สังคม

'อดีตพระคม' อมเงินวัด อึ้งทอง 19 ล้าน-เงิน 80 ล้าน ฝังดินภูเขาหลังวัด ลูกศิษย์ไม่อยากเชื่อจะทำแบบนี้

โดย JitrarutP

8 พ.ค. 2566

1.9K views

กองปราบปรามจับ อดีตพระคม พระนักเทศน์ชื่อดัง ข้อหายักยอกทรัพย์ 180 ล้านบาท และเสพเมถุน ด้านลูกศิษย์ไม่อยากเชื่อ จะมีพฤติกรรมแบบนี้ เชื่อว่าเป็นพระนักพัฒนา

จากกรณี ตำรวจกองบังคับการปราบปราม จับกุมอดีตพระคม พร้อมน้องสาว และเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี ร่วมกันยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรี มูลค่าความเสียหาย 180 ล้านบาท โดยการตรวจค้นพบเงินสด 51 ล้านบาท ถูกซ่อน อยู่ในกล่องโฟม กระเป๋าเดินทาง และเงินในบัญชี ของอดีตพระคมกว่า 130 ล้านบาท

ด้านพลตำรวจตรีมนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่ากรณีการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับเรื่องร้องเรียน จึงส่ง เจ้าหน้าที่ร่วมสืบสวนสอบสวน กระทั่งสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 ราย

ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม รองผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า คดีนี้เริ่มต้นจากได้รับเรื่องร้องเรียนตรวจสอบในทางลับให้ตรวจสอบพฤติกรรมของอดีตพระคม ใน 2 เรื่อง คือ ประพฤติผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง มีข้อกล่าวหา เสพเมถุน ซึ่งได้ให้เจ้าคณะปกครองสอบในทางลับ จนท้ายที่สุดผู้ถูกกล่าวหายอมรับมีพฤติกรรมนั้นจริง

และ อีกข้อกล่าวหา เรื่องการบริหารงานวัดไม่โปร่งใส มีการนำเงินบริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และอาจมีการยักยอกเงินวัดไปเป็นเงินส่วนตัว ทางพศ.ตรวจสอบเส้นทางเงินไม่ได้ จึงประสานกองบังคับการกองปราบปรามตรวจสอบ จึงพบความเสียหายจำนวนมาก

ต่อมาพศ.ได้รับแจ้ง จากอดีตพระคมและอดีตพระหมอ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดได้ลาสิขา ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนตั้งรักษาการเจ้อาวาสเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินภายในวัดต่อไป

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณนฤชา กมุทโยธิน ลงพื้นที่วัดบริเวณวัดป่าธรรมคีรี พบว่าถูกปิดเงียบตั้งแต่เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา ห้ามบุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าภายในวัดเด็ดขาด มีเพียงเจ้าหน้าที่และคนของทางวัดเท่านั้นที่สามารถเข้า-ออกได้

ด้านแม่ชี บอกว่า ตอนนี้ภายในวัดมีพระสงฆ์ แม่ชีและผู้ปฏิบัติธรรม กว่า 50 ชีวิต ก็ยังปฏิบัติศาสนกิจตามปกติ ไม่ได้สนใจกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ส่วนที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้า เนื่องจากเป็นคำสั่งของเจ้าหน้าที่เพราะเจ้าหน้าที่จะเข้าค้นภายในวัด จึงไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป

ขณะที่นายสิทธิ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านซับน้ำเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา บอกว่า ในพื้นที่มีสำนักสงฆ์ทั้งหมด 5 แห่ง วัดป่าธรรมคีรีก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งอดีตพระคม เป็นคนแรกที่เข้ามาบุกเบิกก่อสร้างเป็นสำนักสงฆ์ เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา

คนที่มาทำบุญส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ มีทั้งคุณหญิง คุณนาย คนมียศมีตำแหน่ง รวมถึงดารา นักแสดง หลายคนก็มาทำบุญปฏิบัติธรรมที่นี่ 

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ยังบอกอีกว่า นอกจากอดีตพระคม จะเป็นพระนักพัฒนาแล้ว ช่วงเทศกาลสำคัญทางศาสนา ท่านจะบริจาคทาน ข้าวสารอาหารแห้งให้กับชาวบ้านในพื้นที่ด้วย ส่วนประเด็น ที่อดีตพระคม ถูกจับเนื่องจากเสพเมถุนและยักยอกเงินวัด 180 ล้านบาทนั้น ส่วนตัวไม่รู้รายละเอียดข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพราะการบริหารจัดการเงินของวัด ชาวบ้านในพื้นที่จะไม่รู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่จะเป็นทีมบริหารของทางวัดเองซึ่งหากตรวจสอบพบว่า อดีตพระอาจารย์คม มีความผิดจริงก็อยากให้รับโทษทางกฎหมาย

ขณะที่ทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายเอ (นามสมมุติ) ลูกศิษย์รุ่นแรกของอดีตพระอาจารย์คม บอกว่าตัวเองเริ่มรู้จักพระอาจารย์คมตั้งแต่ปี 56-57 เนื่องจากครอบครัวเพื่อนนิมนต์มาทำบุญ หลังจากนั้นตนและครอบครัวก็เลื่อมใสศรัทธา มาจนถึงปัจจุบัน

นายเอ บอกว่า คนเลื่อมใสศรัทธาอดีตพระคม เพราะท่านจะสอนให้ภาวนาคำว่า พุทธ โธ เพื่อให้มีสติอยู่เสมอ ส่วนที่อดีตพระคมโดนจับ ในข้อยักยอกเงินของวัด 180 ล้านบาทและเสพเมถุนนั้น ส่วนตัวไม่อยากจะเชื่อว่าว่าท่านจะทำแบบนี้ หลังจากนี้ก็จะเลือกศรัทธาคำสอนของอดีตพระคม ที่สร้างไว้

ล่าสุด พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขยายผลการตรวจค้นวัดเมื่อวานนี้ (7พ.ค.) ว่าพบทองคำแท่งจำนวนหนึ่งมูลค่า 19 ล้านบาท พร้อมเงินสด 80 ล้านบาท ถูกฝังดินภูเขาหลังวัด ส่วนวันก่อนที่พบ เงินสดที่พบในบ้าน น้อง สาว 51 ล้านบาทเงินในบัญชี 70 ล้าน บาท รวมทรัพย์สินกว่า 200 ล้านบาท ที่ยังหลงเหลือ

ซึ่งวันนี้จะมีการตรวจค้นวัด และเปิดตู้เซฟบางส่วนเพื่อหาทรัพย์สินอย่างละเอียด รวมถึงหลักฐานในการประกอบสำนวนคดีเอาผิดอดีตพระคม กับพวก ซึ่งเจ้าตัวก็ให้การรับสารภาพสอดคล้องกับข้อมูลการสืบสวนของตำรวจ วัดดังกล่าวมีบัญชีทั้งหมด 6 เล่ม ซึ่งหากอดีตพระคมบริสุทธิ์ใจจริง ควรนำทรัพย์สินเข้าบัญชีวัดทั้ง 6 เล่มนี้

หากลูกศิษย์ที่ยังคาใจการทำงานของตำรวจ ยืนยันว่าทำตามพยานหลักฐาน และคำให้การรับสารภาพของตัวอดีตพระคมกับพวก ซึ่งถ้าเป็นเรื่องไม่จริงตำรวจจะเอาหลักฐานเป็นทรัพย์สินจำนวนมากมาจากไหน ส่วนการเสพเมถุนของอดีตพระคม พบข้อมูลว่ามีการเสพเมถุนมาตั้งแต่สมัยเรียนเปรียญนักธรรมมานาน มีทั้งพระ และฆราวาส ซึ่งการเป็น LGBTถือว่าไม่ได้ผิด แต่ในเมื่อครองสมณสงฆ์ก็ไม่สมควรครองผ้าเหลือง


รับชมผ่านยูทูบ :https://youtu.be/g7hDEXfIUNY

คุณอาจสนใจ

Related News