สังคม

เดินหน้าแฉ! 'ชูวิทย์' ยื่นข้อมูลก.ยุติธรรม สอบ 'ตู้ห่าว' ลั่นเตรียมฟ้อง 'สันธนะ' 100 ล้าน ฐานกลั่นแกล้ง

โดย JitrarutP

21 พ.ย. 2565

60 views

ชูวิทย์ มอบข้อมูล นายตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทารายใหญ่ให้กระทรวงยุติธรรม ยันไม่อยากรอเจอสันธนะบ่าย 2 โมง เพราะอาจมีการตบกบาลเกิดขึ้น พร้อมฟ้องเรียกค่าเสียหายสันธนะ 100 ล้าน


นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้ายื่นข้อมูลธุรกิจนายทุนจีนสีเทา คือ นายตู้ห่าว ซึ่งเป็นนายทุนรายใหญ่ ที่มีเส้นสายพัวพันกับอดีตนักการเมือง และ ผู้มีอิทธิพลในไทย ให้กับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ตรวจสอบกระบวนการทุนจีนสีเทาที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย โดยมีว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นแทนรับมอบข้อมูล


นายชูวิทย์ บอกว่า ตนเองมายื่นข้อมูลดังกล่าวในฐานะพลเมืองดี ที่อยากจะช่วยเหลือสังคม เพราะตนเองเห็นความผิดความชั่วร้ายของธุรกิจทุนจีนสีเทา โดยเฉพาะ นายตู้ห่าว ที่เป็นนายทุนจีนตัวการใหญ่ ทั้งที่ที่ผ่านมาตนเองนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ไปแล้วแต่จนตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ ออกหมายเรียก หรือ การไปตรวจสอบ นายตู้ห่าวเลย


ทั้งนี้ตนไม่ต้องการเรียกร้องการคุ้มครองพยานจากกระทรวงยุติธรรม เพราะตนไม่กลัว และตนก็เคยผ่านความเป็นความตายมาแล้วก่อนหน้านี้


ส่วนที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล จะมายื่นหนังสือที่กระทรวงยุติธรรมตอนบ่าย 2 โมง เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องการขายกิจการอาบอบนวดของตนทั้ง 6 แห่ง ว่ามีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ และท้าให้ตนรอเจอกับนายสันธนะนั้น


ตนยืนยันว่าตนไม่กลัวและยินดีให้ตรวจสอบ และตนคงไม่อยู่รอเจอนายสันธนะ เพราะเสียเวลา และตนกับสันธนะก็ต้องเจอกันอีก เช่นที่ศาล หรือ ที่อื่น ที่สำคัญหากตนอยู่รอเจออาจจะมีการตบกบาลเกิดขึ้น


นายชูวิทย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า วันพรุ่งนี้ จะเดินทางไปศาลอาญาฟ้อง นายสันธนะ ในกรณีที่เอาสายลับไปแอบถ้ายในห้องน้ำที่โรงแรมของตน แล้วบอกว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติด ซึ่งเป็นการกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา และจะไปห้องศาลแพ่งในวันเดียวกัน โดยตนจะเรียกค่าเสียหาย จำนวน 100 ล้านบาท


และในวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน ตนเองจะไปรัฐสภา เพื่อยื่นเรื่องถึงข้อมูลให้กับ ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบและจะเปิดเผยข้อมูลลับเกี่ยวกับนายสันธนะ ที่ตนเองมองว่า เป็นแค่จิ๊กโก๋ปากซอย และยังถูกไล่ออกจากราชการ แต่กลับไปฟ้องร้องผู้อื่นไปทั่ว


ขณะที่ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต เปิดเผยว่า จะนำข้อมุลดังกล่าวไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และดูว่าเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดยมอบหมายให้ พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้พิจารณาว่ามีการฟอกเงิน รวมถึงประเด็นเรื่องการประกอบธุรกิจในบุคคลต่างด้าว การประมูลงานของรัฐ กับกลุ่มนายทุนจีนว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยจะ ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์



คุณอาจสนใจ

Related News