จับหนุ่มลักรถตามคาร์แคร์ อ้างไม่ได้ขโมย แค่จะไปขับเล่น เช็คประวัติเพิ่งพ้นโทษไม่กี่ปี

ภาพวงจรปิดบนถนนนาวงประชาพัฒนา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ที่บันทึกภาพนายชัยณรงค์ กระจ่างใจ อายุ 38 ปี คนร้ายก่อเหตุลักรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาลิส สีขาว ของบริษัททำระบบรถไฟฟ้า ที่จอดไว้ลานจอดรถหลังอาคารพานิชน์ 3 คูหา ของบริษัทย่านดอนเมือง โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21:30 นาฬิกา ของวันที่ 7 พฤษภาคมผ่านมา

นอกจากนี้คนร้ายยังขโมยโน้ตบุ๊ก จำนวน 1 เครื่อง, ฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลกล้องวงจรปิด จำนวน 1 ตัว และจอมอนิเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง

ตำรวจได้ไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายได้ขับรถหลบหนี ก่อนจะเข้าจับกุมนายชัยณรงค์ได้ หลังนำรถคันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้ที่วัดแห่งหนึ่ง ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา

นายชัยณรงค์ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง วันเกิดเหตุได้เดินผ่านมาที่อาคารพาณิชย์ดังกล่าว ที่ก่อนหน้านี้เจ้าของตึกได้ปล่อยเป็นบ้านเช่าและอู่ซ่อมรถ ซึ่งตนเองเคยอาศัยอยู่กับญาติ โดยบังเอิญเห็นประตูรั้วเปิดอยู่ จึงเดินสำรวจโดยรอบ เเละเห็นกุญเเจรถแขวนไว้ใกล้กับรถที่จอดอยู่ ก่อนจะหยิบมาลองไขประตูรถ และเตรียมจะขับหนี แต่ในจังหวะนั้นเห็นกล้องวงจรปิด ซึ่งเกรงว่าจะเก็บภาพตัวเองได้ จึงตัดสินใจขโมยเซิร์ฟเวอร์ ขึ้นรถขับออกมาทันที โดยอ้างว่าตัวเองไม่มีเจตนาขโมยรถไปขาย เพียงต้องการนำไปขับเล่นเท่านั้น ก่อนจะมาถูกจับกุมดังกล่าว

พร้อมยืนยันว่าตัวเองเพิ่งจะก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงคดีเก่าที่นายชัยณรงค์ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันเมื่อปี 2559 ผู้ต้องหารายนี้ก็รับว่าเป็นตนเองและต้องโทษจำคุกมาแล้ว 4 ปี

พันตำรวจโทอดิเรก ทองแกมแก้ว รองผู้กำกับสืบสวน สน.ดอนเมือง ระบุว่า จากการสืบสวนไม่ปักใจเชื่อคำให้การที่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่มีเจตนานำรถไปขาย เพราะจากพฤติการณ์ของคนร้ายที่นำรถโตโยต้า ยาริส ไปจอดที่ลานจอดวัดย่านปากเกร็ด ก่อนจะนั่งรถเเท็กซี่ไปที่อื่น

ซึ่งคาดว่าช่วงเวลานั้นคนร้ายน่าจะอยู่ระหว่างติดต่อซื้อขายกับลูกค้า เพราะหากเป็นการนำรถไปใช้ขับเที่ยวเล่นตามคำอ้างคนร้าย ก็น่าจะอยู่กับรถตลอดเวลา ไม่น่าจะจอดทิ้งไว้

ประกอบกับ เมื่อตรวจสอบประวัตินายชัยณรงค์ ผู้ต้องหา พบเคยถูกจับในข้อหาร่วมกันขโมยรถยนต์ พื้นที่ สภ.ปากเกร็ด ปี2556-2557 ระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดปทุมธานี ถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำจับกุมได้ ขณะพยายามนำโทรศัพท์มือถือที่เพื่อนเอามาให้เข้าไปในเรือนจำ ซึ่งเพื่อนก็ถูกตามจับกุมไปด้วย

เมื่อพ้นโทษปี 2559 กลับมาก่อเหตุและถูกจับกุมข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน (รถยนต์) พื้นที่ สน.ดอนเมือง และพ้นโทษออกมาประมาณปลายปี 63 ก่อนกลับมาก่อเหตุอีกครั้งจนถูกตามจับกุม

ขณะที่ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า บริษัทตัวเองมาเช่าที่อาคารพาณิชย์ได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งรถยนต์ที่ถูกขโมยไปเป็นรถที่ใช้ส่วนกลางของบริษัท จึงนำกุญเเจมาเเขวนในจุดที่สามารถหยิบใช้ได้ง่าย ภายหลังมาพบว่ารถหายไปก็จะไปตรวจสอบวงจรปิดภายในบริษัท เเต่ตัวเซิร์ฟเวอร์กลับหายไป จึงไปขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียง จนพบภาพขณะคนร้ายขับออกไป นำส่งให้ตำรวจติดตามตัว ซึ่งเมื่อแจ้งความแล้วตำรวจก็เร่งดำเนินการจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป