สังคม

เปิดนาที ‘ด.ต.ท่องเที่ยว’ ถูกซ้อนแผนจับหลังเรียกเก็บส่วย ‘จเรฯ’ สั่งฟันโทษให้พ้นจากราชการไว้ก่อน

โดย JitrarutP

8 ก.ค. 2565

85 views

สตช.สั่งฟันโทษ “ดาบตำรวจท่องเที่ยว” ให้ออกจากราชการไว้ก่อน หลังตั้งทีมรีดเงินผู้ประกอบการ ก่อนโดนซ้อนแผนจนจับกุมตัวได้ จเรตำรวจฯ เผย ได้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงทันที โดยไม่ต้องรอสอบสวนข้อเท็จจริง  

จากรณีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกเข้าไปปิดล้อมรถเก๋ง 2 คัน โดยคันแรก เป็นรถสายตรวจของบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ขณะกำลังจะขับหนีออกจากลานจอดรถของห้างสรรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในย่านอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งภายในรถคันนี้ มีดาบตำรวจภูวเมศร์ หิรัญวงศ์วราดล ผู้บังคับหมู่ สังกัดตำรวจท่องเที่ยว อยู่ในรถ

โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการใช้ปืนจ่อไปที่รถสายตรวจ และ ตะโกนเจรจา เพื่อให้ดาบตำรวจภูวเมศร์ลงจากรถ และไม่ให้ต่อสู้หรือขัดขืนการจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ใช้เวลาเจรจาอยู่สักพัก ดาบตำรวจภูวเมศร์ จึงยอมให้ควบคุมตัว

ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการอีกชุด ได้เข้าสกัดจับรถยนต์สีบรอนซ์ทอง โดยมีนายมนัส เป็นผู้ขับขี่ และสามารถควบคุมตัวนายมนัสไว้ได้ ทั้งนี้จากการตรวจค้นภายในรถพบเงินสด 1 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินของกลางที่บุคคลกลุ่มนี้ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครอง ตระเวนเรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบการสถานบันเทิง ในอำเภอบางใหญ่จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว ทั้ง 2 คน ไปสอบปากคำเพิ่ม ที่ สภ.บางใหญ่

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครองสำนักการสืบสวนและนิติการกรมการปกครอง ในฐานะหัวหน้าชุดปฎิบัติการเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด มี 3 คน คือ นอกจากนายมนัส และ ดาบตำรวจภูวเมศร์แล้ว ยังมีนายแป๊ะ ผู้ร่วมขบวนการอีกหนึ่งคน ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี

สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหากลุ่มนี้ จะอ้างตัวเป็นชุดเฉพาะกิจของกรมการปกครอง แล้วโทรศัพท์ไปหาผู้ประกอบการสถานบันเทิง ทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล ขอเรียกเก็บค่าดูแล โดยจะเก็บเงินครั้งแรก 5 พันบาท เป็นค่าเปิดตั๋ว จากนั้นจะเก็บรายเดือนอีก 3,000 หรือ 4,000 บาท หากผู้ประกอบการรายไหนไม่ยอมจ่ายก็ข่มขู่ว่าจะเข้าจับกุม

เมื่อชุดปฏิบัติการได้รับข้อมูล จึงประสานกับผู้ประกอบการสถาบันเทิงรายหนึ่งซึ่งถูกรีดเงิน ให้ซ้อนแผนจับกุมชุดเฉพาะกิจเก๊กลุ่มนี้ โดยผู้ประกอบการได้โทรศัพท์นัดกับนายแป๊ะ เพื่อส่งมอบเงินจำนวน 1 แสนบาท ที่รวบรวมจากผู้กอบการในพื้นที่อำเภอบางใหญ่ โดยนัดมอบเงินให้ ที่ร้านมูนบาร์ตอน 1 ทุ่ม แต่นายแป๊ะขอเลื่อนเวลาเป็น 6 โมงเย็น และขอเปลี่ยนให้ไปเจอที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าย่านบางใหญ่

จนเมื่อถึงเวลานัด ปรากฎว่า นายแป๊ะไม่ได้มารับเงินด้วยตัวเอง แต่ให้ดาบนายมนัส และ ดาบตำรวจภูวเมศร์ มารับเงินแทน เมื่อผู้ประกอบการส่งมอบเงินให้นายมนัสแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ปรากฎว่าทั้งสองคนขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสกัดจับ

เบื้องต้น ดาบตำรวจภูวเมศร์อ้างว่า มารับเงินดังกล่าวจริงเพราะนายแป๊ะบอกให้มารับ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไร ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ดาบตำรวจภูวเมศร์จะให้การ แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานการกระทำผิดชัดเจน ทั้งนี้้ตนได้ประสานไปยัง สภ.บางใหญ่ เพื่อให้ดำเนินการออกหมายจับนายแป๊ะแล้ว และ เชื่อว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน ซึ่งจะเร่งสืบสวนต่อไป

พลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมกับสั่งการไปยัง พลตำรวจโทสุคุณ พรหมมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ให้ดำเนินการทางวินัยกับดาบตำรวจภูวเมศร์ และให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงทันที โดยไม่ต้องรอสอบสวนข้อเท็จจริง

พร้อมกับให้ดำเนินการทางวินัยกับผู้บังคับบัญชาของดาบตำรวจภูวเมศร์ ที่บกพร่องในการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงตรวจสอบรถสายตรวจที่นำมาใช้ก่อเหตุด้วยว่านำมาใช้ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่และใครที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ส่วนคดีอาญาได้กำชับให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ลงไปกำกับดูแลการสอบสวนคดีนี้อย่างรัดกุม รวดเร็วและเป็นธรรม เพื่อให้สังคมเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่ปกป้องตำรวจที่กระทำผิด



คุณอาจสนใจ