ผมถูกกระทำ! ผอ.เปิดใจ สุดทนพฤติกรรมเมียโดดเกาะรถ - แม่ยายไล่ตี ยันไม่ได้มีกิ๊ก จากนี้ขอแยกทาง

ผอ.เปิดใจถูกครูสาวหอบหลักฐานร้องสื่อ ปัดทิ้งลูกเมีย ยังส่งเสียเลี้ยงดู ยืนยันไม่ได้มีคนใหม่ พร้อมให้ตรวจสอบ แต่ที่ต้องแยกกันอยู่เพราะทนพฤติกรรมเมียไม่ได้ ส่วนคลิปเมียกระโดดเกาะหน้ารถ ไม่ได้จะขับรถหนี แต่เดินออกมาจากบ้าน เพราะแม่ยายเอาไม้กวาดมาตีไล่

กรณีครูสาวเอาภาพจากกล้องหน้ารถมาร้องสื่อ เป็นเหตุการณ์ที่ตัวเธอเอง กระโดดขึ้นมาที่กระโปรงหน้ารถ แล้วทุบกระจกจนร้าว พร้อมเกาะที่ปัดน้ำฝนไว้ เพื่อไม่ให้ตกจากรถ ขณะที่คนขับรถพยายามขับกระชาก ถอยหน้าถอยหลัง หวังให้เธอตกจากรถ แต่เมื่อทำไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจเลี้ยวรถกลับเข้าบ้าน

โดยเจ้าของคลิปคือ นางสาวเบญจวรรณ หรือ ครูจ๋า อายุ 30 ปี ชาวอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ เล่าว่า คนขับรถเป็นสามีของตน เป็นถึงผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาแห่งหนึ่ง ของสุราษฎร์ธานี ได้จดทะเบียนสมรสกัน มีบุตร 1 คน อายุ 1 ขวบ 10 เดือน ตอนจีบใหม่ ๆ ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562 เขายังเป็นรองผู้อำนวยการ ส่งข้อความมาหา เอาอกเอาใจจนหลงเชื่อ หลงรัก จึงตกลงคบหากัน ก่อนจะตั้งท้องช่วงกลางปี 2563 สามีกลับให้ไปทำแท้ง เพราะเขากำลังจะสอบขึ้นเป็น ผอ.เขต กลัวจะกระทบตำแหน่ง แต่ตนไม่ยอมทำแท้ง เขาจึงพาไปจดทะเบียนสมรส และอยู่กินกันมา จนได้ตำแหน่ง ผอ.เขต ในปี 2564

จากนั้นเขาก็แปลกไปชอบชวนทะเลาะ ไม่ค่อยกลับบ้าน เรื่องเพศสัมพันธ์ จากที่มีความต้องการทุกคืนแม้จะมีประจำเดือน ก็ไม่ยุ่งกับตนอีก แถมตีตัวออกห่าง ให้เลขาติดต่อมาหาตน ไม่ให้ไปออกงาน ไม่เคยพาออกสังคมด้วยกัน ทำเหมือนเป็นเมียน้อย ไปตลาด ไปห้างเป็นครอบครัว ไม่เคยได้ไป

กระทั่งเหตุการณ์ในกล้องหน้ารถ เกิดขึ้นวันที่ 16 ธันวาคม หลังทะเลาะกัน สามีพยายามขับรถเก๋งออกจากบ้าน ตนจึงกระโดดขึ้นกระโปรงหน้ารถเพื่อขวางไว้ จากนั้นเขาก็จอดรถแล้วมาทุบตี ทำร้ายร่างกายตนต่อหน้าแม่ แม่ทนไม่ได้จึงเอาไม้กวาดมาตีสามี ก็ถูกสามีใช้เท้าถีบ แล้วเขาก็ออกจากบ้านไป ตนจึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.พระแสง

หลังจากนั้นก็ติดต่อเขาไม่ได้อีกเลย ถูกบล็อกทั้งเบอร์โทร ทั้งไลน์ ไปหาที่ทำงาน ก็สั่งให้ รปภ.มาปิดประตูไม่ให้ตนเข้า ทิ้งลูก และหนี้สินไว้ โดยให้เลขาติดต่อมาบอกว่า จะฟ้องหย่า และจะเอาลูกไปเลี้ยง เขาบอกว่า เขาเป็นถึงระดับ ผอ. ตนทำอะไรเขาไม่ได้หรอก จึงต้องมาร้องสื่อ โดยเมื่อวานนี้ยังได้ไปร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ล่าสุดวันนี้ ผอ.สำเริง ออกมาเปิดใจชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว บอกว่า สิ่งที่ภรรยาระแวงว่าตนไปมีคนอื่นนั้น ไม่เป็นความจริง และพร้อมให้ตรวจสอบได้ ทั้งการใช้โทรศัพท์ และเส้นทางการเงินต่างๆ แต่พอเขาตรวจไม่เจออะไรก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เพราะไม่ไว้ใจตน เคยอธิบายเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเข้าใจ ยังตามไปตรวจสอบถึงที่ทำงาน ซึ่งมันเป็นปัญหาใหญ่ของชีวิตคู่ จนตนต้องย้ายออกจากบ้านมาหลายครั้ง โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ภรรยาก็ตามมาขอร้องให้กลับไปอยู่กันเหมือนเดิม ตนจึงทำบันทึกข้อตกลง เพื่อให้ชีวิตคู่เดินต่อไปอย่างปกติ พอกลับมาอยู่บ้าน ภรรยาก็ไม่ยอมเซ็น เพราะมีทะแนะมาคอยแนะนำ ซึ่งตนก็ยังให้โอกาส

กระทั่งถึงเหตุการณ์ในคลิป วันที่ 16 ธันวาคม วันนั้นตนไม่ได้จะขับรถหนีไปไหน แล้วยังมาถูกแม่ยายเอาไม้กวาดไล่ตี ตนจึงเดินออกจากบ้านมาเฉย ๆ แล้วขออาศัยรถของช่างซ่อมเครื่องซักผ้า ให้ไปส่งกลับบ้าน ที่อำเภอทานพอ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยตัดสินใจไม่ขอใช้ชีวิตคู่ร่วมอีกต่อไป ครั้งนี้จะไม่ใจอ่อนแล้ว เพราะถูกกระทำมามาก และไม่คิดว่าภรรยาจะกลับตัวได้ ขอเลือกหน้าที่การงานดีกว่า จึงได้ขอหย่า และทำบันทึกเรื่องการขอหย่า ซึ่งตนจะเป็นคนรับผิดชอบดูแลลูก และดูแลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จนกว่าเขาจะไปมีสามีใหม่ แต่เขายังไม่ยอมเซ็นข้อตกลง เขาบอกไม่ต้องทำบันทึกอะไร แต่ขอเงินค่าหย่าประมาณ 1 ล้าน ถึง 1 ล้าน 5 แสนบาท