สังคม

ขนหัวลุก! ครอบครัวล้มป่วย ทำอะไรก็ไม่รุ่ง ขุดเจอคุณไสยฝังกลางบ้าน เผยถูกทำของใส่มาแล้ว 4-5 ครั้ง

14 ธ.ค. 2566

1.1K views

ผงะทั้งบ้าน พ่อ แม่น้องสาวมีอาการเจ็บป่วยอย่างประหลาดและครอบครัวทำอะไรก็ไม่รุ่งสุดท้ายให้อาจารย์ มาดูที่บ้านปรากฏว่า ขุดเจอไสยศาสตร์บาตรแตก และ ตะปูกลางบ้าน เจ้าของบ้านเผยเคยถูกทำคุณไสยใส่มาแล้ว 4-5 ครั้ง

จากกรณี ที่ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้แชร์ภาพ ที่มีการทุบพื้นกระเบื้องภายในบ้านและมีการขุดดินลงไปจนไปเจอคุณไสยอะไรบางอย่างฝั่งอยู่ใต้พื้นบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้าน ได้ตั้งข้อสงสัยโดยโพสต์ข้อความเอาไว้ว่า

ไม่คิดเลยว่าจะเจอแบบนี้ที่บ้านว่าพรือ ทำไรก็หมด มีตังก็หมด ทำไรไม่คล่อง มีเท่าไหร่หมดเท่านั้น แม่ป่วยนอนที่เป็น 2 เดือน เดินไม่ได้เจ็บป่วยไม่สบายกันทั้งบ้าน ไม่คิดเลยว่าจะเจอกับตัวเองบ้านแตกแสลกขาด ใครทำอะไรก็ขอให้กลับไปเข้าตัวมันเองหมด ไม่ขอสาปแช่งน่ะ สักวันก็คงย้อนกลับไปหาคนที่ทำ

ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณนัยยา ประจง อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโพสต์ บอกว่า บ้านหลังดังกล่าวที่โพสต์ลง Facebook คือ บ้านของเธอ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ตำบลทุ่งรัง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยบ้านมีลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่ติดกับถนนในหมู่บ้าน ส่วนบ้านที่อยู่ติดกันจะเป็นบ้านของพ่อ แม่ และห่างออกไปประมาณ 50 เมตร จะเป็นบ้านของน้องฝน ซึ่งเป็นน้องสาว ที่เป็นฝาแฝดกับนางสาวนัยยา ส่วนบ้านอื่นๆรอบๆก็จะเป็นบ้านของเครือญาติๆกัน

ซึ่งจุดที่ขุดลงไปเจอคุณไสย คือ บ้านของเธอ มีความลึก 24 เซนติเมตร ส่วนตรงพื้นรอบๆหลุมดังกล่าว ก็จะมีอุปกรณ์การจุดเจาะวางเอาไว้ และยังมีเสื่อ พร้อมกับจานขันธ์ 5 ที่อาจารย์เจมส์ หรือพ่อปู่ฤาษีแก้วตาเพชร เข้ามาทำพิธีให้

โดยนัยนาบอกว่า บ้านหลังนี้พ่อแม่สร้างให้เธอ เมื่อปี 64 ซึ่งก่อนจะเทพื้นปูน พ่อได้มีการถมดินและปักเสาเอาไว้ก่อนประมาณ 1 ปี ก็คือช่วงปี 63 และบ้านหลังนี้ พ่อแม่และคนในครอบครัวก็ช่วยกันสร้างกัน โดยไม่ได้จ้างให้ช่างหรือคนในหมู่บ้านมาสร้างให้

โดยหลังจากบ้านหลังนี้สร้างเสร็จ ก่อนหน้านี้เมื่อต้นปี 2565 แม่เกิดอาการล้มป่วย นอนอยู่แต่ในบ้าน 2 เดือนเต็มๆ จากนั้นพอแม่หาย พ่อก็ป่วยตาม แต่ไม่รุนแรง ส่วนพี่ชายกับน้องชายคนเล็ก ก็ป่วยแบบเป็นๆหายๆแต่ไม่รุนแรงเช่นกัน

ซึ่งต่อมาประมาณปลายปี 65 นางสาวฝน ซึ่งเป็นแฝดน้องของเธอ เกิดอาการปวดท้อง รักษายังไงก็ไม่หาย เธอก็เลยพาไปพบกับอาจารย์เจมส์ ซึ่งปรากฎว่า อาจารย์เจมส์ รักษาหายโดยการแก้คุณไสย เนื่องจากน้องสาว ถูกเสกหนังควายเข้าท้อง

จากนั้นเมื่อรักษาน้องสาวเสร็จแล้ว อาจารย์เจมส์ ได้ทักว่าที่บ้านมีสิ่งของไม่ดีอยู่ในบ้าน เธอและครอบครัว จึงเชิญอาจารย์เจมส์ ไปดูที่บ้าน ปรากฎว่า อาจารย์เจมส์ ไปชี้ให้ขุดหลุมที่ใต้ต้นไม้หลังบ้าน ซึ่งพอขุดขึ้นมา ก็ไปพบว่า มีตะปู เส้นผม และน้ำเหลืองอยู่ในขวดเอ็มร้อย ที่ฝั่งดินอยู่หลังบ้านพ่อ หลังจากนั้น เมื่อขุดเจอสิ่งของดังกล่าวแล้ว คนในครอบครัวก็ไม่มีใครเจ็บป่วย

จนกระทั่ง ชีวิตของเธอ ก็มาพบกับอุปสรรค คือเมื่อต้นปีที่ผ่านมา (ปี66) 1. ถูกสามีบอกเลิก ทั้งๆที่ไม่ได้ทะเลาะกัน 2.ทำมาหากินได้เงินมาก็เก็บเงินไม่ได้ 3. เกิดอาการปวดท้องรักษาไม่หาย และ 4. จามออกมามีไม้ออกมาจากจมูก และ 5. หลังจากสร้างบ้านเสร็จใหม่ๆ ลูกของเธอที่คลอดออกมาไม่กี่วันก็ตาย

ซึ่งหลังจากเจอเรื่องต่างๆในชีวิต วันเสาร์ ที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ก็เลยย้อนกลับไปหาอาจารย์เจมส์ อีกครั้ง ซึ่งพอไปพบอาจารย์เจมส์ ก็ทักว่าบ้านที่เธออาศัยอยู่ มีสิ่งไม่ดีอยู่ภายในบ้าน จากนั้นก็เชิญอาจารย์เจมส์ ไปตรวจสอบที่บ้าน ปรากฎว่า เมื่ออาจารย์เจมส์ เข้าไปที่บ้านก็ได้มีการใช้ไม้เท้า เคาะดูตามพื้นในบ้าน กระทั่งไปสัมผัสว่ามีสิ่งของอยู่ใต้พื้นกลางบ้าน อาจารย์เจมส์ ก็เลยให้พ่อ งัดพื้นกระเบื้องออกมา แล้วคนในครอบครัวก็ช่วยกันขุดไปจนเจอคุณไสย ที่ฝังอยู่ใต้พื้นตามในภาพ

ซึ่งคุณไสย ที่ขุดพบอยู่ ถูกใส่ไว้ใน ถุงเท้า เก่า ห่อรวมกันไว้ มีสิ่งของ คือ 1. ตะกรุด 2.ตะปู ขนาด 4 นิ้ว 3 ตัว 3. สีผึ้งโบราณ จำนวน 1 ตลับ 4. เขี้ยวสัตว์ จำนวน 1 ซี่ 5. สำลี ชุดน้ำเหลือง จำนวน 1 ชิ้น 6. ชิ้นส่วนเทพพนมจากโลงศพในป่าช้า จำนวน 2 ชิ้น 7. ชิ้นส่วนของก้นบาตร จำนวน 2 ชิ้น 8. ถุงเท้าที่ใช้ห่อคุณไสย ซึ่งในตะกรุด จะมีการลงอักขระข้อความเอาไว้ว่า "บ้านแตก 2566 แม่มันนอน 2566 ตาย 2567" ทางอาจารย์เจมส์ ได้ให้ทางครอบครัวนำไปไว้ใต้ศาลพระภูมิที่หน้าบ้าน

คุณนัยนา บอกว่า ไม่ได้สงสัยว่าใครเป็นคนทำ ยอมรับตรงๆว่า เดาไม่ออกว่าเป็นใคร แต่เชื่อว่าคนที่นำของดังกล่าวมาไว้ในบ้าน เขาไม่หวังดีกับเธอและคนในครอบครัว ซึ่งยืนยันว่า พ่อแม่และคนในครอบครัว ไม่เคยทะเลาะหรือมีศัตรูกับใครมาก่อน จะมีเรื่องเดียวคือเธอ เป็นคนปากไม่ดี ถ้าคนที่จะมาทำ ต้องเป็นคนที่ไม่ชอบเธอเอามากๆแน่ๆเลย ยอมรับว่าที่บ้านถูกทำคุณไสยใส่มาแล้ว 4-5 ครั้งจึงอยากวอนขอผู้ที่ไม่หวังดีกับครอบครัวของเธอให้หยุดการกระทำดังกล่าว

ด้านนายไตรภพ อายุ 57 ปี พ่อของ คุณนัยยา บอกว่า ตนเองมีลูกทั้งหมด 4 คน ซึ่ง นัยยา เป็นลูกฝาแฝด ที่อยู่ระหว่างกลางกับลูกผู้ชายคนโตและคนสุดท้อง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น พ่อยืนยันว่า ก่อนที่จะสร้างบ้านนัยยา คนในครอบครัวไม่ได้มีปัญหากัน เพราะพ่อก็สร้างบ้านคนละหลังให้อยู่แยกกัน

ซึ่งการเข้ามาฝังสิ่งของในบ้านทั้งสองจุด ส่วนตัวพ่อมองว่า อาจจะเป็นคนนอกครอบครัวก็ได้ เพราะที่บ้านเปิดเป็นร้านขายของ มีคนเข้าออกทั้งวัน ถึงจะสร้างบ้านกันเอง ก็ไม่มีใครมาคอยมองว่าใครเข้าออกบ้านบ้าง

ส่วนอาการป่วยของตนและภรรยา ตอนนั้นทั้งตนและภรรยา มีอาการป่วยแบบ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ นอนแบบพร้อมที่จะตายตลอดเวลา เพราะรักษายังไงก็ไม่หาย ลุกไม่ขึ้น เดินไม่ไหว มาเกือบ 2 เดือน ทั้งๆที่ปกติตนและภรรยาไม่มีโรคประจำตัว สามารถเข้าสวนยางกรีดยางได้ทุกวัน แต่อยู่ๆเช้าวันดังกล่าวกับลุกไม่ขึ้น ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้ตัดสินใจไปหาหมอเพราะเชื่อว่าน่าจะถูกทำคุณไสยใส่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ พี่ชายของภรรยา และลูกสาวที่เป็นแฝดผู้น้องของนัยนา เคยถูกทำคุณไสยมาแล้ว

ตนเองจึงให้ลูกพาอาจารย์เจมส์มาดูที่บ้าน ปรากฎว่า ก็พบหลุมคุณไสยหลุมแรกจริงๆ ถูกฝังอยู่ใต้ต้นกระท้อนหลังบ้าน พออาจารย์เจมส์มาทำพิธีให้ อาการกลับดีขึ้น แต่ไม่หายขาด และพอไปเจอของในหลุมล่าสุดในบ้านลูกสาว อาการของภรรยา ก็หาย และตนก็เดินได้ปกติขึ้น แต่ยังมีปวดตามร่างกาย ซึ่งคาดว่า คงจะยังไม่เสร็จพิธี เนื่องจากอาจารย์เจมส์ ยังให้เอาของไปไว้ที่ศาลพระภูมิหน้าบ้าน ยังไม่ได้ทำพิธีถอนคุณไสยและนำของไปลอยทิ้งแม่น้ำ

นายไตรภพ ยืนยันว่าถึงตอนนี้ ก็ยังไม่ทราบสาเหตุ ว่าคนที่มาทำต้องการอะไร เพราะคนในบ้าน ก็เป็นพี่น้องกัน ก็ไม่เคยมีปัญหากับใครมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ซึ่งเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า คนที่ไม่หวังดีกับลูก ต้องการทำให้ชีวิตของลูกไม่มีความสุข เนื่องจาก ก่อนที่จะพบคุณไสย ในบ้านของลูก จู่ๆลูกเขย ซึ่งเป็นสามีของนัยยา ก็รู้สึกร้อนไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่พอเอาของออกมาแล้ว เมื่อวานนี้ ลูกเขยที่เคยทิ้งลูกสาวตนไปจู่ๆก็อยากกับมาคืนดีกับลูก

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ใครจะไม่เชื่อก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ส่วนตัวเชื่อ ถ้าอาจารย์เจมส์ จะกลับมาขอให้ขุดตรงไหนอีกรอบบ้าน ก็ยินดีให้ขุดทั้งบ้าน

ขณะที่อาจารย์เจมส์ ร่างทรงพ่อปู่ฤาษีแก้วตาเพชร คนที่เข้าไปทำพิธีขุดเจอคุณไสย บอกว่า สำหรับครอบครัวของนัยยา เริ่มต้นเมื่อประมาณ 5 ปี ที่แล้ว ซึ่งครั้งนั้น ลุงของนัยยา ที่เป็นอดีตกำนัน มีอาการป่วยทั้งครอบครัว จึงมาขอให้อาจารย์ไปดูที่บ้าน ซึ่งปรากฎว่า เมื่ออาจารย์ไป ก็พบว่ามีคุณไสย ฝังลักษณะเดียวกันกับที่เจอที่บ้านของนัยยา ฝังอยู่ที่ข้างบ้าน และพอไปพบ คนในครอบครัวก็หาย ซึ่งการที่มาพบสิ่งของคล้ายกับที่บ้านของนัยยา ส่วนตัวอาจารย์ เชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ซึ่งล่าสุดที่ไปเจอคุณไสย ใต้พื้นบ้านของนัยยา ไม่ได้รู้สึกอะไรแต่สัมผัสได้ว่ามีของไม่ดีฝังอยู่ตรงนั้น โดยหลังเจอแล้ว ที่ต้องนำสิ่งของไปไว้ที่ใต้ศาลพระภูมิก่อน เป็นเพราะว่าตอนนี้ ยังไม่ทราบว่า เขี้ยวที่อยู่ในห่อถุงเท้าเป็นเขี้ยวอะไร จึงอยากจะเอาสิ่งของดังกล่าว อยู่ในความดูแลของเจ้าที่เจ้าทางไปก่อน และหากค้นพบว่าว่าสิ่งของทั้งหมดเป็นอะไร และหากพบว่ามีคนไม่หวังดีจริง ก็จะนำไปลอยน้ำหรือนำไปเผา

ส่วนข้อความในแผ่นตะกรุดทองแดง เขียนคำว่า "นอน" หมายถึง คนที่ทำต้องการให้แม่ ของ น.ส.นัยยา นอนป่วยอยู่ในบ้าน ซึ่งคำว่า "บ้านแตก" คนที่ทำหมายถึงต้องการให้ น.ส.นัยยา บ้านแตก ก็คือต้องการให้เลิกกับผัวของเขา ส่วนคำว่า"ตาย" ในปี 67 ยังไม่ถึงเวลา เพราะมาขุดเจอเสียก่อน

ซึ่งสิ่งของดังกล่าว ส่วนตัวอาจารย์เชื่อว่า คนที่ต้องการให้ครอบครัวของ น.ส.นัยยา ชิบหาย เขามาทำช่วงที่มีการสร้างบ้าน ก็คือ 1. คนในครอบครัว 2. คนงานที่พ่อจ้างมาถ่มดินหรือเทปูน หรือ 3. ก็คือคนที่ไม่ชอบหน้า น.ส.นัยยา อาจจะเป็นคนใกล้ หรือ คนไกลที่ทำทีเข้ามาสนิทสนมด้วย ซึ่งอาจารย์ไม่อยากบอกกับทางครอบครัวของนัยนา ถึงรูปร่างลักษณะคนที่ทำคุณไสใส่เพราะไม่อยากให้ ไปมีปัญหากันต่ออีก คนที่ทำคุณไสยใส่คนอื่นบั้นปลายชีวิตยังไงก็ไม่มีความสุข

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ น.ส.นัยยา เอารูปไปโพสต์ ก็อาจจะทำให้ คนดูมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเพราะที่จริงแล้วคุณใส่ให้ถูกฝัง มีเพียงห่อถุงเท้าไม่ได้ฝังทั้งชาม ส่วนสีเขียวๆที่มีคนมาคอมเมนต์ว่าเป็นผักจริงๆแล้วคือสำลีชุบน้ำมันอยู่ในตลับสีผึ้ง ยืนยันว่า ไม่มีการนำของเหล่านี่มาใส่ไว้เอง ขุดเจอขึ้นจริงๆใต้กระเบื้องบ้านของนัยนา มันถูกฝังลึกลงไปอยู่ในดินเหนียว

อาจารย์แนะนำว่า เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่ดูอยู่และมีอาการเหมือนครอบครัวนี้ อย่าเพิ่งมาหาอาจารย์ เพราะ การที่ชีวิตคนเราตกต่ำหรือมีอาการป่วย อาจจะเป็นเพราะ ตัวเราเองที่ทำให้ชีวิตตกต่ำ เช่นไม่ทำมาหากิน หรือรักษาไม่หายเพราะไม่เคยไปหาหมอตรงกับอาการป่วยที่เป็นอยู่ก็ได้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/52J5akphSbk


คุณอาจสนใจ