สังคม

หนุ่มใหญ่ช้ำ เปย์ครูสาวหมดตัว 3 ล้าน แต่พอล้มป่วยกลับโดนทิ้ง วอนขอเงินคืน 2 ล้านรักษาตัว

โดย chutikan_o

4 ม.ค. 2566

1K views

หนุ่มใหญ่สุดช้ำ คบหาครูสาวรุ่นใหญ่ 4 ปี ทุ่มเทเอาใจ เปย์เงินให้ 3 ล้าน ต่อมาล้มป่วยทำงานไม่ไหว ถูกครูสาวขอเลิก น้ำตาตกในอยากได้เงินคืนสัก 2 ล้านบาท ก็โดนปฏิเสธ ไล่ให้ไปฟ้องศาล


นายอุดม สนิทงาม อายุ 56 ปี หนุ่มใหญ่ชาวอำเภอทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช ร้องสื่อขอความช่วยเหลือ หลังครูสาวที่คบหากันมา 4 ปี ทอดทิ้ง โดยระบุว่า แต่เดิมเคยแต่งงานอยู่กินกับภรรยาคนแรก มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ก่อนเลิกรากันไป จากนั้นอดีตภรรยาได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ส่วนลูกชายแยกไปทำงานในตัวเมือง ตัวเองครองตัวเป็นโสด ทำงานกรีดยางในพื้นที่ของตัวเอง จำนวน 11 ไร่ พอมีรายได้ วันละ 2,000 บาท เก็บหอมรอบริมจนมีเงินฝากในบัญชีไว้ 2,200,000 บาท


ต่อมาได้กับพบภรรยาคนที่ 2 ชักชวนมาอยู่กิน ช่วยกันกรีดยางในสวน แต่ภรรยาคนที่ 2 มีพฤติกรรมชอบลักเล็กขโมยน้อย จึงตัดสินใจขอเลิก และอยู่เป็นโสดมาอีกหลายปี


จนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ไปส่งหลานเข้าโรงเรียน ได้พบกับครูคนหนึ่ง เกิดถูกใจจึงลองจีบไป สุดท้ายชอบพอกัน ซึ่งตัวครูก็เป็นม่าย วัย 52 ปี มีลูกติด 1 คน เมื่อตกลงใจก็เริ่มไปมาหาสู่กัน จนตัดสินใจว่า อยากแต่งงานด้วย แต่ฝ่ายหญิงบอกไม่พร้อม จึงขอหมั้นไว้ก่อนด้วยทอง 5 บาท 2 สลึง แหวนเพชร 1 วง นาฬิกาหลุยส์ 1 เรือน พร้อมเงินจำนวนหนึ่ง


ระหว่างการคบหา ไม่ได้เปิดเผยให้ใครรู้ เพราะถือว่ายังไม่แต่งงานกัน ต่อมาฝ่ายหญิงอยากประกอบธุรกิจร้านคาร์แคร์ มาขอให้ช่วย จึงขายสวนยางไป 3 ไร่ ได้เงินมา 350,000 บาท ก็ให้ไปลงทุน พร้อมบอกฝ่ายหญิงว่า อยากแต่งงาน ทำพิธีรับไหว้ มีเงินสินสอดให้อีก 1,000,000 บาท แต่ฝ่ายหญิงก็ยังบอกไม่พร้อม หากพร้อมเมื่อไรจะบอก


จากนั้นไม่นานฝ่ายหญิง มาบอกอีกว่า อยากเปิดร้านอาหาร และร้านเสื้อผ้า จึงนำเงินส่วนหนึ่ง พร้อมกู้จาก ธ.ก.ส. อีก 500,000 บาทให้ไปลงทุน โดยร่วมกันดูแลกิจการ ผ่านไปไม่นานฝ่ายหญิงมาขอเงินอีก บอกว่าจะเอาไปจ้างทำเลื่อนตำแหน่งวิทยฐานะ คศ.2 และ คศ.3 ก็ให้ไปและพยายามขอแต่งงาน ก็ยังถูกบ่ายเบี่ยง และเริ่มทำตัวห่างเหิน


ต่อมาเขาเริ่มมีอาการป่วย ฝ่ายหญิงพาไปส่งโรงพยาบาล ต้องใช้สิทธิ์ 30 บาทรักษาตัว เพราะเปย์ให้ฝ่ายหญิงไปมาก ทั้งเงินสดและทรัพย์สิน รวมแล้วกว่า 3,000,000 บาท ทำให้เงินเก็บที่เก็บมาทั้งชีวิตแทบไม่เหลือแล้ว ที่เจ็บช้ำหนัก ช่วงที่อยู่โรงพยาบาล ครูสาวรุ่นใหญ่ไม่เคยมาเยี่ยม หรือมาดูดำดูดีเลย


ล่าสุด ตัวเองยังป่วยเป็นโรคต้อหินแบบเฉียบพลัน ต้องรักษาด้วยการทำเลเซอร์ดวงตา ก็พยายามติดต่อฝ่ายหญิง เนื่องจากไม่มีเงินติดตัว แม้กระทั่งจะซื้อข้าวกิน ตอนนี้อยู่ตัวคนเดียวในขนำ ไม่มีไฟฟ้าใช้ ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปยังต้นสังกัดครูสาว เพื่อขอเจรจา ยื่นขอเสนอขอเงินคืนจากครูสาว 2,000,000 บาท แต่กลับถูกปฏิเสธ โดยชดใช้เงินมาเล็กน้อย พร้อมคำพูดที่ฟังแล้วช้ำใจว่า ให้ไปฟ้องศาล ถ้าศาลสั่งถึงจะยอมจ่าย


ด้านครูสาว ออกมากล่าวว่า ที่กล่าวหาว่าทอดทิ้งนายอุดม เพราะไม่สบาย จริงๆ แล้วเขาป่วยมาตั้งแต่แรกที่คบกันแล้ว เธอก็ดูแลมาตลอด แต่จะให้ดูแลตลอดเวลาก็ไม่ได้ เพราะเธอก็ต้องทำงานหาเงินเหมือนกัน ถ้าเกษียณแล้วก็มาอยู่ดูแลได้ ส่วนในเรื่องที่บอกว่านายอุดมให้เงินมาทำธุรกิจหลายอย่าง จริงๆ เป็นการลงทุนร่วมกัน ที่ผ่านมาก็เจอวิกฤตโควิด-19 ทำให้ขาดทุน เธอก็สูญเงินไปเป็นแสน คบมา 3 ปีมีแต่หมดกับหมด มันทำให้รู้สึกว่าไปกันต่อไม่ได้เลยขอแยกทาง ส่วนที่ไม่ยอมแต่งงาน เพราะฝ่ายชายไม่ยอมรักษาคำพูดก่อน ชีวิตคู่ควรจะจบกันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่เธอสงสาร ใจดี ยังทนอยู่ด้วย แต่เมื่อทนไม่ไหวแล้วก็ต้องแยกทาง แต่สุดท้ายเขาก็ยังไม่แมน ยังทวงของและเงินมาอีก คิดค่าใช้จ่ายมาหมด ทั้งค่าที่ไปกินข้าว เลี้ยงต่างๆ นานา คิดไปถึงค่าไม้แขวนเสื้อ ที่ผ่านมาเขาไปโพนทะนากับผู้นำชุมชนมาหลายรอบแล้ว แต่ไม่มีใครเข้าข้างเขา เพราะเป็นเรื่องของผัวเมีย ไม่ได้หลอกลวงอะไรเลย แต่ถ้าเขาจะทวงให้ได้ ก็คงต้องไปฟ้องศาลเอาแล้วกัน



ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ตรวจสอบเฟซบุ๊กของฝ่ายหญิง พบว่า มีการใช้ชีวิตสุดหรู ไปซื้อสร้อยทอง แหวนเพชร พร้อมโพสต์โชว์อีกด้วย


คุณอาจสนใจ

Related News