สังคม
ถึงไทยแล้ว! 15 แรงงานไทยชุดแรกจากอิสราเอล ครอบครัวตื้นตันรอรับที่สนามบิน
12 ต.ค. 2566
120 views
กลับถึงไทยแล้ว! 15 แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในพื้นที่สู้รบในประเทศอิสราเอล เดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีครอบครัวของพวกเขามารอรับ ซึ่งมีรายงานว่าจะมีแรงงานไทยเดินทางกลับมา 15 คน ในจำนวนนี้มี 4 คน ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการสู้รบครั้งนี้
ทั้งหมดเดินทางกลับมาด้วยสายการบินแอลอัล (ELAL) เที่ยวบินที่ LV083 โดยออกเดินทางจากท่าอากาศยานเบนกูเรียน กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อคืนนี้ และเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลาประมาณ 11 โมงครึ่งที่ผ่านมา โดยมีนาย จักรพงศ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นาย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าไปต้อนรับถึงภายในสนามบิน จากนั้นจะนำทั้งหมดเดินออกมาที่บริเวณประตู 10 ชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่ามกลางญาติพี่น้องของแรงงานบางส่วนที่เดินทางมารอรับ
สำหรับแรงงานไทยทั้ง 15 คนนี้ เป็นกลุ่มที่ไปทำงานโดยผ่านกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ส่วนใหญ่ทำงานเกษตรกรรมอยู่ในพื้นที่เมืองนิริม ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง อยู่ห่างจากชายแดนฉนวนกาซา เพียงแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนาย นิด ลูกพี่ลูกน้องของนายวิชัย คำศรี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า พี่ชายเพิ่งไปทำงานเกษตรกรรมที่อิสราเอลได้ไม่ถึง 1 ปี หลังเกิดเหตุ ยังสามารถติดต่อพี่ชายได้อยู่ ซึ่ง 2-3 วันแรกพี่ชายตกใจและหวาดกลัวมาก บอกอยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่แล้ว เพราะมีแต่เสียงปืนเสียงระเบิด กลุ่มติดอาวุธเจอใครก็ยิงหมด พี่ชายเล่าว่าต้องอยู่แต่ในบังเกอร์ ผลัดเวรกันดูว่าใครจะมาเคาะประตูบ้าง โชคดีที่พี่ชายไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่สภาพจิตใจก็แย่มากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อคืนนี้ได้คุยกันก่อนขึ้นเครื่อง
การกลับมาครั้งนี้พี่ชายยังห่วงเรื่องภาระหนี้สินที่ได้กู้ยืมมาเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล เพราะไปทำงานยังไม่ถึงปีใช้หนี้ยังไม่หมด อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลด้วย และวันนี้จะพาพี่ชายเดินทางกลับบ้านที่อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานีทันที ซึ่งที่บ้านก็เตรียมทำพิธีเรียกขวัญแล้ว
นาง ปิยะพร สังข์ทอง ภรรยาของนาย ไกรสร บัวฝาย ชาวจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า สามีไปทำงานเกษตรกรรมได้เกือบ 5 ปีแล้ว วันที่เกิดเหตุ สามีโทรมาแต่เช้า บอกว่ายิงกันอีกแล้ว และถ่ายรูปส่งมาให้ดูว่ามีกระสุนยิงทะลุผนังห้องนอนเยอะมาก แต่สามีวิ่งหนีไปหลบในบังเกอร์ได้ทัน ซึ่งสามีบอกว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้มาก่อน เลยบอกสามีว่า ไม่เอาแล้วให้กลับบ้าน รู้สึกเป็นห่วงมาก ตอนแรกสามีบอกว่า อีกไม่กี่เดือนก็จะครบสัญญาแล้ว แต่เธอขอว่าให้เดินทางกลับเลย
สามีได้เล่าความเป็นอยู่ช่วงที่เกิดเหตุให้ฟัง บอกว่า ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงและคอยซ่อนตัว อีกทั้งสามีก็เป็นหัวหน้าคนงานไทยที่อยู่ด้วยกันทั้งหมด 19 คน สามีจึงต้องคอยดูแลลูกน้องไม่ได้กินข้าวและไม่ได้นอนเลย คอยฟังเสียงสัญญาณเตือนให้หลบภัย แต่ก็ไว้ใจไม่ได้ เพราะวันที่โดนยิงห้องนอน สัญญาณเตือนก็ไม่ทำงาน หลังจากนี้จะไม่ให้เดินทางไปทำงานที่ไหนอีกแล้ว กลับมาทำไร่ทำนาที่บ้านดีกว่า
นางสาว นันทวัน แซ่ลี้ ภรรยาของนาย สมมา แซ่จ๊ะ ชาวจังหวัดตาก เปิดเผยว่า สามีไปทำงานที่อิสราเอลได้ 2 ปีแล้ว ก่อนที่จะไปสามีก็ทราบดีว่าประเทศอิสราเอลค่อนข้างอันตราย แต่ไม่คิดว่าจะอันตรายขนาดนี้ ตอนแรกหลังเกิดเหตุ สามีก็บอกว่านายจ้างพาไปอยู่ที่บ้าน จนต่อมาพี่ชายของสามีโทรมาบอกว่า สามีถูกยิงที่ขาซ้าย ขยับได้เล็กน้อย เธอพยายามติดต่อสามี แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะไม่มีสัญญาณ วันนี้สามีได้กลับมาแล้ว ก็ไม่อยากให้กลับไปทำงานอีก
สำหรับแรงงานที่เดินทางกลับมาวันนี้มีทั้งหมด 15 คน เป็นชาวจังหวัดหนองบัวลำภู 4 คน เชียงราย 2 คน ตาก สุรินทร์ พะเยา นครราชสีมา ยโสธร หนองคาย อุดรธานี และสกลนคร จังหวัดละ 1 คน
ในจำนวนนี้มี 4 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ ได้แก่ นาย สมมา แซ่จ๊ะ ชาวจังหวัดตาก โดนยิงที่ขา นาย จิรายุ สุกใส ชาวจังหวัดสุรินทร์ บาาดเจ็บหัวไหล่ขวา นาย วิมาน วงศ์จำปา ชาวจังหวัดหนองบัวลำภู ถูกยิงที่แขนด้านซ้าย และนาย กรัชกร พุทธสอน ชาวจังหวัดพะเยา ถูกยิงที่เข่า
เมื่อมาถึงทั้ง 4 คนจะถูกส่งไปตรวจร่างกายและรับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูรก่อน เพื่อประเมินอาการบาดเจ็บและการรักษา หากปลอดภัยจะให้กลับบ้านได้
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/TVanSpqFXUo
แท็กที่เกี่ยวข้อง แรงงานไทยในอิสราเอล ,แรงงานไทย ,ครอบครัวตื้นตัน