สังคม

ตร.เผยรู้ตัวผู้ครอบครองซาก BMW ฝังสวนปาล์ม คาดฝีมือแก๊งชำแหละรถ

โดย sujira_s

2 ก.พ. 2565

27 views

ตำรวจรู้ชื่อผู้ครอบครองซากรถ BMW ปริศนาที่ถูกนำมาฝังในสวนปาล์มแล้ว คาดเป็นฝีมือแก๊งชำแหละรถนำมาอำพราง ด้านชาวบ้านโล่งใจ หลังตรวจสอบไม่มีศพอยู่ในรถ


เมื่อวานนี้ เวลา 17.00 น. พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้รับรายงานด่วนว่า พบซากรถรถยนต์BMWสีดำ รุ่น e 46 หมายเลข ตัวถัง JA 71007 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ถูกนำมาฝังดินอยู่ในสวนปาล์มของชาวบ้านคนหนึ่ง ที่หมู่บ้านบางนก-วัก ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช


เดินทางไปตรวจสอบทันที เนื่องจากเกรงว่า จะเกิดเหตุฆาตกรรมฝังดินหรือไม่ พร้อมแจ้งตำรวจพิสูจน์หลักฐานฯ มาร่วมตรวจสอบในเบื้องต้นด้วย โดยตำรวจติดต่อใช้รถแม็คโครขุดรถขึ้นมาด้วยความระมัด ใช้เวลานานประมาณ 3 ชม.เศษ จึงสามารถนำซากรถขึ้นมาได้สำเร็จ เบื้องต้นไม่พบศพตามที่ชาวบ้านวิตกตั้งแต่ต้น


หลังจากนั้นเจ้าหน้าได้นำอุปกรณ์เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐาน พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายซากรถคันนี้ไปยัง สภ.เฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบในจุดพบรถได้ เพราะไม่มีแสงสว่างเพียงพอ


ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ให้ข้อมูลเชิงลึกว่า สวนปาล์มดังกล่าวเป็นของผู้นำท้องที่รายหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ไปติดตามเพื่อสอบหาข้อมูลที่ไปที่มาของรถคันนี้ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับสวนปาล์มว่ามีใครดูแล รวมทั้งที่มาของรถ


ส่วนในพื้นที่นั้นเจ้าหน้าที่กำลังติดตามข้อมูลกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีข้อมูลในพื้นที่ว่าเป็นแก๊งชำแหละรถ ส่วนเก๋งคันนี้สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นรถที่อาจหนีไฟแนนซ์ หรืออาจเป็นรถที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายมาชำแหละชิ้นส่วน แล้วนำซากที่เหลือฝังทำหลายหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ต้องรอการตรวจสอบที่สำคัญ คือเลขตัวถัง เลขแชสซี เลขเครื่องยนต์ และเลขทะเบียน ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ


และเมื่อเช้านี้ ผู้สื่อข่าว เดินทางไปติดตามความคืบหน้า พบว่ามีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจสอบรถอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ตอนนี้ต้องเอาน้ำมาฉีดล้างรถก่อน เพราะมีดินติดอยู่จำนวนมาก


ส่วนประวัติผู้ครอบครองรถพบคนล่าสุด ชื่อ นายมิเชล อายุ 52 ปี สัญชาติอเมริกัน ทำให้ชุดสืบสวนเดินทางไปที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในภูเก็ต ซึ่งนายมิเชลเคยพักอาศัย แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่แล้ว และในอดีตเคยเห็นขับรถเก๋งคันดังกล่าว


โดยพบนายมิเชล เดินทางออกจากประเทศไทย ผ่านทางด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ปี 2555 ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงประสานงานกับตำรวจสากล ติดตามนายมิเชล เพื่อขอข้อมูลว่าหลังจากการครอบครองรถเก๋งคันดังกล่าวแล้วให้บุคคลใดครอบครองต่อ เพื่อนำข้อมูลมาสืบสวนสอบสวนขยายผลคลี่คลายคดี

คุณอาจสนใจ

Related News