สังคม

ช็อกรอบสอง! ค้นสำนักพระบิดา พบสินค้าขึ้นรา-ปลาร้ามีหนอน ส่งขาย สสจ.เก็บตรวจสอบ

โดย thichaphat_d

11 พ.ค. 2565

188 views

สสจ.ชัยภูมิ เร่งตรวจสอบเก็บสินค้าจากสำนักพระบิดาโจเซฟออกจากตลาด พร้อมส่งตัวอย่างไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ หลังเจอภาพสุดช็อก กองทัพหนอนในลังบ่มปลาร้า และของแห้งอุดมไปด้วยเชื้อรา

กรณีนายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ตำรวจ และ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เข้าตรวจค้นในสำนักของนายทวี หรือ พระบิดาโจเซฟ อ้างตัวเป็นพระบิดาสูงสุดแห่งจักรวาล ที่ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล

ขณะที่ลูกศิษย์ สาวกที่นี่ ก็ความเชื่อที่ไม่ถูกสุขลักษณะ นำไปสู่การแพร่ระบาดโรค จึงต้องมีคำสั่งห้ามผู้คนอาศัยที่นี่ โดยจำเป็นจะต้องย้ายผู้คนออกไปตรวจโรค และรักษา จากนั้นเจ้าหน้าที่จะเข้ามาทำความสะอาด กำจัดเชื้อโรค

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นในสำนักก็ต้องช็อกอีกครั้ง เมื่อพบโรงงานผลิตอาหารมีหยากไย่เต็มไปหมด โดยขนมที่ผลิตไว้จำนวนมาก นำมาแขวน และวางเรียงรายเต็มพื้นที่ อาหารหลายชิ้นมีราขึ้นเต็ม

เมื่อรองผู้ว่าราชการจังหวัด เดินไปพบจุดผลิตปลาร้า แจ่วบอง ถึงกับผงะช็อกซ้ำสอง เพราะเมื่อเปิดลังบ่มน้ำปลาร้า นอกจากกลิ่นจะพุ่งทะลุแมสก์แล้ว ยังเจอหนอนไต่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด สร้างความตกตะลึงให้กับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจ เพราะสภาพของเหล่านี้ นำมาทำของขายให้ชาวบ้าน ทำเป็นปลาร้าบอง ยี่ห้อ "แซ่บหลาย" ซึ่งผลิตจากโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีเลขที่ อย. และยังส่งออกไปขายตามท้องที่ต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละวันจะมีพ่อค้ารถเร่เข้ามารับซื้อถึงที่

นอกจากนี้ยังตรวจพบหัวเลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนชนิดหนึ่ง พบว่า นำมาทำเป็นน้ำมันเลียงผา หลังจากนี้ต้องตรวจสอบต่อเรื่องการครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ยอมรับว่า การนำหมายค้นมาครั้งนี้ พบสิ่งผิดกฎหมายหลายรายการ ซึ่งเก็บไว้เป็นหลักฐานทั้งหมดแล้ว เพื่อไว้มัดตัวผู้กระทำความผิด

ด้านนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เผยว่า ได้เก็บผลิตภัณฑ์ของที่นี่ออกจากตลาดแล้ว พร้อมส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากสำนักพระบิดาโจเซฟ 7-8 รายการ ส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์นครราชสีมา โดยยังไม่ทราบว่าจะรู้ผลตรวจเมื่อใด เบื้องต้นพบว่า เป็นอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวไปสำรวจพื้นที่บริเวณสำนักเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่า บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา เพราะลูกศิษย์ทยอยขนย้ายข้าวของออกจากสำนักไปแล้ว ประมาณ 20 ราย

ด้านนายสมบูรณ์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านบ้านโคกนกกระทา ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร หนึ่งในสาวกของพระบิดาโจเซฟ บอกว่า พื้นที่ของสำนักที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุก ก่อนหน้านี้ประมาณ 30-40 ปีก่อน เคยเป็นป่ารกร้างว่างเปล่าและเสื่อมโทรม แต่เมื่อพระบิดาเข้ามาพำนัก ก็ช่วยดูแลผืนป่าไม่ให้มีการบุกรุก จากนั้นก็เริ่มมีชาวบ้านเข้ามา เพราะศรัทธาในการปฏิบัติตนของพระบิดา

และยังแนะนำอาชีพเรื่องการกินอยู่แบบพอเพียงให้ เช่น เลี้ยงปลาในกระชังบก เลี้ยงกบ เลี้ยงไก่ ปลูกพืชผักเอาไว้รับประทาน โดยไม่ต้องซื้อหา ตลอดจนตั้งกลุ่มผลิตสินค้าในสำนักพระบิดา บรรจุแพ็กกิ้งอย่างสวยงาม ส่งขายทั้งออนไลน์ และมีพ่อค้าเร่เข้ามารับไปขายต่อตามอำเภอต่างๆ

นอกจากนี้ยังได้เลี้ยงวัวแบบฟาร์มปิด ซึ่งวัวก็ได้รับมาจากการบริจาคของผู้ที่มีความศรัทธาเลื่อมใส ตนในฐานะอยู่ในกลุ่มผู้เลี้ยงวัว ยอมรับว่า ศรัทธาในคำสอนและคำแนะนำของพระบิดา แต่ไม่เคยได้ดื่มกินฉี่เหมือนคนอื่น ส่วนวัวที่นำมาเลี้ยงนี้สามารถขยายพันธุ์และขายทางออนไลน์ ไปแล้วประมาณ 2 รุ่น รวมประมาณ 20 ตัว โดยขายในราคา ตัวละ 30,000 บาท รายได้จากการขายวัวก็นำมาเป็นเงินกองกลาง ใช้ในการบริหารจัดการชุมชนของตนเอง

ยังยืนยันว่า พระบิดาไม่ได้บุกรุกพื้นที่ เพราะได้ขออนุญาตจากกำนัน และผู้ใหญ่บ้านอย่างถูกต้อง และไม่ใช่สถานที่ปิด ส่วนราชการ บุคคลภายนอก สามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา หากภาครัฐขับไล่ ตนก็พร้อมที่จะกลับออกไปอาศัยอยู่บ้านเดิม ซึ่งตนอยู่ที่นี่มานานจนมีความผูกพันกับพื้นที่แห่งนี้ รู้สึกใจหายทุกครั้งที่เห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาเดินสำรวจ และบอกให้ต้นเตรียมย้ายกลับภูมิลำเนา

คุณอาจสนใจ