ผู้โดยสารนกแอร์เล่านาทีเฉียดตาย เครื่องไถลตกรันเวย์ ช่วยเหลือล่าช้า เหมือนรอดปาฏิหาริย์

ผู้โดยสารสายการบินนกแอร์ เล่านาทีเฉียดตาย หลังเที่ยวบินดอนเมือง – เชียงราย ไถลตกรันเวย์ที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง มาตรการช่วยเหลือล่าช้า รอดมาได้เหมือนปาฏิหาริย์ ด้าน รมว.คมนาคม สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบแล้ว


จากกรณีที่มีผู้โดยสารรายหนึ่ง ออกมาเขียนเล่าประสบการณ์ ซึ่งพบ หลังเกิดเหตุต้องรออยู่บนเครื่องเป็นเวลานานจนแทบหายใจไม่ออก โดยสมาชิกเฟซบุ๊ก Warangkhana Wongchai ระบุว่า "ตอนนี้ออกจากเครื่องได้แล้วนะทุกคน ปลอดภัยดีจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

"ถ้าคนบนเครื่องไม่บ่นว่าหายใจไม่ออก ไม่รู้จะได้ออกมาเมื่อไหร่ ผู้โดยสารบอกขอไปรอข้างนอกได้ไหม หายใจไม่ออก หน.แอร์ก็บอกต้องรอเป็นกฎของการท่าห้ามไปยืนบนรันเวย์ แล้วตอนนี้ฝนตก กลัวผู้โดยสารจะเปียก ทุกคนพร้อมใจกันบอกไม่กลัวเปียกจ้า

หายใจไม่ออก ติดมาชั่วโมงนึงแล้ว คนได้ออกไม่ถึง 20 คน การจัดการแย่มากกกก ช้ามากกกกก ทางออกมีทางเดียว คนในเครื่อง 163 คน แอร์แจ้งว่ารอรถบัสมารับ โทรแจ้งตั้งแต่เครื่องลงแล้ว ผ่านไปเป็นชั่วโมงมีรถตู้เวียนรับคันสองคัน

สักพักทนเสียงบ่นไม่ไหว ให้สไลด์ออกมา คนร้อยกว่าคนก็สไลด์ออกมาแปบเดียวก็หมด งงว่าก่อนหน้ารออะไรนานจัง นี่ออกมาจะถึงอาคารแล้วรถบัสเพิ่งไป ถ้าไฟไหม้เครื่องนี่คงไม่รอดละ เรารู้นะว่าเป็นอุบัติเหตุใครก็ไม่คาดคิด แต่แผนการจัดการอพยพผู้โดยสารแย่มาก ช้ามากกกกกกกกกก" หลังจากนั้นก็มีคนมาเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

ต่อมาสายการบินนกแอร์ก็โพสต์ ชี้แจงว่า สายการบินนกแอร์ออกแถลงการณ์ระบุว่า เที่ยวบินที่ DD108 เส้นทางดอนเมือง-เชียงราย ผู้โดยสาร 164 ท่าน พร้อมลูกเรือ 6 ท่าน ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 20.03 น.และถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายมีฝนตกหนัก ทำใหฟ้เครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายมีฝนตกหนัก ทำให้เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ และนักบินสามารถจอดเครื่องได้อย่างปลอดภัย และนำผู้โดยสารพร้อมลูกเรือทั้งหมดลงจากเครื่องเข้าไปยังอาคารผู้ดดยสาร โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ทั้งนี้บริษัทได้ดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการรับกระเป๋าสัมภาระและบริษัทยังได้นำอาหารว่าง และเครื่องดื่มมาให้บริการแก่ผู้โดยสารระหว่างพักรอ และจัดหาที่พักสำหรับผู้โดยสารเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น

หลังจากนั้น นกแอร์ก็ได้โพสต์งดเที่ยวบินในวันที่ 31 ก.ค.ทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.และล่าสุดทางสายการบินนกแอร์ ก็ออกประกาศหยุดบิน 3 วัน

ทีมข่าวเที่ยงวันได้พูดคุยกับหนึ่งในผู้โดยสาร เครื่องบินของสายการบิน "นกแอร์" ชื่อคุณเอก อายุ 48 ปี บอกว่า ตนเองและครอบครัว จำนวน 6 คน เดินทางมาจากสนามบินดอนเมือง โดยช่วงที่ใกล้ถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ฝนตกหนักมาก เจ้าหน้าที่ประกาศให้รัดเข็มขัดนิรภัย เตรียมนำเครื่องลง ตอนนั้นเครื่องลงนิ่มปกติ แต่จังหวะที่ล้อถึงพื้นเกิดการกระแทกพื้นอย่างแรง มีเสียงดังมาก ผู้โดยสารทุกคนกระเด็นจากการกระแทก



จากนั้นเครื่องวิ่งต่อไปอีกประมาณ 5 วินาที และมีการกระแทกต่อเนื่องอีกรอบหนึ่ง เสียงดัง ตึม ตึม ตึม ตึม เป็นจังหวะ ทำให้ตนเองกระแทกเข้ากับเก้าอี้ ทำให้เจ็บบริเวณซี่โครง และมีอาการจุก หลังจากนั้น หลังจากนั้นกัปตันก็ได้ดับเครื่อง ดับไฟ และปิดแอร์



เจ้าหน้าที่ได้แจกไฟฉายให้ทุกคนพร้อมบอกให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ไม่ต้องลุกออกจากที่นั่ง รอคำสั่งต่อไป ตอนนั้นตนเองและผู้โดยสารภายในเครื่อง รอคำสั่งอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมง ต่างคนต่างกลัว และต้องการที่จะออกจากเครื่อง เนื่องจากอากาศร้อน หายใจไม่ออก และรอนานเกินไป แต่ภายนอกหน้าต่างก็จะเห็นไฟไซเรนตลอดเวลา แต่เจ้าหน้าที่ก็ประกาศไม่ให้ออกเนื่องจากจากเครื่อง ข้างนอกอันตราย ผู้โดยสารก็โวยวายเพราะคิดว่าข้างนอกปลอดภัยกว่าข้างใน เนื่องจากกลัวสิ่งที่ไม่คาดคิด กลัวน้ำมันเครื่องบินรั่ว กลัวเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งอาจทำให้เครื่องบินระเบิดได้

ต่อมาได้มีการประกาศให้ผู้โดยสารที่เป็นผู้สูงอายุลงจากเครื่องโดยการ สไลค์ลงไปที่ละคน ต่อด้วยเด็กและผู้ใหญ่ หลังจากนั้นตนเองได้มารอภายในสนามบินแต่ก็ไม่สามารถรับประเป๋าเดินทางได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ให้มารับตอนเช้าของอีกวัน ทำให้แผนการเดินทางของตนถูกยกเลิกทั้งหมด ตนและครอบครัวต้องไปหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ใส่กันเอง และหาที่พักกันเอง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองมองสองมุม มุมที่หนึ่ง ชื่นชมปฏิภาณของกัปตันที่เซฟชีวิตของผู้โดยสาร แต่อีกมุมหนึ่งเห็นว่า มาตราการความช่วยเหลือต่างๆมีความล่าช้าเป็นอย่างมาก

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองและครอบครัวรู้สึกเหมือนว่ารอดตายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างปฎิหาร แต่ยังมีความรู้สึกกลัว ไม่กล้าขึ้นเครื่องบิน มีอาการนอนไม่หลับ