สังคม

สาวร้อง ถูก ‘ฤาษีผ่อง’ แผงฤทธิ์! งัดอุบายตุ๋นเงิน 4แสน - ทองอีก 5หมื่น ทวงเป็นปียังไม่คืน

โดย JitrarutP

8 ก.ค. 2565

130 views

สาวร้อง ถูก “แม่ผ่อง” หรือ “ดร.ภคินี มหามุนีนพเก้า” อ้างเป็นฤๅษีหญิงตนแรกของไทย  หลอกเอาเงินจนหมดตัว ทวงมา 3 ปี ไม่มีวี่แววจะได้คืน ครอบครัวเดือดร้อนหนัก ขณะที่น้องชายของฤาษีเป็นอดีต สท. ท้าทายให้ไปแจ้งความ

ผู้สื่อข่าวที่ จ.ขอนแก่น ได้รับการร้องเรียน จากนางสาวกนกพร (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ระบุว่า เมื่อปี 2562 ช่วงที่ตนเรียนจบมหาวิทยาลัย ตนอยากหาที่สงบทำสมาธิ เพื่อจะได้มีสติออกหางานทำ จึงเดินทางไปสถานปฏิบัติธรรมพุทชยันตี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ บ้านโนนทอง ตำบลดอนหว่าน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม และได้พบกับแม่ผ่อง เจ้าของสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว และปฏิบัติตนเป็นฤาษี มีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยลูกศิษย์ต่างก็เรียกแม่ผ่อง ว่า แม่ย่า หรือ ย่าฤาษี มีชื่อเต็มว่า ฤาษี ดร.ภคินี มหามุนีนพเก้า และมักจะบอกลูกศิษย์ว่า ตัวเองเป็นผู้หญิงที่สละชีวิตเป็นนักบวช

นางสาวกนกพร บอกว่า ขณะอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรม ฤาษีมักจะบอกว่า ตนมีหน้าตาคล้ายกับฤๅษี คงเป็นบุญแต่ชาติปางก่อน จึงทำให้ได้เจอกันได้อยู่ด้วยกัน ฤๅษีจึงรับตนเป็นลูกรัก และช่วยงานในสำนักปฏิบัติธรรมเรื่อยมา

ต่อมาฤๅษีชวนให้ตนขับรถพาไปทำธุระข้างนอก ระหว่างทางฤๅษีได้คุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้ โดยเรียกว่าเจ้านายๆ ได้ยินเพียงว่าคุยกันเรื่องซื้อขายหอพัก จากนั้นฤาษี จึงหันมาถามตนว่า มีเงินในบัญชีมั้ย มีเท่าไหร่ จะยืมหมุนในบัญชีให้สรรพากรดู เพื่อจะเดินเรื่องซื้อขายหอพักไม่เกิน 3 วันจะคืนให้ จึงให้ฤาษียืมเงินครั้งแรกจำนวน 12,000 บาท ผ่านไป 3 วัน ก็ยังไม่ได้คืน

โดยอ้างว่า เจ้านายอยู่ต่างประเทศกำลังเดินทางกลับมาคุยเรื่องธุรกิจที่ประเทศไทย ถ้านายมาถึงก็จะคืนเงินให้ ต่อจากนั้นก็ยังยืมเงินอีกหลายครั้ง ซึ่งฤาษีก็จะอ้างว่า เจ้านายมาแล้วแต่ถูกยึดรถยนต์ ต้องเอาเงินไปประกันตัวออกมา ใช้เงินอีกเป็นแสน ตนก็ให้ยืมอีก 100,000 บาท จากนั้นก็มาบอกอีกว่า ต้องหาเงินอีก 50,000 ไถ่รถออกมาให้เจ้านาย ตนก็ให้ยืมไปอีก แต่ยังไม่ได้รถเพราะเงินไม่พอจ่าย ฤาษีก็ขอเอาทองที่ตนใส่อยู่ไปขายได้เงินมา 54,7000 บาท ฤาษีก็เอาไปทั้งหมด

ในปี 2563 ฤๅษียืมเงินไปประมาณ 20 ครั้ง รวมเป็นเงิน 480,000บาท ขายทองอีก 54,700 บาท ฤๅษีคืนเงินมา 40,000บาท แล้วยังมาขอยืมอีก แต่ตนไม่ให้ เพราะต้องเอาเงินมาจ่ายค่าช่างสร้างบ้านให้พ่อแม่ อีกทั้งทองก็หมดแล้ว เงินของพ่อแม่ที่เอาไว้สร้างบ้านและเก็บในบัญชีก็หมด ตัวเองก็ไม่สบาย ต้องนอนในโรงพยาบาล

และปลายปี 2563 จึงตัดสินใจออกจากสำนักปฏิบัติธรรมของฤๅษี โดยก่อนออกมาได้คุยเรื่องเงินที่ฤๅษีในเรื่องเงินที่ยืมไป ซึ่งเมื่อหักลบกันแล้วเหลือเงินที่ฤๅษียังค้างอยู่จำนวน 370,000บาท บวกกับที่เอาทองไปขายอีก 54,700 บาท ฤๅษีก็รับปากว่าจะใช้คืนให้ทั้งหมด แล้วตนก็กลับมาบอกความจริงกับพ่อแม่ ซึ่งพ่อแม่ก็บอกว่า จะปรึกษาญาติที่เป็นทนายความ และรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม ให้ทำการเรียกตัวฤๅษีมาพูดคุย และให้นำเงินที่คงค้างมาคืนทั้งหมด"

นางสาวกนกพร กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมา มีการทวงถามทุกวัน แต่ฤๅษีไม่อ่านไลน์ ไม่ตอบ เมื่อตอบก็จะพูดจาไม่ดี ระยะหลังโยนให้ไปคุยกับน้องชาย ที่เป็นอดีต สท. ซึ่งในครั้งแรกน้องชายไม่ขอรับรู้ ให้ฝ่ายตัวเองกับฤๅษีคุยกันเอง แต่ต่อมาน้องชายฤๅษีพูดจาไม่ดี และว่าให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเมื่อถูกฝ่ายฤๅษีกดดันและไม่สามารถพูดคุยกันดีดีได้ จึงต้องพึ่งกฎหมาย โดยให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และฝ่ายฤๅษีต้องนำเงินมาคืนให้ครบทุกบาทด้วย

สำหรับ ฤาษีภคินีมหามุนีนพเก้า เคยออกรายการโทรทัศน์ชื่อดังมาแล้วเมื่อปี 2556 ถือว่าเป็นฤๅษีหญิงตนแรกในประเทศไทยด้วย



คุณอาจสนใจ