สาวร้อง ผัวเก่าราวีไม่เลิก จับลูกเป็นตัวประกัน เย้ยกฎหมายก็ทำอะไรไม่ได้ มีพี่ชายเป็นนายกฯ อบต.

น้องชายนายก อบต. แห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานีตามหึงหวงเมียเก่า บุกอาละวาดกลางงานบุญ คิดว่าเมียเก่ามากับแฟนใหม่ บุกเข้ามาด่า และข่มขู่ พร้อมเย้ย กฎหมายก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมีพี่ชายเป็นนายก อบต.

มีผู้หญิงคนหนึ่ง ร้องขอความช่วยเหลือผ่านทางเพจรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ โดยส่งเป็นคลิปเสียงการสนทนาระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย 3 คลิป

โดยในคลิปแรก ฝ่ายชายติดต่อมาหาฝ่ายหญิงและบังคับให้ลูกที่อยู่ข้างๆ พูดกับแม่ ซึ่งเด็กก็เอาแต่ร้องไห้ ด้วยความตกใจ, คลิปที่สองฝ่ายชายพยายามถามฝ่ายหญิง ว่ารักลูกภาษาอะไรทำไมไม่เอาลูกไปอยู่ด้วย วันแม่ปีนี้จะให้เอาลูกไปอยู่ด้วย แล้วก็ต่อว่าฝ่ายหญิง ว่ามีคนอื่น ด้วยคำพูดหยาบคาย ฝ่ายหญิงก็พยายามบอก ว่าเราเลิกกันนานแล้ว ให้เอาลูกมาส่งได้ ตอนนี้ก็อยู่เป็นพ่อเป็นแม่ของลูกกันไป

และคลิปสุดท้ายฝ่ายชายบอกว่า จะมานอนที่บ้านฝ่ายหญิง ซึ่งฝ่ายหญิงปฏิเสธ ทำให้ฝ่ายชาย ไม่พอใจและด่าอย่างรุนแรงพร้อมขู่ว่าจะกระทืบลูก และต่อว่าฝ่ายหญิง ว่าตนเองพยายามทำดีทุกอย่าง แต่ฝ่ายหญิงกลับไปมีคนอื่น และไม่ส่งเสียเลี้ยงดูลูก

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณนฤชา กมุทโยธิน เดินทางไปพบกับคุณเจี๊ยบ ฝ่ายหญิง คุณเจี๊ยบ ยืนยันว่า เลิกกับนายพิทักษ์ อดีตสามีมานานแล้ว แต่อดีตสามีไม่ยอมเลิก พร้อมเล่าย้อนเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่แรกที่รู้จักกับสามีคนนี้ ว่า เธอเองเพิ่งเรียนจบใหม่ๆและได้ทำงานที่เทศบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี พอทำงานได้สักพักรุ่นพี่ที่ทำงานแนะนำให้รู้จักกับนายพิทักษ์ (นามสมมติ) สามี ตอนปี 2557 ซึ่งช่วงแรกนายพิทักษ์ เป็นคนดีมาก มีความเป็นผู้ใหญ่ รับผิดชอบ เป็นที่ปรึกษาให้เธอเองในเรื่องต่างๆ

หลังจากนั้นเธอจึงตัดสินใจคบหาด้วยและแต่งงานกันตอนปี 2559 จากนั้นก็มีลูกด้วยกัน 1 คน พอลูกอายุได้ประมาณ 7 เดือน , นายพิทักษ์ เริ่มออกไปเที่ยวดื่มเหล้าสังสรรค์กับเพื่อน นานๆจะกลับมาบ้านสักที พอกลับมาก็ชวนทะเลาะ

หลังจากทะเลาะกัน ด้วยความที่พิทักษ์ หมกมุ่นแต่เรื่องบนเตียง สุดท้ายก็ต้องถูกพิทักษ์ขืนใจ เพราะสู้แรงผู้ชายไม่ไหว ซึ่งเป็นแบบนี้เรื่อยมา จนกระทั่งตั้งท้องลูกคนที่ 2 คุณเจี๊ยบ พูดทั้งน้ำตาเลยว่ารู้สึกเสียใจที่ตั้งท้องลูกคนที่ 2 เพราะตนเองพยายามจะเลิกกับนายพิทักษ์มาโดยตลอดและก็พยายามป้องกันแล้ว เคยคิดที่จะเอาลูกคนที่ 2 ออก แต่ก็สงสารเด็ก หลังจากคลอดลูกคนที่ 2 เธอก็ต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว

ส่วนนายพิทักษ์ หายออกไปจากบ้านเหมือนเดิม พอกลับมาก็มีแต่เรื่องแบบเดิม ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูลูก ตนเองเคยให้พี่ผู้หญิงที่ทำงานมาช่วยเลี้ยงลูก พอนายพิทักษ์รู้ก็ไม่พอใจ บอกไม่ชอบให้ใครมายุ่งภายในครอบครัว

หลังจากนัั้นเธอจึงตัดสินใจหอบลูก 2 คนออกมาเช่าบ้านอยู่กันตามลำพังและพยายามเลิกรากับนายพิทักษ์ โดยให้นายพิทักษ์ เลี้ยงลูกชายคนโต ส่วนเธอรับผิดชอบลูกคนเล็ก

โดยมีข้อตกลงกันว่าจะมาเจอกันอาทิตย์ละครั้งในฐานะพ่อและแม่ของลูก ปรากฏว่ายิ่งทำให้นายพิทักษ์ไม่พอใจเพราะคิดว่าเธอจะมีคนอื่น ตามมารังควานเช้าเย็น ถึงที่บ้านเช่า และทุกครั้งที่มาก็จะพาลูกคนโตมาเป็นตัวประกัน ต่อรอง อ้างว่า เพื่อให้ลูกได้เจอแม่ แต่พอคุณเจี๊ยบขอเจอหน้าลูก นายพิทักษ์ กลับไม่ยอมให้เจอ ,,คุณเจี๊ยบ เคยรับลูกชายคนโตกลับมาอยู่ด้วยและพอลูกรู้ว่าพ่อจะมารับ เด็กร้องไห้ ขอร้องแม่ว่า ไม่อยากกลับไปอยู่กับพ่อ

นอกจากนี้นายพิทักษ์ ยังตามไปเฝ้าเธอถึงที่ทำงาน จนบางวันคุณเจี๊ยบ ต้องขอลางาน , นายพิทักษ์โทรฯไปหาหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน ข่มขู่ว่าจะทำให้ คุณเจี๊ยบ ถูกไล่ออก เพราะมีพี่ชายเป็นนายก อบต. ในจังหวัดปทุมธานี

ขณะเดียวกันพิทักษ์ ยังแชทมาขู่อีกว่า จะปล่อยคลิปแบล็คเมล์ตอนเธออาบน้ำ พยายามบีบบังคับให้เธอกลับมาหา นอกจากนี้ยังแอบติด GPS ที่รถของเธอและพาลูกชายคนโต ตามมาอาละวาดกลางงานบุญของหลวงตาม้า พระเกจิชื่อดัง ที่เดินทางมาแสดงธรรมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ขณะที่เดินทางมาที่วัด นายพิทักษ์ เห็นมีผู้ชายนั่ง ข้างๆคุณเจี๊ยบ นายพิทักษ์ก็ปรี่เข้าไปหาเรื่อง ซึ่งผู้ชายคนดังกล่าว เป็นคนที่มาร่วมฟังธรรมและรู้จักกันในกลุ่มสายบุญของหลวงตาม้าได้ประมาณเดือนกว่าๆ เท่านั้น หลังจากนั้นก็ทะเลาะกัน จน รปภ. เข้ามาระงับเหตุ

ต่อมา นายพิทักษ์ก็ยิ่งตามคุกคามคุณ เจี๊ยบ อย่างหนัก ย้ายโรงเรียนลูกชายคนโตและ เอาลูกทั้งสองคนไปอยู่กับพิทักษ์ด้วย และข่มขู่จะทำร้ายร่างกายลูกจะกระทืบลูก ส่งเสียงลูกร้องไห้มาให้ฟัง

ขณะเดียวกัน พิทักษ์ ก็แอบติด GPS ที่รถเธอ อีกรอบ(รอบ2) ที่ทราบเพราะ ตอนที่เธอ ขับรถมาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ พิทักษ์ ยังส่งแชทมาถามว่า "มึงไปทำอะไรสนามบินน้ำ เดี๋ยวกูจะตามไป เมื่อเธอมาถึง จึงค้นภายในรถ ก็พบว่ามี GPS ถูกติดตั้งอยู่ตรงแกนเบรค 1 อัน จึงทำการถอดออกและหาวิธีรบกวนสัญญาณ เพราะกลัวว่าจะมี GPS แอบติดตั้งอยู่จุดไหนอีกเครื่อง ปรากฏว่าได้ผล นายพิทักษ์ ส่งมาแชทถามมาอีก แต่พิกัดคลาดเคลื่อนจากจุดที่อยู่จริง หลังสัมภาษณ์กับทีมข่าวของเรา เสร็จเธอจึงนำรถเข้าไปตรวจสอบที่อู่ก็พบว่ามี GPS ถูกติดตั้งอยู่อีก 1 อันจริงๆบริเวณใต้ท้องรถ

ระหว่างสัมภาษณ์นายพิทักษ์ก็พยายามโทรศัพท์หาคุณเจี๊ยบ เป็น 20-30 สาย พอคุณเจี๊ยบ รับสายเท่านั้น ประโยคแรกที่นายพิทักษ์ พูดขึ้นมาก็ด่าก่อนเลย และพยายามข่มขู่ว่า ถ้าเขาไม่มีความสุขคุณเจี๊ยบก็ต้องไม่มีความสุขเหมือนกัน และ จะทำให้ถูกไล่ออกจากงาน ด้วยเหตุผลว่าคุณเจี๊ยบมีชู้

คุณเจี๊ยบ บอกว่าตัวเองต้องทนอยู่กับเหตุการณ์แบบนี้ มานาน 5-6 ปี ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และนายพิทักษ์ ก็ไม่ได้เซ็นรับรองบุตรด้วย ที่ผ่านมาพยายามขอเลิกแต่นายพิทักษ์ไม่ยอมเลิก จนทางบ้านของเธอกลัวความไม่ปลอดภัย และกลัวว่าจะกระทบต่อหน้าที่การงาน เธอจึง ตัดสินใจแล้วว่าถ้าเคลียร์ปัญหาเรื่องนี้จบด้วยตัวเธอเอง คือการลาออก เพราะอยู่ไม่ได้ เกรงกลัวอิทธิพลที่ชายของนายพิทักษ์ที่เป็นนายก อบต. แล้วถ้ายังอยู่ที่เดิมนายพิทักษ์ก็คงตามมารังควานไม่หยุด

ส่วนเรื่องลูก 2 คนเธอเองพร้อมที่จะเลี้ยงดู เพราะที่ผ่านมาก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอดเพิ่งมีระยะหลังที่นายพิทักษ์เอาลูกทั้งสองคนไปเพื่อข่มขู่และบีบให้ตัวเองกลับไปหา

ขณะที่นายแชน เพื่อนชายคนสนิทของเจี๊ยบ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้คิดอะไรกับคุณเจี๊ยบเชิงชู้สาวเลย เพิ่งรู้จักกันได้ประมาณเดือนกว่า จากกลุ่มสายบุญหลวงตาม้า และเหตุการณ์ที่ตนเองได้เจอกับนายพิทักษ์ครั้งแรก ทำให้รู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้ รวมถึงเด็กอีก 2 คน อยู่ในความไม่ปลอดภัย ซึ่งหาก นายพิทักษ์จะจับชู้เมียตัวเอง ควรไปจับที่โรงแรม ไม่ใช่ในงานบุญ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/zdgSSnZQkdU