พ่อไม่เชื่อกระบะหลับใน อัดลูกชาย 4 ขวบดับแล้วหนี คนขับยันไม่เมา กินเหล้าแค่เป๊กเดียว

สุดสลด! แม่นั่งถักเปียให้ลูกสาว 5 ขวบ ป้อนข้าวลูกชาย 4 ขวบ เตรียมตัวไปโรงเรียน จู่ ๆ กระบะบรรทุกควายเสียหลักพุ่งเข้าชนอย่างแรง แม่คว้าลูกสาวหลบได้ แต่คว้าลูกชายไม่ทัน ถูกรถชนต่อหน้าสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ผู้ก่อเหตุอ้างหลับใน ไม่เมาเพราะกินเหล้าแค่เป๊กเดียว


กล้องวงจรปิดหน้าร้านที่เกิดเหตุ เผยให้นาทีชีวิต ที่กระบะบรรทุกควายพุ่งเข้าใส่ร้านค้าที่ตอนนั้นมี 3 แม่ลูกนั่งอยู่ หลังได้ยินเสียงรถเสียหลีก แม่ตกใจคว้าลูกสาวที่กำลังถักเปียให้หลบรถได้ทันเพียงคนเดียว ส่วนลูกชายที่ฝั่งตรงข้าม ถูกรถชนเข้าอย่างจัง และยังถูกแผ่นโต๊ะหินอ่อนทับไว้ อาการสาหัส


หลังเกิดเหตุพ่อเด็กรีบวิ่งไปอุ้มลูกชายขึ้นจากซากปรักหักพัง พาไปส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เหตุเกิดช่วง 7 โมงเช้าวานนี้ที่ตำบลกระสัง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์


ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า รถบรรทุกควายวิ่งเสียหลักพุ่งข้ามเลนถนน ไปชนกับรถกระบะอีกคันหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนพุ่งเข้าร้านค้าไปชนเด็กชาย วัย 3 ขวบ หลังเกิดเหตุได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป


น.ส.พัชรวรรณ อายุ 29 ปี แม่ของน้องที่เสียชีวิต เผยทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังถักเปียให้น้องสตังค์ ลูกสาววัย 5 ขวบ และป้อนข้าวน้องแสตมป์ ลูกชายวัย 4 ขวบ อยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าบ้าน จู่ ๆ มีเสียงดัง จึงหันไปเห็นรถกระบะพุ่งเข้ามาหา ตนทำได้แค่ดึงลูกสาวออกไป แต่ลูกชายที่นั่งอยู่อีกฝั่ง ถูกแผ่นหินอ่อนกระแทกจากแรงรถที่ชนเข้ามาอย่างแรง ก่อนจะทับซ้ำอีกที


ตนพยายามใช้กำลังทั้งหมดที่มียกแผ่นหินอ่อนออก แล้วอุ้มลูกชายที่หมดสติส่งให้สามีรีบพาส่งโรงพยาบาล หวังว่าลูกแค่สาหัส แต่หมอห้องฉุกเฉินบอกว่า ช่วยเต็มที่แล้ว แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตลูกชายไว้ได้ ส่วนคนที่ชนดูจากสภาพคล้ายคนเมา หลังเกิดเหตุก็หลบหนีไปเลย ไม่มีคำขอโทษ และไม่ช่วยเหลืออะไรเลย


ต่อมาในช่วงเย็น ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ตามจับคนขับรถกระบะบรรทุกควายได้แล้ว คือ นายสมรวย อายุ 65 ปี อ้างว่า หลับใน เพราะพักผ่อนน้อย แต่ไม่ได้เมาดื่มเหล้าไปแค่เป๊กเดียวเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาหลบหนี แค่กลัวญาติคนตายจะรุมทำร้าย เพราะหลังเกิดเหตุถูกผู้หญิงคนหนึ่งถีบเข้าที่หน้าอก 1 ครั้ง จึงกลัว และหนีไป อยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุไม่ได้เจตนา


เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ โดยอยู่ระหว่างการตรวจวัดแอลกอฮอล์ หากพบว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มด้วย


ส่วนบรรยากาศงานศพน้องแสตมป์ เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ครอบครัวได้นำข้าวเหนียวหมูปิ้งที่น้องกินก่อนจะเกิดเหตุมาวางไว้ พร้อมนำเค้กรูปสไปเดอร์แมนที่น้องอยากได้ก่อนเสียชีวิต มาเป่าที่หน้าโลง เพราะอีกไม่กี่วัน ถึงวันเกิดครบ 4 ขวบ ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้


นายนพดล อายุ 33 ปี พ่อผู้เสียชีวิต ไม่เชื่อว่าคนขับหลับใน เพราะตอนเกิดเหตุยังเช้าอยู่ แถมสภาพหลังเกิดเรื่องเดินเซเหมือนคนเมา หากผลตรวจพบระดับแอลกอฮอล์สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็อยากให้ตำรวจลงโทษให้หนัก แม้ความจริงอยากให้ชีวิตแลกชีวิต เขาอ้างว่าไม่อยู่ในจุดเกิดเหตุเพราะตกใจ ตนไม่เชื่อเด็ดขาด ถ้าไม่มีเจตนาทำไมถึงหนี ทำไมไม่มอบตัวตั้งแต่แรก


สำหรับน้องแสตมป์ ปกติน้องจะสนิทกับปู่กับย่า ซึ่งอยู่ที่นครศรีธรรมราช ช่วงปิดเทอมจะไปอยู่กับปู่ย่า และเพิ่งกลับมาที่บุรีรัมย์ได้แค่ 10 วัน ล่าสุดเช้านี้ครอบครัวได้ตกลงกันว่า จะพาน้องไปฌาปนกิจศพที่นครศรีธรรมราช แต่ยังไม่กำหนดการว่าจะฌาปนกิจศพในวันไหน เพราะทุกคนในครอบครัวอยากอยู่กับน้องให้นานที่สุด


ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวไปที่บ้านนายสมรวย ผู้ก่อเหตุแต่ไม่พบตัว เพราะไปที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ไปให้ปากคำเพิ่มเติม จากนั้นตำรวจจะส่งฟ้องศาลจังหวัดบุรีรัมย์


ขณะที่นางสุด อายุ 64 ปี ภรรยานายสมรวย บอกว่า สามีมีอาชีพซื้อขายวัวควายในพื้นที่ ก่อนวันเกิดเหตุได้ไปซื้อควายมา 1 ตัว จะเอาไปขายที่ตลาดนัดอำเภอลำปลายมาศ โดยนำควายออกจากบ้านไปประมาณตี 1 ของวันที่ 7 พฤศจิกายน


ก่อนจะกลับมาตอน 9 โมงเช้า แล้วบอกว่า ขับรถชนคน ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีอาการวูบ ไม่รู้ว่าพุ่งชนอะไรบ้าง มารู้ตัวตอนที่รถจอดอยู่ในบ้านคนแล้ว หลังจากรู้ตัวได้ออกมาจากรถ พยายามจะไปดูว่ามีใครเจ็บหรือไม่ แต่มีคนอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาทำร้าย จึงวิ่งหนีออกมา จากนั้นได้เข้าไปมอบตัวที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ยืนยันไม่ได้เมา และไม่ได้หลบหนี