สังคม
แฝดมาเฟียกร่าง! บุกร้านของเล่นสะพานเหล็ก กระชากหัวพนักงานหญิง ข่มขู่ห้ามขาย บังคับปิดร้าน
7 ส.ค. 2566
1.1K views
ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ร้านขายของเล่น ย่านสะพานเหล็ก สองพี่น้องฝาแฝด ตั้งตัวเป็นมาเฟีย สั่งปิดร้าน ห้ามขาย แถมข่มขู่ว่า ถ้าฝืนเปิด ไม่รับรองความปลอดภัย ซึ่งก่อนหน้านี้ สองพี่น้องมาเฟียเคยพาพวกบุกมาทำร้ายพนักงานหญิงของทางร้านและมีเรื่องกันมาหลายต่อหลายครั้ง
โดยมีผู้ชายคนหนึ่ง ชื่ออาตง เป็นเจ้าของร้านขายของเล่นชื่อดัง ย่านสะพานเหล็ก ได้โพสต์เรื่องราว อ้างว่าหลังทางร้านได้ถูกข่มขู่คุกคาม จากพ่อค้าอันธพาลในห้าง โดยระบุใจความดังนี้
1.แม้ะกับมุ้ย (นามสมมุติ) เป็นพี่น้องที่เปิดร้านขายของเล่นในตึกเดียวกัน นอกจากจะเป็นพ่อค้าแล้ว ทั้งคู่ยังมีพฤติกรรมอันธพาล จากที่เคยได้ยินหลายคนเล่ารวมถึงที่เห็นกับตาเจอกับตัว พบว่าหลายครั้งเวลาที่ทั้งคู่ไม่พอใจใครในตึกก็จะพากันไปข่มขู่คุกคาม ลามไปถึงการทำร้ายร่างกาย
คนที่ไม่อยากมีปัญหาก็ต้องยอม เวลาคุกคามหรือทำร้ายร่างกายใครก็ท้าทายให้แจ้งตำรวจได้เลย เพราะตำรวจทำอะไรเค้าไม่ได้ แน่นอนว่าร้านเราเองก็โดนแต่ที่ผ่านมาเราเลือกที่จะยอมเพราะไม่อยากมีปัญหา
2.ตัวละครต่อมาคือ อ้วน (นามสมมติ) เป็นหนึ่งในลูกน้องของแม้ะกับมุ้ย ซึ่งอ้วนเนี่ยเรียกว่าเป็นเด็กฝากที่ แม้ะกับมุ้ย เอามาฝากให้ทำงานกับทางร้าน ซึ่งระหว่างที่ทำงาน อ้วนมีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์หลายอย่าง เช่น หยุดงานบ่อยเกิน 10 วันต่อเดือนไม่รวมวันหยุดที่ได้หยุด 2 วันต่อสัปดาห์, สูบบุหรี่ภายในร้าน มาทำงานสาย รวมถึงชอบชวนคนนอกเข้ามาบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ซึ่งเป็นที่เก็บเงิน
ตอนนั้นเราซึ่งเป็นผู้จัดการร้านได้ทำการตักเตือนหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการปรับปรุง เราจึงทำเรื่องแจ้งเจ้าของร้านให้ยุติการจ้างทำงาน (ไม่ผ่านโปร) ทำให้นาย อ้วน พ้นสภาพพนักงานของทางร้านไปตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565
3.เมื่อแม้ะกับมุ้ย ทราบว่าอ้วนถูกเชิญออกทั้งคู่ก็ไม่พอใจ จึงข่มขู่เจ้าของร้านเพื่อบังคับให้จ่ายเงินเดือนให้อ้วน เดือนละ 15,000 บาทเป็นเวลา 1 ปี (รวมเป็นเงิน 180,000 บาท) โดยให้ อ้วน รับหน้าที่ม้าใช้ ทำงานต่าง ๆ ที่เจ้าของร้านมอบหมายซึ่งไม่ใช่ในฐานะพนักงานของร้าน ซึ่งเจ้าของร้านก็เคยให้ไปเรียนขับรถ (โดยจะออกค่าใช้จ่ายในการเรียนให้) เพื่อให้มาเป็นคนขับรถก็ไม่เรียน จนกระทั่งปัจจุบันอ้วนก็ยังไม่มีการช่วยธุระอะไรใด ๆ อย่างที่เคยคุยกันไว้ ทั้งหมดเป็นสัญญาปากเปล่า และเราไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
4.วันที่ (27 มิถุนายน 2566) เวลาประมาณบ่ายสอง อ้วนเดินทางมาที่ร้านเพื่อมารับเงินตามข้อ 3 เราก็โทรติดต่อเจ้าของร้านจนได้รับคำตอบว่าให้อ้วนรอหลังวันที่ 5 ก.ค. เดี๋ยวจะจ่ายเงินให้ แต่คำตอบกลับทำให้อ้วนไม่พอใจ จึงโทรตามลูกพี่แม้ะกับมุ้ยให้มาที่ร้าน
5.พอมาถึง ทั้งคู่ก็พยายามติดต่อเจ้าของร้านแต่ก็ได้คำตอบเดียวกันว่าให้รอหลังวันที่ 5 ก.ค. ก็ยิ่งทำให้พวกเค้าไม่พอใจเข้าไปใหญ่ เราที่งงว่าเงินจำนวนนี้คืออะไรก็เลยสอบถาม แต่ก็ได้คำตอบกลับมาว่า "มึงเกี่ยวอะไรด้วย" ซึ่งเราก็ตอบว่าเกี่ยวสิ เราเป็นหุ้นส่วนร้านนี้
6.แม้ะและมุ้ย ยังคงพยายามติดต่อเจ้าของร้านให้เอาเงินมาจ่ายภายในวันนี้ให้ได้ แล้วยังเริ่มแสดงพฤติกรรมอันธพาล ไล่ลูกค้าในร้านออกและสั่งให้ปิดร้านแต่เราไม่ทำตาม แม้ะที่โกรธจัดก็เริ่มเตะถีบโต๊ะเก้าอี้ของร้าน ก่อนจะสั่งให้อ้วน กับสมุนอีกคนนั่งเฝ้าร้านไว้จนกว่าเจ้าของร้านจะเอาเงิน 15,000 บาทมาจ่าย
7.ตอนนั้นยอมรับว่าเราเองก็เริ่มโกรธ ที่พวกเค้ามาทำลายข้าวของในร้านแบบนี้ ก็เลยพูดไปว่า "ของสกปรกหมดแล้ว โอ้มายก๊อด" จุดนี้มันทำให้แม้ะ เริ่มด่าทอและเกิดเหตุการณ์ตามในคลิป ซึ่งเราถูกกระชากผม และหน้ากากอนามัย
8.หลังจากลงมือทำร้ายร่างกายเสร็จ แม้ะก็ข่มขู่ว่าถ้าอยากเปิดร้านต่อ เราจะต้องถอนตัวจากการเป็นผู้ถือหุ้นของร้าน และต้องไล่พนักงานที่พวกเค้าไม่ชอบออก เค้าถึงอนุญาตให้ร้านเปิดขายของต่อไปได้ ส่วนมุ้ยเองก็พูดจาข่มขู่สารพัด
นอกจากข้อความดังกล่าวแล้ว ทางอาตง ยังโพสต์คลิปพฤติกรรมของพี่น้อง ฝาแฝดคู่นี้ โดยเป็นเหตุการณ์เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา แม้ะและมุ้ย พาลูกน้อง ซึ่งเป็นผู้ชายอีก 2 คนมาที่ร้านของผู้เสียหาย
นายแม็ค เดินเข้าไปกระชากหัว น้องตี้ พนักงานหญิงของร้านขายของเล่น และมีปากเสียงโต้เถียงกัน จากนั้นนายไมค์ เดินเข้ามาสมทบและพยายามข่มขู่พนักงานของร้านให้ปิดร้าน ห้ามขาย
หลังจากโพสต์ดังกล่าว ถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์ และชาวเน็ตต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
ขณะผู้ก่อเหตุ เห็นก็เข้าไปตอบคอมเมนต์โดยระบุว่าเรื่องจริงทราบไหมถ้าอยากทราบมาชั้น 3 ครับโลกใบนี้มีกล้องครับผมถ้าเป็นแบบไม่คิดหรือวิจารณ์แบบไม่รู้ความจริงขออนุญาตรับคำขอโทษเป็นเงินสดทนายผมจะถ่ายไว้, มีทั้งให้นักเลงมาหาเรื่องที่ร้านตำรวจมาหาเรื่องที่ร้าน ทุกเหตุการณ์กล้องทางห้างมีนะครับก่อนวิจารณ์อะไรขอให้มาดูกล้องที่ห้างก่อนแล้วค่อยตัดสิน แชทขู่มีหมดครับให้นักเลงมามีหมด ซึ่งทางฝั่งผู้ก่อเหตุนั่งไล่ตอบคอมเม้นของชาวเน็ตที่มาแสดงความคิดเห็น ด้วยข้อความเดียวกันทั้งหมด
หลังจากเหตุการณ์ช่วงบ่ายวันที่ 27 มิถุนายน 2566 และช่วงเย็นวันเดียวกัน หลังจากน้องตี้พนักงานหญิงของร้าน ไปแจ้งความ และจะกลับมาเปิดร้านขายของตามปกติ ฝาแฝดคู่นี้ก็กลับมาป่วนที่ร้านอีก โดยสั่งห้ามเปิดร้าน ให้กลับบ้าน ถ้ากลับยอมกลับดี ๆ วันนี้จะปลอดภัย แต่ถ้าฝืนเปิดวันหน้าไม่รับรองความปลอดภัย
จากการสอบถามน้องตี้ พนักงานหญิงของร้านขายของเล่นดังกล่าว เธอบอกว่าวันเกิดเหตุ 27 มิถุนายน 2566 คู่กรณีฝาแฝดแม็คและไมค์มาป่วนที่ร้านทำลายข้าวของ เธอจึงบอกไปว่าของสกปรกหมดแล้วก็ทำให้ทั้งคู่ไม่พอใจ เข้ามาทำร้ายร่างกายและหาเรื่องตามคลิป
ซึ่งหลังเหตุการณ์วันที่ 27 มิถุนายน ทั้งคู่ก็ยังตามมาหาเรื่อง ชวนทะเลาะวิวาทอยู่เรื่อย ๆ ถึงขั้นท้าตีท้าต่อยกัน ส่วนสาเหตุ น้องตี้ บอกว่า น่าจะมาจาก พี่น้องฝาแฝดคู่นี้ไม่พอใจ ที่เธอไล่นายอ้วน ออก ซึ่งเป็นลูกน้อง ของแม็คและไมค์ เคยมาทำงานที่ร้านแต่ไม่ผ่านโปร เธอจึงไล่ออก คงทำให้พี่น้องฝาแฝดไม่พอใจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและพยายามหาเรื่องมาโดยตลอด
น้องตี้ บอกอีกว่า สองพี่น้อง ตามข่มขู่คุกคามและหาเรื่องพนักงานในร้าน จนเธอต้องจ้าง บอดี้การ์ดผู้ชายมาดูแลความปลอดภัยให้กับตนเองและพนักงานในร้านคอยตามไปส่งขึ้นรถกลับบ้าน ยิ่งทำให้ฝาแฝดคู่นี้เข้าใจว่าจ้างคนมาข่มขู่ ทั้งที่เธอย้ำกับบอดี้การ์ดว่าให้มาดูแลความปลอดภัยห้ามไปมีเรื่องกับสองคนนี้
ขณะที่เฮียตง เจ้าของร้านขายของเล่น ที่ถูกพี่น้องฝาแฝดคู่นี้พาพวกมาบุก บอกว่าทั้งคู่ก็เปิดร้านขายของเล่นแบบเดียวกัน ส่วนจุดเริ่มต้นที่ทำให้คู่แฝดแม็คและไมค์ ไม่พอใจ มาจากทั้งคู่ส่งนายอ้วนมาสมัครงานเป็นพนักงานที่ร้านตนเองก็รับไว้แต่ทำงานได้ประมาณ 3-4 เดือน ประเมินแล้วว่าไม่ผ่าน เพราะนายอ้วนชอบนำความลับของทางร้าน ไปบอกกับคู่แฝดเช่นเวลามีของเล่นโมเดลมาใหม่ ก็จะเอาไปบอก ตนเองจึงเลิกจ้าง
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาคู่แฝด ก็ตามมาก่อกวนที่ร้านโดยตลอด ขู่พนักงานของทางร้านจนไม่กล้าเปิดขายของ และอ้างว่า เป็นเจ้าของตึก บอกว่าไม่กลัวตำรวจ ท้าทายให้แจ้งความ ที่ผ่านมาเคยไปแจ้งความหลายครั้ง แต่ก็ไม่เอาเรื่องเพราะไม่อยากมีปัญหา ตนเองอยากขายของที่ห้างนี้ต่อ
นอกจากนี้ยังมีปัญหากันเรื่องที่คู่แฝดสั่งซื้อของเล่นจากทางร้านของเฮียตงและไม่ยอมจ่ายค่าของเล่นประมาณ 90,000 บาท, ส่วนเรื่องการเลิกจ้างนายอ้วน ทั้งคู่ก็มาข่มขู่ว่าตนเองเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม บังคับให้จ่ายเงินเดือนนายอ้วนอีก 15,000 บาทโดยที่นายอ้วนไม่ต้องมาทำงาน ตนเองก็ยอมจ่ายมาโดยตลอดเป็นระยะเวลา 7 เดือน เพราะไม่อยากมีปัญหา
แต่ล่าสุดคู่แฝดก็ยังพาพวกมาหาเรื่องที่ร้านเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม จนตำรวจเข้ามาระงับเหตุ และช่วงค่ำวันเดียวกัน ก็มีชาย 2 คนขับรถจักรยานยนต์ มาที่โกดังเก็บของของเฮียตง และปลาขวดโซดาเข้ามา ซึ่งลักษณะคล้ายกับคู่แฝด แต่ไม่ยืนยันว่าใช่หรือไม่, เฮียตงบอกว่า ที่ผ่านมาตนเอง ยอมฝาแฝดคู่นี้มาโดยตลอดเพราะไม่อยากมีปัญหาแต่ระยะหลังเริ่มหนักขึ้น มีการทำร้ายร่างกายพนักงานของร้านข่มขู่สั่งให้ปิดร้านจนตนเองขายของไม่ได้