา 8.8 ล้านบาท ก็ถือว่าไม่มีกำไรอยู่แล้ว แต่ทางผู้ซื้อกลับไปไลฟ์เผยแพร่ให้ประชาชนรู้ว่าได้ทำการซื้อที่ดินมาแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง อีกทั้งยังมีปัญหาสะสมมาอีกหลายเรื่อง ตลอดระยะเวลา 4 ปี รวมถึงการนำความศรัทธาของคนอื่นมาหากิน จึงไม่คิดขายให้แล้ว ซึ่งความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ใครผิดสัญญาใครก่อนทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ตัวเอง หากตกลงกันไม่ได้ก็ขอให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

และวันนี้ตนให้ทางทีมทนายเข้าไปแจ้งความ ดำเนินคดีกับแอดมินเพจดังต่างๆ ในระยอง ที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อยากให้เป็นคดีตัวอย่างให้พวกสื่อโซเชียลต่างๆ ที่จะนำใครไปไลฟ์สดอยากให้เช็คข้อมูลข้อเท็จจริงก่อน ไม่ใช่เอาแต่ ความสนุกของตัวเองเรียกแต่ยอดไลฟ์ยอดวิวและทำให้คนอื่นเสียหาย และยืนยันว่าไม่ได้ลบหลู่องค์ท้าวเวสสุวรรณ


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/ERdCX813BmI

คุณอาจสนใจ

Related News