ยื้อชีวิตไม่ทัน! ผู้ช่วยพยาบาลขับช้าไม่หลีกทางรถกู้ภัย ไร้สำนึกยังโพสต์ด่า ไปรับผู้ป่วยช้าสิ้นใจระหว่างทาง

กลายเป็นเรื่องดรามา สาวผู้ช่วยพยาบาล โพสต์โวยรถกู้ภัยเปิดไซเรนขับจี้ท้าย ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย พร้อมบอกไม่มีผู้ป่วยอยู่ในรถ สุดท้ายเรื่องกลับพลิก เจ้าหน้าที่กู้ภัยชี้แจง กำลังไปรับคนไข้วิกฤตสีแดง สุดท้ายยื้อชีวิตไม่ทัน ฝากบอกคนใช้ถนนมีน้ำใจ

จากกรณีมีผู้หญิงคนหนึ่ง ได้โพสต์เข้าไปในกลุ่ม "ชุมทางทุ่งสง" ระบุข้อความเชิงตำหนิการทำงานของกู้ภัยว่า ฝากถึงรถมูลนิธิสยามรวมใจนะคะ เวลาขอทางให้เวลารถคันหน้าดูรถทางซ้ายมือบ้าง ไม่ใช่คิดแต่จะจ่อตูดอย่างเดียว คิดถึงความปลอดภัยของคนอื่นเค้าบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความสะดวกของตัวเอง ถึงน้องจะรีบแค่ไหน ด่วนแค่ไหน คิดถึงความปลอดภัยของคนอื่นด้วยค่ะ

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ชาวเน็ตได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ นอกจากนี้ยังตอกกลับผู้ที่โพสต์อีกด้วย

ทีมข่าวพยายามติดต่อไปที่ผู้ช่วยพยาบาลรายนี้แต่เจ้าตัวยังเงียบอยู่ ขณะที่เจ้าตัวยังโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า บอกแล้วต้องฟังความสองด้าน อย่ารีบคอมเมนต์ อบอุ่นในโลกออนไลน์ แต่เดียวดายอยู่หน้าบัลลังก์ ลบไม่ทันแล้วนะคะ แคปหมดแล้ว บอกแล้วใจเขาใจเรา แล้วตอนเกิดเหตุการณ์ตอนนั้นไม่ได้มีคนไข้บนรถนะคะ ฝากไว้ให้ทราบ สำหรับคนที่คิดว่ามีคนไข้อยู่บนรถแล้วเราโดนจี้ตูด จี้หยุด จี้หยุด คนเคยโดนเท่านั้นถึงจะเข้าใจ

ต่อมาเฟซบุ๊ก ปิยะพงษ์ สุขชนะ ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ทุ่งสง ได้โพสต์ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมนำคลิปการปฏิบัติหน้าที่ของรถพยาบาลฉุกเฉินมูลนิธิฯ ออกมาเปิดเผย โดยพบว่าระหว่างเดินทางไปรับผู้ป่วยวิกฤตสีแดง ได้มีรถเก๋งสีเขียวขับกีดขวางเส้นทางไม่ยอมหลีกทางให้ แม้จะเปิดไซเรน รวมทั้งออกประกาศทางลำโพงเพื่อขอทางแล้วก็ตาม แต่อีกฝ่ายก็ยังเพิกเฉย

ทำให้ล่าช้าต่อการไปช่วยเหลือผู้ป่วยเคสดังกล่าว เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็ปรากฏว่า ผู้ป่วยได้มีภาวะหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตผู้ป่วยไว้ได้ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ไปได้เร็วกว่านี้แล้วหัวใจยังไม่หยุดเต้น ก็อาจจะช่วยเหลือไว้ได้ทันการ ทางมูลนิธิขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วย พร้อมกันนี้สำหรับสาวผู้โพสต์ทราบว่า ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง น่าจะเข้าใจเรื่องการช่วยผู้ป่วยเป็นอย่างดี ถ้าอาการไม่หนักจริง ทางคนขับรถคงไม่รีบร้อนขนาดนี้... ใจเขาใจเรา

ด้านนายทรงเกียรติ ศรีขวัญช่วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ทุ่งสง ที่ขับรถพยาบาลฉุกเฉินคันเกิดเหตุ กล่าวถึงดรามาที่เกิดขึ้นว่า เวลา 15.30 น.วานนี้ ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือเหตุผู้ป่วยหมดสติ พื้นที่หมู่ 8 ต.เขาโร อำเภอทุ่งสง จึงรีบนำรถพยาบาลฉุกเฉินของมูลนิธิฯ ออกช่วยเหลือ ระหว่างทางเจอรถเก๋งคันหนึ่งขับชิดเลนขวา ซึ่งพยายามพูดผ่านเครื่องขยายเสียงเพื่อขอทางแล้ว แต่ก็ยังไม่หลบทางให้ จึงตัดสินใจหักพวงมาลัยหลบซ้ายเพื่อรีบไปรับผู้ป่วย เมื่อไปถึงผู้ป่วยก็อยู่ในสภาพหมดสติ จึงทำการปั๊มหัวใจระหว่างส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายไม่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้