ผู้ปกครองไม่ยอม แจ้งความเอาผิดครูดนตรีลงโทษเด็กรุนแรง แค่ย้ายไม่พอต้องออกราชการ

ครอบครัวนร.ถูกครูทำร้ายหน้าเสาธงเข้าแจ้งความ หลังเจออีกคลิป ครูกระชากนักเรียนจนล้มแล้วถีบซ้ำ ล่าสุดครูเดินทางมารับทราบข้อกล้าวหาแล้ว พร้อมเปิดใจสำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำ

จากกรณีเด็กนักเรียนที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน จ.หนองคาย แฉคลิปแอบถ่าย ขณะครูผู้ชายลงโทษเด็กนักเรียนด้วยความรุนแรงที่หน้าเสาธง กระชากคอเสื้อมาตบ และฟันศอก ท่ามกลางความตกใจของเด็กนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์นั้น

ล่าสุด ก็ถูกแฉด้วยคลิปที่สอง ครูคนเดิมเข้ามาห้ามเด็กนักเรียนชั้น ม.2 ที่ทะเลาะกัน เมื่อมาถึงเด็กที่ทะเลาะกันพยายามเดินหนี กลับถูกครูกระชากเป้ที่เด็กสะพายอยู่อย่างแรง จนเด็กหงายหลังล้มลง แล้วครูก็ใช้เท้ายันหน้าอก เอามือผลักที่ใบหน้า

หลังคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ดร.สาส์นลิขิตชัย พลไธสง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาหนองคาย จึงได้ลงพื้นที่โรงเรียนดังกล่าว เพื่อรับฟังข้อเท็จจริง และเปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่าเกิดจากการทะเลาะวิวาทของนักเรียน ครูซึ่งเป็นครูสอนดนตรี และเป็นครูฝ่ายปกครอง จึงเข้ามาระงับเหตุ แต่ใช้วิธีการไม่ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้ได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว

พร้อมกับสั่งให้ครูคนดังกล่าวมาช่วยราชการที่สำนักงานเขตฯ ก่อน และจากที่ลงพื้นที่ได้พูดคุยกับผู้ปกครอง ชุมชน ได้ทราบถึงพฤติกรรมของครู นักเรียน ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะรับฟังทุกแง่มุม เพื่อนำข้อมูลมารวบรวมและรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ คาดว่าไม่เกิน 10 วัน

ขณะที่ผู้ปกครองหลังเห็นคลิป เมื่อเช้านี้ได้เดินทางมายัง สภ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย พร้อมกับมูลนิธิเส้นด้าย เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับครูผู้ก่อเหตุ ระหว่างนั้น นายพิพัฒน์พงษ์ (สงวนนามสกุล) ครูผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน พร้อมกับยกมือไหว้ และกล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า วันนี้มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ และรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง

ด้าน พ.ต.อ.ภฤศ ภาสว่าง ผู้กำกับการ สภ.เฝ้าไร่ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเรียกผู้ก่อเหตุมาพบตั้งแต่วันแรกที่ถูกผู้ปกครองแจ้งความ ซึ่งวันแรกยังแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ในวันนี้เหมือนยอมรับความผิดที่ก่อขึ้น ซึ่งต้องดูบริบทที่เกิดขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุ และขณะเกิดเหตุเป็นยังไง ทำไมถึงกระทำเช่นนี้ ต้องดูให้รอบคอบ ยังไม่อยากรีบด่วนสินใจ ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด โดยเบื้องต้นจะแจ้งข้อหาครูทำร้ายร่างกายเอาไว้ก่อน

ด้าน ครูหลังรับทราบข้อกล่าว ได้เปิดใจว่า ตอนนี้ตัวเองถูกสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตฯ ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งขอผู้บังคับบัญชา ขณะนี้รู้สึกผิดกับการกระทำ และจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของเจ้าหน้าที่

ขณะที่นางสาวชลิดา พละมาตรย์ อาสาสมัครมูลนิธิเส้นด้าย กล่าวว่า มี 2 เคส เคสแรกผู้ปกครองได้พาเด็กแจ้งความแล้ว เหลืออีกหนึ่งเคสในวันนี้จึงได้พาน้องและผู้ปกครองมาแจ้งความครูในข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมได้พูดคุยกับทางผู้กำกับฯ แล้ว ว่าจะดำเนินคดีกับผู้อำนวยการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งต้องพิจารณากันอีกที ส่วนสภาพจิตใจของน้องคนแรกไปโรงเรียนได้ ส่วนน้องที่มาวันนี้ตั้งแต่เปิดเทอมยังไม่ไปโรงเรียนเลย เพราะอายเพื่อน เพราะเพิ่งเข้ามาเรียนใหม่ ทางครอบครัวจึงอยากให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด