สังคม

‘สกาย’ แจงละเอียดยิบ! เหตุการณ์ขณะ ตร.รีดเงิน ก่อนเข้าให้ปากคำนาน 4 ชั่วโมง

โดย paweena_c

2 ก.พ. 2566

49 views

สกายเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกว่า 4 ชั่วโมง หลังแถลงข่าวร่วมกับชูวิทย์ เผยโดนตำรวจรีดเงินจริง เล่ารายละเอียดครบถ้วน ขณะที่ชูวิทย์ตีปี๊บ เอามามอบให้ ผบช.น.บอกเอาไว้คลุมหัว



วานนี้ (1 ก.พ.) เวลาประมาณ 14.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินเข้ามาภายในโรงแรมเดวิส พร้อมกับถือปี๊บที่มือซ้าย และเดินเคาะเสียงดังเป็นจังหวะ พร้อมกับตะโกนว่า “ฝากเอาปี๊บ ให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไว้คลุมหัว” เริ่มต้นการแถลงข่าวด้วยการเปิดคลิปที่รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้สัมภาษณ์ที่ สน.ห้วยขวาง ไว้เมื่อวันที่ 25 ม.ค.66 ว่า ไม่มีการเรียกรับเงิน และบอกว่า ตำรวจไม่ดีเป็นนิ้วร้ายที่ต้องตัดทิ้ง เชื่อว่าวันนี้ไม่มีนิ้วเหลือให้ตัดแล้ว อาจจะต้องตัดแขนตัดขาเพื่อเอาชีวิตรอด



จากนั้นให้นายสกาย พยานชาวสิงคโปร์ เข้ามา ทันทีที่เดินเข้ามาเรียกเสียงฮือฮาจากนักข่าวสาวได้พอสมควร ก่อนจะเริ่มเล่าว่า ตำรวจตรวจค้นเจอบุหรี่ไฟฟ้า 3 อัน ซึ่งเป็นของเขาและเพื่อนผู้ชายอีก 2 คน ส่วนของอันหยูชิง เธอไม่ได้พกมา จากนั้นขอดูพาสปอร์ต ปรากฎว่า มี 3 คน ที่ไม่ได้พกมารวมถึงอันหยูชิงด้วย พอบอกว่าจะกลับไปเอาให้ที่โรงแรม ตำรวจก็ไม่ยอม เมื่ออันหยูชิงจะเอามือถือขึ้นมาถ่ายภาพ ก็โดนห้าม สั่งห้ามโทรศัพท์ ห้ามติดต่อใคร ห้ามถ่ายรูป โดยเจ้าหน้าที่ทำหน้าซีเรียสมาก



จากนั้นถามหาวีซ่า ก็บอกว่า ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวสิงคโปร์เข้าไทยไม่ถึง 30 วันไม่ต้องขอวีซ่า แต่เจ้าหน้าที่บอกอย่าเถียง แล้วเจ้าหน้าที่ก็เปลี่ยนมาพูดเรื่องที่พวกเขาพกพาบุหรี่ไฟฟ้าว่าเป็นความผิด เลยชี้แจงว่าบุหรี่ไฟฟ้านี้เพิ่งซื้อจากตลาดห้วยขวางในราคา 800-1,000 บาท เพราะเห็นว่ามีขายทั่วไปและคนก็สูบกันเป็นปกติ จึงไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย แต่พออธิบาย เจ้าหน้าที่ก็เริ่มมีท่าทีโมโห



สุดท้ายตำรวจก็บอกว่าทั้งหมดต้องไปสถานีตำรวจ และจะต้องติดคุกอย่างน้อยอีก 2 วัน ด้วยความตกใจและกลัว ประกอบกับต้องบินกลับพรุ่งนี้ เลยถามไปว่า แล้วถ้าไม่ไปโรงพักต้องทำอย่างไร ตำรวจคนที่ไม่ได้ใส่เครื่องแบบก็บอกว่า ขอไปถามหัวหน้าก่อน



สักพักก็เดินกลับมาบอกว่า จะคิดเงินค่าที่พกบุหรี่ไฟฟ้า 3 อัน อันละ 8,000 บาท รวมเป็น 24,000 บาท และค่าที่ไม่พกพาสปอร์ตตัวจริงอีก 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 27,000 บาท ตอนนั้นในตัวมีเงินอยู่ 30,000 บาท ก็นับออกมา 27,000 บาท ส่วนอีก 3,000 บาท พยายามเก็บไม่ให้เจ้าหน้าที่เห็น เพราะวันรุ่งขึ้นต้องใช้เงินไปสนามบินเพื่อเดินทางกลับ



สำหรับตำรวจ 3 นาย ที่เข้ามาคุย คนแรกเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ สวมแจ็กเก็ต มีหนวดเครา คนนี้ทำหน้าที่ในการเรียกและรับเงิน และเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ตำรวจคนที่ 2 สวมเครื่องแบบ รูปร่างสูงใหญ่ ศีรษะล้าน ทำหน้าที่บังกล้องวงจรปิดหน้าสถานทูตจีน ตำรวจคนที่ 3 รูปร่างผอม ใส่ผ้าคลุมครึ่งหน้า เข้ามาร่วมรับฟังการพูดคุยด้วย



จุดที่ส่งมอบเงิน คือ บริเวณมุมหนึ่งของด่านตรวจอยู่ใกล้กับป้ายหน้าสถานทูตจีน ซึ่งตำรวจคนแรกก็ยังบอกว่า หน้าสถานทูตมีกล้อง จะต้องแอบให้ แล้วก็ให้ตำรวจคนที่สอง เป็นคนบังกล้อง พอตำรวจคนแรกเก็บเงินเข้ากระเป๋าแล้ว ก็เอาบุหรี่ไฟฟ้าไปให้อันหยูชิง และทุกคนถือ แล้วถ่ายภาพไว้ แล้วก็เรียกแท็กซี่ให้พวกเขา ยอมรับว่า ตอนเกิดเหตุอยากรีบออกมาจากจุดนั้นให้เร็วที่สุด ทุกคนเครียดมาก เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ตอนนั้นก็โกรธอยู่ในใจว่า นี่เป็นมิติใหม่ของการเรียกเงินหรอ เงิน 27,000 บาท ที่ตั้งใจจะซื้อของไปฝากครอบครัวก็ไม่ได้ซื้อ



ระหว่างการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ยังได้นำแฟ้มรูปภาพตำรวจ สน.ห้วยขวาง มาเปิดให้สกายดูดวย และเขาก็ชี้ได้ว่ามีใครบ้าง และยังบอกอีกว่า ที่ประเทศสิงคโปร์ไม่มีเรื่องแบบนี้ การให้เงินกับตำรวจนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ซึ่งระหว่างการแถลงข่าวนายชูวิทย์ ได้ยกมือไหว้ขอโทษนายสกายด้วย



จากนั้นนายชูวิทย์ กล่าวถึงเรื่องขบวนการด่านรีดไถว่า เป็นขบวนการที่เกิดขึ้นในยุคของพลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคนปัจจุบัน โดยระบบของด่านรีดไถนั้น ไม่ใช่ว่าตำรวจรีดไถเงินจากประชาชนหรือนักท่องเที่ยวแล้วเงินจะเข้ากระเป๋าตัวเอง แต่เป็นการที่ต้องรีดไถเงินเพื่อนำเงินลงกองกลาง นำส่งนาย คือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล



ด่านจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ด่านของนครบาล จำนวน 88 สถานีตำรวจ ต้องส่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งเป้าเอาไว้ให้รีดไถให้ได้สถานีตำรวจละ 100,000 บาทต่อวัน หรือ 3,000,000 บาทต่อ 1 เดือน รวมเป็นเงิน 264,000,000 บาท ส่วนที่ 2 คือด่านของตำรวจจราจรกลาง ที่มีประมาณวันละ 20 ด่าน แต่ละวันต้องรีดไถเงินให้ได้ 100,000 บาท คิดเป็นวันละ 2,000,000 บาท เดือนละ 60,000,000 บาท รวมเป็นเงิน 324,000,000 บาท



นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า อัตราการเรียกรับผลประโยชน์ หรืออัตราการรีดไถ จะแตกต่างไปตามกรณีการกระทำความผิดต่างๆ ได้แก่ ปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด เรียกรับ 30,000 บาท ตรวจพบปัสสาวะม่วง เรียกรับ 100,000 บาท ตรวจพบยาเสพติด เรียกรับ 300,000-500,000 บาท ตรวจพบควันดำ เรียกรับ 100,000 บาท และบุหรี่ไฟฟ้า เรียกรับ 30,000 บาท



จากนั้นพลตำรวจตรี อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำชุดพนักงานสอบสวนเข้ามาสอบปากคำ นายสกายที่โรงแรม โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาบอกว่า การสอบปากคำครั้งนี้ นายสกายอยู่ในฐานะพยาน ได้ชี้ตัวบุคคลที่อยู่ในด่าน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า มีตำรวจกี่นาย หรือเป็นตำรวจชุดที่มีคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 หรือไม่ ต้องตรวจสอบกับพยานหลักฐานที่ตำรวจมี จึงจะสามารถแจ้งข้อหาเรียกรับผลประโยชน์กับตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งคาดว่าใช้เวลา 1-2 วันนี้คดีน่าจะชัดเจน



จากนั้นราว 22.30 น. นายชูวิทย์ โพสต์คลิปที่อันหยูชิงวิดีโอคอลมาคุยกับนายสกาย และขอบคุณนายชูวิทย์

ด้านอันหยูชิงก็โพสต์คลิป Reels ตอนวิดีโอคอลกับนายชูวิทย์ และใส่เพลงกีดกัน ของบิ้วกิ้น



อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ :  https://youtu.be/6VijIGHk-gY

คุณอาจสนใจ

Related News