เมียช้ำรัก แค้นผัวแอบกิ๊กหลานสาว วางแผนกับพ่อ-พี่ชาย ลวงผัวฆ่า พ้อ "ไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ"

เมียสุดแค้น ผัวตัวดีเป็นกิ๊กกับหลานสาว บอกให้เลิกก็ไม่เลิก ขอหย่าก็ไม่หย่า จึงวางแผนกับพ่อและพี่ชายจัดฉากลวงผัวตัวเองมาฆ่า แต่ผัวหนีรอดแจ้งตำรวจ สุดท้าย 3 พ่อลูกถูกจับ ฝ่ายหญิงตัดพ้อ "ไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ"

จากกรณีเมื่อวันที่ 21 เมษายน นายสุทธิที อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่ของเทศบาลแห่งหนึ่ง ในอำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี เข้าแจ้งตำรวจ สภ.ไชยวาน ว่า ช่วง 9 โมงเช้าของวันเดียวกัน ถูกชาย 2 คน พยายามทำร้าย โดยคนหนึ่งใช้มีดขว้างใส่กระจกรถยนต์ ส่วนอีกคนใช้ปืนไม่ทราบขนาดและชนิดยิงใส่รถยนต์ เหตุเกิดบริเวณสันภูหินลับ สามแยกขึ้นภูเขาต้องมนต์ อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี ขอให้ตำรวจตามจับคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนสาเหตุยังไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร

หลังตำรวจลงพื้นที่สอบสวน ก่อนพบว่า คนร้ายไม่ใช่ใครที่ไหน คือ น.ส.ราตรี อายุ 44 ปี เมียของนายสุทธิที ผู้เสียหาย วางแผนกับร่วมกับนายบุญศรี อายุ 65 ปี และนายแสวง อายุ 46 ปี พ่อและพี่ชาย เพราะแค้นที่ผัวตัวเองไปเป็นกิ๊กกับ น.ส.อ้อม อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของ น.ส.ราตรี และเป็นลูกของนายแสวง เคยบอกให้ทั้งคู่เลิกพฤติกรรม แต่ก็ไม่ยอมเลิก

วันเกิดเหตุ น.ส.ราตรี ได้ตามนายแสวง ซึ่งทำงานที่ระยองให้กลับมาที่บ้าน จากนั้นได้ยึดโทรศัพท์ของหลานสาว แล้วสวมรอยเป็นหลาน แชทไปหานายสุทธิที นัดแนะให้มาเจอกัน ที่สันภูหินลับ บริเวณสามแยกขึ้นภูเขาต้องมนต์ โดยบอกว่า ให้มารับ มาพาหนีออกจากบ้านแล้วไปจดทะเบียนสมรสกัน ฝ่ายชายหลงเชื่อ ขับรถกระยะออกมาหาตามนัด

เมื่อมาถึงจุดนัดพบ นายแสวงที่หลบอยู่ในพุ่มไม้ ได้ขว้างมีดใส่กระจกรถด้านหลังจนแตก จากนั้นนายบุญศรี ได้ใช้ปืนลูกซองยิงใส่รถของลูกเขย จนมีรอยกระสุนหลายแห่งประตูด้านข้างด้านซ้าย ส่วนนายสุทธิที เมื่อถูกโจมตีก็ตกใจ ขับรถหนีอย่างรวดเร็ว แล้วเข้าแจ้งความ

ตำรวจ สภ.ไชยวาน จึงนำกำลังเข้าจับกุม 3 พ่อลูก ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านบ้านโนนสมบูรณ์ ตำบลโพนสูง อำเภอไชยวาน พร้อมยึดของกลางเป็นอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก อาวุธปืนชนิดประกอบเอง 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 12 นัด และปลอกกระสุนปืนลูกซอง 1 ปลอก

พร้อมแจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็น ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน

เมื่อ น.ส.ราตรี ถูกตำรวจจับ ถึงกับร่ำไห้ บอกว่า ใครไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอก ว่าหัวอกผู้หญิงเป็นอย่างไร อยากให้เข้าใจบ้าง สามีตัวเองแท้ๆ แอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลานสาว ทั้งผัวและหลานสาว เราเลี้ยงดูแลมาทั้งสองคน ผู้หญิงคนไหนเจอแบบนี้ก็คงรับไม่ได้

เคยเตือนสามีอย่าไปยุ่งกับหลาน และบอกหลานสาวอย่าไปยุ่งกับสามี แต่ทั้งคู่ห้ามเท่าไรก็ไม่ฟัง มันเจ็บช้ำใจเหมือนหัวใจถูกเหล็กแหลมๆ ทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา ผัวมามีชู้กับหลานสาวทั้งๆ ที่อยู่บ้านเดียวกัน นั่งร้องไห้ทุกวัน เคยไปแจ้งความสามีข้อหาพรากผู้เยาว์แล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้า ไปฟังเสียงช่วงนี้

หลังตำรวจคุมตัวทั้ง 3 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก็นำตัวไปขังที่ สภ.ไชยวาน เมื่อผู้สื่อข่าวไปขอสัมภาษณ์ น.ส.ราตรี อีกครั้ง กลับบอกว่า ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์แล้ว โดยบอกว่าเป็นเรื่องในครอบครัวจะขอเคลียร์กันเอง

ส่วนตาบุญศรี ยอมรับว่า โกรธไอ้ลูกเขยตัวดี ได้ลูกสาวเราแล้ว ยังมีหน้ามายุ่งกับหลานสาวอีก ยอมรับว่ายิงจริง แต่ไม่ได้พยายามฆ่า ทำไปเพราะโมโห มันหยามกันเกินไป ลูกผู้ชายไม่ทำกันแบบนี้แน่นอน

ด้านแม่แสงจันทร์ อายุ 66 ปี ภรรยาของนายบุญศรี บอกว่า หลังได้ยินข่าวแล้วรู้สึกเสียใจมาก จึงมาเยี่ยมสามี วันเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้าน เพราะไม่เฝ้าแม่ที่ไม่สบาย จึงไม่รู้เรื่อง ส่วนเรื่องที่ลูกเขยไปมีอะไรกับหลานสาว ก็เพิ่งรู้ตอนที่ตำรวจมาจับ จึงไปถามหลาน ก็ช็อกอีก เพราะหลานยอมรับว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ถูกข่มขู่ไม่ให้พูด เสียใจที่สามีและลูก ต้องมาถูกจับ เพราะลูกเขยคิดไม่ดี พูดแล้วก็เจ็บใจมาก

ขณะที่นายแอ๊ด อายุ 52 ปี มาเยี่ยม 3 พ่อลูกที่ถูกจับ พร้อมบอกว่า ตนเป็นหลานของนายบุญศรี หลังตาถูกจับก็รู้สึกสงสาร รู้สึกว่าตาไม่ได้รับความเป็นธรรม ตาไม่ได้พยายามฆ่า แต่ทำเพราะบันดาลโทสะ ตัวนายสุทธิทีเอง ปกติก็เป็นคนดีคนหนึ่ง แต่ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เมียก็มีอยู่แล้ว ยังมาทำแบบนี้กับหลานตัวเอง โดยเชื่อว่า ทั้ง 3 คนแค่โกรธ ไม่ได้มีเจตนาฆ่า

ผู้สื่อข่าวได้คุยกับ น.ส.อ้อม อายุ 18 ปี ที่เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นหนูยอมรับมีอะไรกันกับอาเขยจริง มานานกว่า 1 ปีแล้ว ส่วนจะคบกับอาเขยต่อไปหรือไม่อย่างไร คงต้องดูอนาคต ตอนนี้ตอบอะไรไม่ได้ จากนั้นก็รีบเดินหนีไปทันที

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อนายสุทธิที ต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Kgm0CHoawss