นายกฯไฟเขียว! ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้าน ศบค.ชงปิดผับตี 4 กระตุ้นเศรษฐกิจ

จับตาการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ วันนี้ จะมีการพิจารณา ปรับลดระดับ โรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็น โรคติดต่อเฝ้าระวัง ตั้งแต่ 1 ต.ค. นี้เป็นต้นไป รวมถึงจะมีการยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้วย


การประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยจะมีการพิจารณาประกาศให้ โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ตั้งแต่ วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป และทำให้ต้องยกเลิก การบังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้วย รวมไปถึงจะมีการ ยุบ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค.กลับไปใช้มาตรการควบคุมสถานการณ์ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ แทน


ศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศบค. เปิดเผยว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรี เห็นด้วยในหลักการเบื้องต้นแล้ว แต่การปรับ โควิด-19 เป็นโรคเฝ้าระวัง ครั้งนี้ ยังไม่ได้หมายถึง โรคประจำถิ่น เพราะต้องใช้เวลาอีกระยะ


และการปรับลดระดับครั้งนี้ เป็นผลมาจากสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อทั้งในและนอกระบบ 6-7 หมื่นคน แต่อาการอาการไม่รุนแรง และคาดการณ์ว่า ตัวเลขนี้จะอยู่อีกเพียงประมาณ 1 เดือน


เช่นเดียวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า สถานการณ์ปัจจุบัน อยู่ในสถานะที่สามารถควบคุมได้ อัตราการเข้ารับการรักษาและเสียชีวิตลดลง เข้าข่ายเหมือนกับโรคอื่นๆทั่วไป ทุกอย่างจึงต้องผ่อนคลายลง


การประชุม ศบค. วันนี้การกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะมีการเสนอ ขยายเวลา เปิดสถานบันเทิง สถานบริการ ตามโซนนิ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ไปจนถึงตี 4 ด้วย เพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ


ซึ่ง กทม. จะมี ถนนข้าวสาร โดยทางผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ บอกว่า ไม่ได้ขัดข้องอะไร หากจะเปิดถึงตี4 ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้คนมีทางเลือกในการท่องเที่ยวมากขึ้น


แต่ก็ต้องมีแนวทางปฎิบัติ ดูแล ไม่ให้เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนดเข้าใช้บริการและหากมีโอกาสจะไปหารือกับ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อหาแนวให้รอบคอบและรัดกุมมากยิ่งขึ้น