สังคม

หมอขอโทษ เจตนาบริสุทธิ์ฉีดไฟเซอร์เหลือให้ แม่-พี่สาว ยันไม่ออก ขอสู้กับความจริงเพื่อ ปชช.

โดย nicharee_m

18 ส.ค. 2564

140 views

ปิดใจ"หมอกุ๊บกิ๊บ" ที่เป็นข่าวฉาวพาแม่ และพี่สาวมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ยืนยันไม่ขอลาออกจะสู้กับความจริงเพื่อประชาชน พร้อมเล่ารายละเอียดข้อเท็จจริงในเรื่องนี้


จากกรณีกล้องวงจรปิด เผยภาพขณะที่แพทย์หญิงของโรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช กำลังยืนกำกับเจ้าหน้าที่ให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ให้กับ แม่ และพี่สาว จนมีการสอบสวนพบว่า ในวันนั้นทางโรงพยาบาลได้เบิกจ่ายวัคซีน 11 ขวด และคนที่จะได้รับวัคซีนเป็นบุคลากรด่านหน้า 66 คน โดยวัคซีนไฟเซอร์ 1 ขวด จะฉีดให้ได้ 6 คน แต่มีเทคนิค คือแต่ละขวดหากใช้วิธีการ Low Dead Space Syringe จะดึงวัคซีนฉีดได้ถึง 7 คน ซึ่งโดยปกติแต่ละขวดนั้นจะฉีดให้ 6 คน หรือ 6 โด๊สเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะทิ้ง


แต่แพทย์หญิงในคลิปได้ให้พี่สาว ได้รับส่วนที่เหลือ ส่วนแม่ได้รับวัคซีนจากขวดที่ได้แค่ 6 โดส และแม่ พี่สาวที่เข้ามาฉีดไม่มีใบเซ็นยินยอมรับวัคซีน ไม่มีสติกเกอร์ Lot Vaccine และไม่มีการส่งเอกสารเข้าระบบ แต่ตรวจสอบได้ว่า เป็นคนที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์


ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความอึดอัดให้แก่เจ้าหน้าที่ จนต้องรายงานให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทราบ และแพทย์หญิงในคลิปได้ยื่นขอลาออก จากตำแหน่งแพทย์ปฏิบัติการของโรงพยาบาลนบพิตำ


ต่อมา นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกมาบอกว่า การรับวัคซีนไฟเซอร์จะต้องเป็นแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าเท่านั้น หากผิดไปจากนี้ คนที่เกี่ยวข้องจะถูกลงโทษทางวินัย ซึ่งในส่วนของโรงพยาบาลนบพิตำ ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามขั้นตอนแล้ว ส่วนแพทย์หญิงคนดังกล่าวจะลาออกนั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นเอกสาร ตอนนี้ขอตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน


ขณะที่ แพทย์หญิงกฤตยาณี พูลเพียร หรือ "หมอกุ๊บกิ๊บ" อายุ 27 ปี แพทย์ประจำ โรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช แพทย์หญิงที่ตกเป็นข่าวฉาว ล่าสุดออกมาเปิดใจกรณีนำวัคซีนเหลือก้นขวดที่ถูกทิ้งโดยเปล่าประโยชน์มาฉีดให้พี่สาว โดยยังไม่ได้ฉีดให้แม่ จนถูกโซเชียลวิพากวิจารณ์ พร้อมกับหลั่งน้ำตา ยกมือไหว้ขอโทษประชาชนที่คิดน้อยไปหน่อย ไม่คิดว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอ่อนไหว ยอมรับน้อยใจว่า หมอทำงานสุ่มเสี่ยงตรงนี้มาต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถเอาวัคซีนก้อนขวดที่จะทิ้ง มาฉีดให้แม่กับพี่สาวเพื่อให้เขาปลอดภัยได้ เพราะทุกวันนี้หมอมาทำงานที่โรงพยาบาลคลุกคลีกับผู้ป่วย รวมทั้งคนที่ติดเชื้อ กลับบ้านก็ต้องไปนอนกับแม่ พี่สาว ที่ผ่านมาหมอเป็นคนเสี่ยง ต้องทำงานอยู่ด่านหน้า แต่ไม่สามารถปกป้องคนในครอบครัวได้ นี่คือความเห็นแก่ตัวของหมอ


หมอกุ๊บกิ๊บยังบอกว่า ตอนนี้มีคนเข้ามาให้กำลังใจ จำนวนมาก บางคนเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากขึ้น ทำให้เธอตัดสินใจจะสู้ต่อไปไม่ลาออกอีกแล้ว จะสู้ความจริงเพื่อประชาชน และคนไข้ชาวนบพิตำต่อไป ประกอบกับมีผู้หลักผู้ใหญ่โดยเฉพาะนายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โทรมาขอร้องและให้กำลังใจ ขอให้ช่วยสู้กับโควิดต่อไป ตนจึงไม่ขอลาออกอีกแล้ว จะขอตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด


ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะหมอรายนี้คิดไม่ละเอียดในเรื่องที่อ่อนไหว และความผิดพลาดไม่น่าจะถึงกับต้องลาออก เพราะบุคลากรทางการแพทย์ไม่ใช่หาได้ง่ายๆ โดยเฉพาะในยามวิกฤติเช่นนี้ จึงโทรไปให้กำลังใจ และขอให้เปลี่ยนใจกลับมาต่อสู่ช่วยเหลือประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิดไปให้ได้

คุณอาจสนใจ

Related News