สังคม

เมียทหารท้อง 3 เดือน ถูกผัวทำร้ายจนน้ำคร่ำแตก ซ้ำร้องกองทัพ กลับถูกพาเข้าห้องผู้ป่วยจิตเวช

โดย JitrarutP

29 มี.ค. 2566

253 views

เมียทหารอุ้มท้อง 3 เดือน ถูกผัวทำร้ายจนน้ำคร่ำแตก กระดูกซี่โครงร้าว กองทัพสัญญาว่าจะเยียวยา แต่กลับพาเข้าห้องผู้ป่วยจิตเวช ทั้งที่ไม่ได้ป่วยทางจิต



กัน จอมพลัง พานางสาวเอ ผู้เสียหาย ถูกสามีเป็นทหารทำร้ายร่างกาย โดยต่อยเตะทุบตี นั่งทับท้อง ที่กำลังตั้งครรภ์ 3 เดือน จนทำให้ซี่โครงร้าว จมูกอักเสบ เบ้าตาเขียว หูฉีก น้ำคร่ำแตกเลือกออกจากช่องคลอด หวิดทำลูกเสียชีวิตในครรภ์ ร้องกองบัญชาการทหารบก



นางสาวเอ อายุ 30 ปี กล่าวว่า เธอคบหากับทหารนายหนึ่ง ยศสิบเอก สังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ซึ่งทักเข้ามาจีบเธอทางออนไลน์ เมื่อได้พูดคุยรู้สึกว่าคนๆ นี้เป็นคนดี จึงเริ่มคบหากันช่วงเดือนมิถุนายน 2565 หลังจากคบกันจึงย้ายเข้าไปอยู่ในค่ายทหาร จึงได้ย้ายไปอยู่ด้วยกันในค่ายทหาร จังหวัดชลบุรี ซึ่งก็เอาเอกเอาใจดี แต่ขี้หึง



พอมาอยู่ช่วงเดือนตุลาคม 2565 เธอไปดินเนอร์กับแฟนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แฟนมีอาการเมาและหึงหวง คิดว่าเธอคุยโทรศัพท์กับผู้ชายคนอื่น ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน แฟนจอดรถและลากเธอไปทุบตี จากนั้นพาขึ้นรถจักรยานยนต์กลับเข้าที่พักในค่าย หลังจากกลับมาถึงแฟลต แฟนลากเธอขึ้นห้องนอน ทำการทุบตีซ้ำ จนลุกไม่ขึ้น ทั้งเตะทั้งกระทืบ จนรู้สึกพอใจถึงหยุด เธอตกใจเป็นอย่างมาก เหมือนแฟนควบคุมสติไม่อยู่ หลังจากทุบตีเธอจนพอใจต่อหน้าแม่ของเขา เธอขอร้องให้พาไปโรงพยาบาล แต่ไม่มีใครพาไป ซึ่งตอนนั้นเธอเดินแทบไม่ไหว พอแฟนได้สติก็มาขอโทษแล้วทำร้ายตัวเอง หลังจากนั้นจึงพาเธอไปโรงพยาบาล ระหว่างที่หาหมอแฟนยืนคุมกำกับตลอด จึงบอกกับคุณหมอว่าลื่นล้ม (ไม่กล้าบอกว่าถูกทำร้าย กลัวจะถูกทุบตีซ้ำ) โดยคุณหมอวินิจฉัยว่า กระดูกซี่โครงร้าว และมีรอยฟกช้ำตามตัว เธอนอนเป็นไข้ 3-4 วัน หลังจากนั้นได้ให้อภัยกัน



ต่อมาเดือนพฤจิกายน อยู่ๆ ไม่พอใจเธอ เห็นว่าเธอคุยโทรศัพท์ ทั้งๆ ที่คุยงานกับลูกค้า แฟนกระโดดถีบลงโซฟา และเข้ามาทุบตีเธอ หลังจากนั้นลากเข้าห้องเพื่อไปทุบตีซ้ำ โดยครั้งนี้เธอบาดเจ็บจนกระดูกซี่โครงใต้ราวนมร้าว เบ้าตาเขียว มีรอยช้ำตามตัว นอนเป็นไข้ ซึ่งช่วงนั้นเธอต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นพอดี วันรุ่งขึ้นจึงเดินทางไปญี่ปุ่น หลังจากนั้นได้โทรคุยและขอโทษ เธอจึงให้อภัยอีกครั้ง



ต่อมาเดือนธันวาคม ไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน แฟนหึงหวงอีก ครั้งนี้เอาโทรศัพท์ตีหน้าถูกจมูก ทำให้เลือดกำเดาไหล และตบหน้ากลางงานคอนเสิร์ต พร้อมด่าทอ หลังจากกลับมาก็ได้คืนดีกัน เดือนต่อๆ มาก็มีปัญหากันอีกเช่นกัน หลังจากนั้นเธอพบว่าตัวเองตั้งท้อง ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง ก็อยู่กินกับแฟนเรื่อยมา



จนเมื่อวันที่ 27 ก.พ. แฟนหึงหวงอีก มีการขอโทรศัพท์เธอดู และเธอก็ขอโทรศัพท์แฟนดูเช่นกัน แต่ระหว่างที่ดูโทรศัพท์แฟนอยู่นั้น แฟนก็จับเธอเหวี่ยงลงเตียง ท้องไปกระแทกกับขอบเตียง ทำให้น้ำคร่ำไหล และเหวี่ยงเธอขึ้นเตียง กระโดดทับท้อง บีบคอ เธอพยายามหนี พอหลุดมาได้ก็วิ่งออกมานอกห้อง เพื่อร้องให้คนช่วยเหลือ จากนั้นแฟนตามมาดึงหัวเธอเข้าห้อง และทำร้ายร่างกายซ้ำอีก ทั้งๆ ที่เธอเลือดออก หลังจากแฟนควบคุมสติได้ จึงพาไปที่โรงพยาบาลชลบุรี ทางโรงพยาบาลได้ตรวจชีพจรเด็กเห็นว่าปลอดภัย แต่มีสภาวะครรภ์ไม่แข็งแรง จึงให้กลับมาพักที่บ้าน หลังจากกลับมาบ้านแฟนได้ไล่เธอออกจากบ้าน



เธอจึงมาพักที่บ้านน้องสาวที่ จ.ชลบุรี ตลอดระยะเวลา 2 อาทิตย์ แฟนโทรมาง้อตลอด แต่พอกลับไปแฟนบอกเธอว่ามีแฟนใหม่แล้ว เธอจึงเดินทางกลับบ้านน้องสาว หลังจากนั้นแฟนกลับโทรมาด่าน้องของเธออีก เธอจึงตัดสินใจแจ้งความ



หลังจากแจ้งความมีผู้ใหญ่ในค่ายทหารโทรมาหาเธอ ทั้งผู้พัน ผู้กองและหัวหน้าหน่วย โทรมาบอกว่าอยากให้จบเรื่อง เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสามารถพูดคุยกันได้ ไม่ต้องถึงขั้นไปแจ้งความ โดยในเบื้องต้นได้สั่งขังแฟนของเธอแล้วจำนวน 30 วัน ซึ่งเธอรู้ว่าแฟนไม่ได้ถูกลงโทษตามที่ผู้ใหญ่บอก เนื่องจากยังทักมาหาเธออยู่เลย ซึ่งเธอกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงตัดสินใจติดต่อกัน จอมพลัง ให้เข้ามาช่วยเหลือ



หลังจากนั้น กัน จอมพลัง และทีมงานได้พาเธอไปที่สโมสรกองทัพบก มีการตกลงจะเยียวยา ยื่นข้อเสนอเงินให้จำนวน 200,000 บาท ซึ่งเธอก็รับ หลังจากนั้นทางกองทัพได้ส่งตัวเธอไปที่โรงพยาบาล เพื่อไปตรวจร่างกายและรักษา แต่เหตุการณ์กลับเป็นคนละเรื่อง เธอถูกส่งไปห้องผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งในห้องนั้นมีผู้ป่วยที่พูดคนเดียว ผู้ป่วยที่ทุบหัวตัวเอง และมีทหารมายืนคอยหน้าห้องตลอดเวลา และกำชับว่าหากติดต่อบุคคลภายนอก กัน จอมพลัง และนักข่าว จะถูกส่งตัวกลับไปที่ห้องผู้ป่วยจิตเวช มีบุคคลที่อ้างว่าเป็นนักสังคมสงเคราะห์เข้ามาข่มขู่ให้เซ็นเอกสาร เนื้อหาประมาณว่า เซ็นยินยอมรับเงินเยียวยาและไม่ติดใจเอาความ ไม่ให้เอาเรื่องทหารที่ทำร้ายเธอ ซึ่งเธอได้ปฎิเสธ ทางนักสังคมสงเคาะห์ไม่พอใจจึงฉีกอีกสารต่อหน้าเธอ หลังจากนั้นเธอจึงติดต่อทีมงานของ กัน จอมพลัง อีกครั้งหนึ่งให้เข้ามาช่วยเหลือ และได้พาเธอไปตรวจร่างกายอีกโรงพยาบาลหนึ่งย่านพระราม 4 พบว่าเธอไม่ได้มีอาการป่วยทางจิต เป็นปกติดี แต่มีความเครียด



ตอนนี้เธอมีความเครียดเป็นอย่างมากเนื่องจากแฟนเป็นทหาร ยศ สิบเอก แถมพ่อเป็นครูฝึกนายร้อย จปร. ที่ จ.นครนายก ตอนนี้ไม่สนใจเรื่องเงินแล้ว อยากดำเนินการตามกฎหมาย อยากรู้ว่าทำไมถึงทำกันขนาดนี้ เธอไม่ได้รับความเป็นธรรมและทหารด้วยกันยังช่วยปกป้องและปกปิดอีก ต่อไปเธอจะใช้ชีวิตยังไงในเมื่อทหารมาคุกคามเธอถึงขนาดนี้



ต่อมา กัน จอมพลัง เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ก่อนหน้านี้ได้พาน้องไปพูดคุยกันแล้วที่สโมสรทหารบก ซึ่งทางผู้ใหญ่ยืนยันจะเยียวยาน้อง และพาน้องไปรักษา แต่ไม่เป็นผล น้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนำตัวเข้าห้องผู้ป่วยจิตเวชทั้งๆ ที่น้องไม่ได้ป่วยทางจิต น้องจึงติดต่อเขาอีกรอบ จึงเข้าไปรับตัวน้องออกมาจากโรงพยาบาล และพาน้องมาตรวจร่างกายอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ปรากฎว่า น้องไม่ได้เป็นจิตเวช น้องมีแค่ภาวะเครียดเนื่องจากตั้งครรภ์และการถูกทำร้ายร่างกาย กลัวความไม่ปลอดภัย แถมยังให้กองกำลังบุกไปบ้านน้อง



นอกจากนี้ ยังมีผู้หวังดีโทรมาหาเขาอีกว่าถ้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อาจไม่ได้รับความปลอดภัย หากเขาต้องตาย ที่มาช่วยผู้หญิงและเด็กในครรถ์ 3 เดือน ที่ถูกทหารกระทืบ ก็ให้มันรู้ไป เขาอยากถามว่าทางกองทัพจะปกป้องคนแบบนี้ไว้ทำไม หากกองทัพให้ความเป็นธรรมตั้งแต่รอบแรกน้องคงไม่ต้องออกมาเรียกร้อง กลางถนนราชดำเนินแบบนี้


https://youtu.be/v1EZKmyuUPI

คุณอาจสนใจ

Related News