สังคม

ผลตรวจเลือด ‘เสี่ยเบนท์ลีย์’ ออกบ่ายนี้ รอง ผบช.น.แจงไม่ได้เป่าแอลกอฮอล์ เหตุบาดเจ็บที่หน้าอก

โดย paweena_c

10 ม.ค. 2566

221 views

ผลการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของเจ้าของรถเบนท์ลีย์ ออกบ่ายวันนี้ รอง ผบช.น.แจงไม่ได้เป่าแอลกอฮอล์ เหตุบาดเจ็บที่หน้าอก และตำรวจส่งตรวจเลือดทันทีหลังเกิดเหตุ 1 ชั่วโมง แต่พยานยืนยัน กว่าจะตรวจเกือบตี 5

จากกรณีนายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ ขับรถเบนท์ลีย์ด้วยความเร็วสูงบนทางด่วน แล้วขับปาดไปมา จนไปชนท้ายกับรถปาเจโร่ ทำให้รถปาเจโร่พลิกคว่ำแล้วมาชนกับรถดับเพลิงของอาสาสมัครดับเพลิงฐานฮารูน บางรัก ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 8 คน ในจำนวนนี้มี 3 คนที่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

ประเด็นหลักที่หลายคนคาใจ คือ เรื่องที่นายสุทัศน์ ไม่ยอมเป่าเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และพยายามยื้อเวลาโดยการดื่มน้ำ เคี้ยวหมากฝรั่ง ก่อนจะขอไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจแทน ที่สำคัญ คือ ตำรวจส่งตัวไปตรวจเลือดตอนกี่โมง เพราะจะมีผลต่อการดำเนินคดีหรือไม่

ล่าสุด ประมาณ 19.00 น. วานนี้ (9 ม.ค.) นายสุทัศน์ ได้ส่งทนายความและตัวแทนมาเจรจาเรื่องค่าเสียหายกับคู่กรณี คือ รถปาเจโร่และรถดับเพลิง โดยใช้เวลาในการเจรจาราว 1 ชั่วโมง ก่อนที่ทนายความจะหลบสื่อออกไป และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ บอกแค่ว่ามาเป็นตัวแทน

จากนั้น นางสาวธนานิษฐ์ จิรตเสวีพงศ์ อายุ 29 ปี หนึ่งในผู้โดยสารที่อยู่ในรถยนต์ปาเจโร่ กล่าวว่า จนถึงวันนี้ทั้งครอบครัวและตัวเธอ ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษจากผู้ต้องหาเลยสักครั้ง ไม่เคยมีการโทรศัพท์มาถาม หรือมาขอโทษด้วยตัวเอง แม้แต่วันนี้ที่ส่งตัวแทนมาเจรจา ก็ไม่มีการถามเรื่องอาการบาดเจ็บแม้แต่น้อย ทั้งที่พ่อของพี่เขยแขนหักต้องผ่าตัดและนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล สภาพจิตใจแต่ละคนก็ย่ำแย่ โดยเฉพาะลูกวัย 4 ขวบ ที่รับรู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลและค่าเยียวยาคนในครอบครัว ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะยังต้องรักษาตัวอยู่ ซึ่งเรื่องเงินตอนนี้ผู้ต้องหาจะพูดอะไรก็ได้ เพราะเจ้าตัวไม่ได้มาคุยเอง ยอมรับว่าตอนนี้ยังคาใจ 2 เรื่อง คือ เรื่องที่ไม่เคยออกมาขอโทษ กับเรื่องไม่เป่าแอลกอฮอล์

เช่นเดียวกับ นายอิทธิพล ประสงทรัพย์ อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยมัสยิดฮารูณ คนขับรถดับเพลิงก็คาใจ 2 เรื่องนี้เหมือนกัน และอยากให้ออกมาพูดต่อหน้าสื่อมวลชนว่าทำไมถึงไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ส่วนเรื่องรถดับเพลิงของ อปพร.ที่เสียหาย ทางทีมทนายรับปากว่าจะซื้อคันใหม่พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ให้ใหม่

สำหรับประเด็นเรื่องการไม่เป่าเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ได้ชี้แจงว่า นายสุทัศน์ ได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกจากแรงกระแทกของถุงลมนิรภัย จึงขอให้ไปตรวจเลือดแทน ทำให้พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อหาเมาแล้วขับในทันที เพราะต้องรอผลเลือด และหากผู้ได้รับบาดเจ็บคนใดได้รับบาดเจ็บสาหัส คือ ต้องพักฟื้นเกินกว่า 20 วัน ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ขับขี่รถยนต์อีกครั้ง

ส่วนประเด็นเรื่องของระยะเวลาในการส่งตัวตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดจากการตรวจสอบพบว่าพนักงานสอบสวนส่งตัวผู้ขับขี่รถเบนท์ลีย์ ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดตอนตี 1 ครึ่งแล้ว หลังจากเกิดเหตุราว 1 ชั่วโมงเศษ

เรื่องเวลาการส่งนาย สุทัศน์ ไปตรวจเลือด ทีมข่าวได้ตรวจสอบไปยังทีมอาสาสมัครที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ กล่าวว่า อุบัติเหตุเกิดราว 00.30 น. ของวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมาตามเวลาในภาพกล้องหน้ารถ

จากนั้นประมาณ 1.00-1.30 น. คือช่วงเวลาที่อาสาสมัครกู้ภัยพบตัวนายสุทัศน์ อยู่ภายในรถแท็กซี่เพื่อเดินทางออกจากจุดเกิดเหตุ จนต้องพาตัวมาส่งที่ สน.ทางด่วน 1 แล้วมาเจรจาตกลงกันที่ สน. และขอให้มีการเป่าตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ แต่นายสุทัศน์ ไม่ยอม ก่อนจะทำบันทึกข้อตกลงกันที่ สน. โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ซึ่งจะปรากฎเป็นคลิปที่นายสุทัศน์นั่งดื่มน้ำและเคี้ยวหมากฝรั่ง

หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจึงทำหนังสือส่งตัวนายสุทัศน์ ไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งอาสาสมัครกู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่า กว่าจะออกจากสน.ทางด่วน 1 ก็ประมาณ 4.30 น.แล้ว ทำให้เกิดคำถามว่าแล้วแบบนี้จะส่งผลถึงเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายหรือไม่

สำหรับผลเลือดที่ระบุว่า จะต้องทราบผลวันนี้ พนักงานสอบสวนแจ้งว่าจะได้ผลในช่วงบ่าย เพื่อนำมาประกอบสำนวนและพิจารณาการแจ้งข้อกล่าวหา

คุณอาจสนใจ

Related News